ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.30 น.ของฃวันที่ 3 พฤษภาคม 2567 คณะกรรมการบริหารจัดการกว๊านพะเยาอย่างยั่งยืน ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและแก่เหมืองฝาย ( ผู้ดูแล-รับผิดชอบ )  2 อำเภอ 14 ผายในเขตอำเภอภูกามยาวและอำเภอดอกคำใต้  ได้ประชุมเพื่อพิจารณาปล่อยน้ำในกว๊านพะเยา ช่วยเหลือเกษตรกร เนื่องจากประสบปัญหาจากภัยแล้งน้ำแห้งขอด พืชผลเสียหาย สัตว์เลี้ยงไม่มีน้ำดื่ม

นายปาโมกข์ ปิงเมือง ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพะเยา เปิดเผยว่า หลังจากที่ทางกลุ่มผู้ใช้น้ำลุ่มน้ำอิง 14 ฝาย ได้ทำเรื่องขอให้ปล่อยน้ำจากกว๊านพะเยาลงมาช่วยเกษตรกร เนื่องจากลำน้ำอิงตั้งแต่ฝายลูกที่2 ในเขต อำเภอดอกคำใต้ จนถึงฝายลูกที่ 14 ในอำเภอภูกามยาว จังหวัดพะเยา ทั้งหมดแห้งขอด จนบางจุดดินท้องน้ำแตกระแหง  พืชผลได้รับความเสียหาย สัตว์เลี้ยงก็ไม่มีน้ำดื่ม และสิ่งที่นย่าเป็นห่วงคือระบบนิเวศน์ของลำน้ำอิงจะถูกทำลาย จึงต้องมีการประชุมทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อหาทางช่วยและหาข้อสรุปในการช่วยเหลือโดยทันที

นายปาโมกข์ กล่าวต่อว่า จากการเช็คระดับน้ำในกว๊านพะเยา เมื่อวันที่ 30 เมษายน ที่ผ่านมา พบว่ามีน้ำอยู่ที่28.089ล้าน ลบ.ม. และระดับน้ำในกว๊านพะเยาที่จะต้องรักษาไว้ไม่น้อยกว่า 23.27ล้าน ลบ.ม. จึงเหลือน้ำที่จะให้การช่วยเหลือเกษตรกรได้4.819ล้าน ลบ.ม. ในที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ปล่อยน้ำกว๊านไปช่วยเหลือเกษตรกรลุ่มน้ำอิง 14 ฝาย จำนวน 3-5 ล้าน ลบ.ม. และจะได้น้ำจากอ่างเก็บน้ำแม่ต๋ำและแหล่งน้ำใกล้เคียงเข้ามาเติมกว๊านพะเยาให้มีปริมาณเท่าเดิม เพื่อรอฝนตามฤดูกาล โดยจะปล่อยน้ำให้เกษตรกรในวันที่พรุ่งนี้ ( 4 พฤษภาคม 2567 ) เวลา 09.00น. ที่ประตูน้ำในศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด จังหวัดพะเยา

ด้านนายชุมพล ลีลานนท์  ผอ.สภาประชาชน จ.พะเยา เสนอให้มีการทำ MOu.ส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด หาทางเพื่อไม่ให้ลำน้ำอิงแห้งขอดเหมือนปีที่ผ่านๆมา เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อเกษตรกรลุ่มน้ำอิง สัตว์เลี้ยงและระบบนิเวศน์ในลำน้ำอิง ซึ่งในที่ประชุมเห็นพ้อง ก่อยที่จะสิ้นสุดการประชุม 

​​​​​​​