กรณีมีชายฉกรรจ์ 3 คน บุกเข้าไปในโรงแรมแห่งหนึ่งภายในซอยประชาสงเคราะห์ 2 หรือซอยสุทธิพร แขวงดินแดง เขตดินแดง เพื่ออุ้มชาวจีน 5 รายออกจากห้องพักโดยสมอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนจะรีดไถเงินจำนวน 65,000 USDT หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 2,500,000 บาท 
.
เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พล.ต.ท. ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สั่งการ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 เร่งรัดติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการนี้ทั้งหมดให้ได้โดยเร็ว 
.
ล่าสุดตำรวจชุดสืบสวนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้อีก 1 ราย คือ น.ส.จารุเนรต (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ร่วมกันกรรโชกทรัพย์, ร่วมกันแสดงตนเป็นเจ้าพนักงาน และกระทำการเป็นเจ้าพนักงานฯ, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขัง หรือกระทำด้วยประการใด ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย, ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือยอมจำนนต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สิน 
.
โดย น.ส.จารุเนตร เป็นหนึ่งในกลุ่ม ชาวลาว ที่ ได้รับการติดต่อให้มาพบกลุ่มผู้เสียหาย จากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การว่า ยอมรับว่า ตนเป็นลูกน้องของ “จ่าแจ็ค” ซึ่งหลังจากได้รับการติดต่อจากกลุ่มผู้เสียหายชาวจีน จะทำการเตรียมเครื่องรูดบัตรเพื่อไปพบกลุ่มผู้เสียหาย ก่อนได้แจ้งให้ “จ่าแจ็ค” ทราบ และมีการวางแผนในการก่อเหตุ โดยบอกตนเองว่าจะได้ค่าตอบแทนที่สูงจึงตัดสินใจร่วมกระบวนการดังกล่าว 
.
พฤติการณ์คือ น.ส.จารุเนตร จะถูกทำทีถูกจับตัวเช่นเดียวกันเพื่อให้กลุ่มผู้เสียหายหลงเชื่อ โดยขึ้นรถคันที่ ส.ต.อ.ภูวเดช เป็นผู้ขับขี่ เมื่อได้เงินจากผู้เสียหายแล้ว “จ่าแจ๊ค” จะสั่งให้แยกออกไปรอที่รร.แห่งหนึ่งใน ซ.วิภาวดี 60 ร่วมกับนายนภสินธุ์ และ ส.ต.อ.ภูวเดช ต่อมาหลังร่วมกันก่อเหตุสำเร็จ น.ส.จารุเนตร ได้รับโอนเงินเข้ามาในบัญชี 350,000 บาท จากนั้นได้โอนต่อให้นายนภสินธุ์ ไป 40,000 บาท