การปรับคณะรัฐมนตรี “เศรษฐา 1/1” กว่าจะเบ็ดเสร็จ สะเด็ดน้ำ  ทำเอา “กองเชียร์” ของ “พรรคเพื่อไทย” ใจคว่ำใจหงาย  เพราะเกิดอาการ สะดุด มีแรงกระเพื่อมผุดขึ้นมาระลอกใหญ่ เมื่อ “ปานปรีย์ พหิทธานุกร” ยื่นหนังสือลาออกจากทุกตำแหน่ง ในวันเดียวกันกับที่มีการประกาศโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ให้ปานปรีย์  นั่งในตำแหน่ง “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ” เพียงตำแหน่งเดียว ส่วน “รองนายกฯ” ที่เคยมีนั้นถูกริบคืน

กว่าที่ว่า สถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ เมื่อ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี ได้นำชื่อ “มาริษ เสงี่ยมพงษ์” อดีตที่ปรึกษารมว.ต่างประเทศ (ปานปรีย์ ) ขึ้นทูลเกล้าฯ และได้รับการโปรดเกล้าฯ เมื่อวันที่ 1 พ.ค.67 ในตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แทนปานปรีย์ ต้องยอมรับว่า สิ่งที่เกิดขึ้น สร้างแรงกดดันต่อทั้งพรรคเพื่อไทย ตัวนายกฯเศรษฐา ไปจนถึง “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ กันถ้วนหน้า

ในความเป็นจริงแล้ว ชื่อ มาริษนั้นเป็นไปตามสเปคที่นายกฯเศรษฐา ระบุเอาไว้แล้วว่า ได้ทาบทามผู้ที่จะมาทำหน้าที่รมว.ต่างประเทศ คนใหม่แล้ว ซึ่งอยู่ในแวดวงการทูต และเคยทำงานอยู่เบื้องหลังพรรคเพื่อไทย มาโดยตลอด

เนื่องจาก เมื่อกลับไปดู ประวัติความเป็นมา ของมาริษ แล้วปฏิเสธไม่ได้ว่า  มีดีกรีเป็นอดีตนักการทูต มาก่อน และที่สำคัญไปกว่านั้นยังมีความคุ้นเคย ทำงานร่วมกับ “ทักษิณ”  และ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อดีตนายกฯ มาแล้ว

และเมื่อวันที่มาริษ เข้าทำเนียบฯ พบ นายกฯเศรษฐา เมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้แสดงความเชื่อมั่นว่า แม้จะไม่ได้ควบตำแหน่ง “รองนายกฯ” เช่นเดียวกับ ปานปรีย์ ก็สามารถทำหน้าที่ได้โดยไม่มีปัญหา เนื่องจากเป็น “ลูกหม้อ” ของกระทรวงการต่างประเทศอยู่แล้ว  แต่เจ้าตัวปฏิเสธที่จะตอบคำถามสื่อกรณีมีความสนิทสนมกับอดีตนายกฯทักษิณ

สำหรับ มาริษ ปัจจุบันอายุ 66 ปี  มีชื่อเล่นว่า ปู ทำให้หลายคนเรียกว่า "ท่านทูตปู" เคยดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำเครือรัฐออสเตรเลีย เป็นเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำสาธารณรัฐฟิจิ เป็นเอกอัครราชทูตกรุงกาฐมาณฑุ สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล และเป็นเอกอัครราชทูตไทยประจำ กรุงออตตาวา ประเทศแคนาดา

ปัจจุบัน ได้เกษียณอายุราชการในตำแหน่งอดีตเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงออตตาวา ประเทศแคนาดา และหลังจากที่เกษียณอายุราชการ ได้เข้ามาช่วยงานการเมืองที่พรรคเพื่อไทย

ในสมัยรัฐบาล "น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ได้แต่งตั้ง มาริษ ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตฯ สาธารณรัฐวานูอาตู  

อีกทั้ง มาริษ ยังเคยทำงานทั้งกรมองค์การระหว่างประเทศ กรมสารนิเทศ กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ และเป็นข้าราชการที่ส่งไปประจำ ทำเนียบรัฐบาล สมัยทักษิณ เป็นนายกฯ คนที่ 23 มาแล้ว