เศรษฐาเดินสายอีสาน พบพี่น้องชาวร้อยเอ็ด พระอาจารย์ต้อมมอบพระเครื่อง เสาร์ 5 ร้ายกลับดี รับปากเร่งแก้ปัญหาน้ำท่วม ยาเสพติด ขณะชาวบ้านเชียร์ให้นั่งนายกฯ 2 สมัย ปชป.ค้านหัวชนฝา แก้กม.ลดอิสระแบงก์ชาติ ลั่นทำประเทศเสียหาย ท้ารัฐบาลปลดผู้ว่าฯ ธปท. 

     ที่ จ.ร้อยเอ็ด เมื่อวันที่ 6 พ.ค.67 เวลา 09.45 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางติดตามการขยายเขื่อนป้องกันตลิ่งและผนังกั้นน้ำ ที่วัดท่าสะแบง ต.มะบ้า อ.เสลภูมิ  โดยมี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม ,นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข, น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ,นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม ,นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง และ นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย ร่วมคณะด้วย
   

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อ นายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึง ได้กราบนมัสการ พระครูปลัดสุขวัฒน์ ปภสฺสโร (พระอาจารย์ต้อม) เจ้าอาวาส พร้อมสนทนาธรรม โดย นายเศรษฐา กล่าวแนะนำ น.ส.จิราพรหรือรัฐมนตรีน้ำเป็นคนร้อยเอ็ด เป็นรัฐมนตรีป้ายแดง จากนั้นเจ้าอาวาสถามนายเศรษฐาว่า สบายดีหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า สบายดี พี่น้องเดือดร้อนเราก็ต้องมาดูแล เรื่องน้ำไม่พอ มีปัญหายาเสพติด ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่มาก วันนี้ รมว.สาธารณสุขก็มาช่วงเช้านั่งคุยกันอยู่เรื่องยาเสพติด บางคนมีลูกคนเดียวไปติดยาเสพติด น่าเสียดาย เพราะจ.ร้อยเอ็ดมีศักยภาพสูงมาก มีทั้งแหล่งท่องเที่ยว มีประชาชนที่ทำมาหากิน แหล่งเกษตรที่ดีมากศักยภาพสูง แต่การพัฒนาประเทศยังไปไม่ได้ ถ้าประชาชนมีปัญหาเรื่องยาเสพติดโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ และวันนี้มีเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดมาด้วย และใกล้วันยาเสพติดโลก 26 มิถุนายนด้วย ทั้งนี้จะลงพื้นที่อีสานอีกครั้ง เวลาเดือนครึ่งจากนี้ต้องมีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน
 

   วันนี้ความเดือดร้อนทางด้านราคาพืชผลบรรเทาลงเพราะราคาข้าวดีขึ้น ราคามันสําปะหลังสูงสุดในรอบ 10-20 ปี อ้อยก็ราคาดีมาก ยางพาราราคาก็ดีขึ้น อะไรที่ดีอยู่แล้วก็จะพยายามทำให้ดีขึ้น มุ่งเน้นในเรื่องปัญหาที่จะทำให้ดี พี่น้องประชาชนเดือดร้อนก็ต้องแก้ทุกมิติ บรรเทาทุกข์ และจะดูเรื่องบังคับใช้กฎหมายและดูด้านจิตใจ เอาสถาบันครอบครัวเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหายาเสพติด ฝ่ายความมั่นคง ทหารมีพื้นที่เยอะอาจจะไปช่วยดูแล ซึ่งต้องทำทุกมิติ และวันนี้ รมว.คมนาคมมาด้วยก็จะดูแลเรื่องของถนน เส้นทางคมนาคม
   

 ด้าน เจ้าอาวาส ได้ฝากในเรื่องของการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่จ.ร้อยเอ็ด โดยเฉพาะเรื่องของผนังกั้นน้ำ ท่วมทุกปี เนื่องจากเป็นพื้นที่ติดแม่น้ำชี ซึ่ง นายกฯ ได้มอบหมายให้นายเกรียงเข้ามาช่วยดูแล เช่นเดียวกับพื้นที่จ.อุบลราชธานีที่เคยท่วม และในตอนหลังก็ไม่ท่วม ใกล้ๆ ฤดูน้ำหลาก คงจะต้องไปพูดคุยร่วมกับกรมชลประทาน เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ภาคอีสาน เพราะเมื่อน้ำท่วมพืชไร่ก็เสียหาย 
 

   นายเศรษฐา ยังกล่าวว่า ไม่ได้เดินทางแต่ในประเทศ แต่เดินทางต่างประเทศด้วย โดยกลับไปนี้ก็จะเดินทางไปยุโรป โดย เจ้าอาวาสได้ให้พรให้นายกฯ มีสุขภาพที่แข็งแรง ประสบความสำเร็จ เนื่องจากเป็นห่วงนายกฯ งานหนักและเดินทางบ่อย จากนั้นเจ้าอาวาสได้มอบพระเครื่องเสาร์ 5 ร้าย กลับดี ดียิ่งเจริญ จัดทำโดยกรรมการพิเศษของวัด 1 ชุด ประกอบด้วย 3 องค์ ซึ่งผ่านการทำพิธีที่มาจากมวลสารมงคลทั่วประเทศ พร้อมกับเลสข้อมือเลื่อนสมณศักดิ์ รุ่นแรกของพระอาจารย์ต้อม ให้นายกฯ ด้วย จากนั้น นายเศรษฐา ได้สักการะพ่อปู่พญาศรีสุวรรณนาคาธิบดี และรับฟังบรรยายสรุปการขยายเขื่อนป้องกันตลิ่งและผนังกั้นน้ำ และมาพบประชาชนชาวร้อยเอ็ดที่มารอต้อนรับ โดยประชาชนได้ขอให้นายเศรษฐาได้เป็นนายกฯ 2 สมัย
   

 โดย นายเศรษฐา กล่าวกับประชาชนว่า วันนี้มาจ.ร้อยเอ็ดครั้งที่ 4 มาพร้อมกับส.ส. มีรัฐมนตรีผู้หญิงคนแรกของจ.ร้อยเอ็ด รัฐมนตรีน้ำมาด้วย เป็นตัวแทนพี่น้องร้อยเอ็ดที่มาช่วยงานในฝ่ายบริหาร ดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องทุกคน และก่อนที่จะมาพบปะกันนี้ได้เจอกับเจ้าอาวาส มีการพูดถึงปัญหาใหญ่โดยเฉพาะปัญหาน้ำท่วมในฤดูฝน รู้สึกไม่สบายใจท่วมที่ 2-3 เดือน ประชาชนเดือดร้อนมาก ซึ่งการบริหารจัดการน้ำรัฐบาลนี้ให้ความสำคัญเร่งด่วน จึงขอสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรีบบริหารจัดการเรื่องน้ำ ดูแลปัญหาการกักเก็บน้ำ เพราะในช่วงเวลาที่ผ่านมา จังหวัดใกล้เคียงเคยประสบปัญหามาแล้วคือจ.อุบลราชธานี แต่พอรัฐบาลเราเข้ามาได้ไปเยี่ยมเยียน โดย รมช.มหาดไทย เข้ามาดูแลก็เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่จังหวัดอุบลราชธานีน้ำไม่ท่วม จนมีความปรารถนาอยากจะเห็นอำเภอนี้เขตนี้น้ำไม่ท่วมในปีนี้
   

 ส่วนเรื่องถนนทางหลวงชนบทที่มีการพูดถึง อยากจะมีการขยายระยะทาง 8 กิโลเมตรกว่า ถูกบรรจุในแผนงานที่จะทำในปี 2569 เมื่อมาดูหน้างานจริงๆ แล้ว ปัญหาที่พี่น้องประสบมีเยอะ หากสร้างได้เร็วขึ้นการคมนาคมจะสะดวกสามารถเดินทางเชื่อมต่อในหลายเขตหมู่บ้าน หลายอำเภอ หรือแม้การสร้างสนามบินก็ตามทีตรงนี้สมควรให้มีการพิจารณาเร่งด่วนและพยายามทำให้ได้เร็วกว่านี้ ทั้งนี้ดีใจที่ได้มา และจะน้อมรับความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนแก้ไขต่อไป
   

 ด้าน นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวถึงกรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ตั้งคำถามธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ถึงประเด็นเศรษฐกิจประเทศ ว่า เป็นสิทธิ เมื่อประสิทธิภาพของนโยบายการเงินที่เกิดจากความอิสระนั้นเป็นที่กังขา และความอิสระของ ธปท. มาพร้อมกับกรอบเงินเฟ้อเป้าหมายที่ 1-3% ตามข้อตกลงกับคลัง ซึ่งปัจจุบันหลุดกรอบและไม่เป็นไปตามข้อตกลงใช่ไหม เหตุจากระดับดอกเบี้ยนโยบายที่ไม่เหมาะสมหรือไม่ (เงินเฟ้อปี 67 คาดจะอยู่ 0.6-0.8)
   

 นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า การที่ธนาคารกลางไม่สามารถรักษาเงินเฟ้อให้อยู่ในกรอบเป็นระยะเวลายาวนาน คาดหลุดกรอบถึงสิ้นปึ 67 สะท้อนถึงประสิทธิภาพของธนาคารกลางนั้นหรือไม่ และกระทรวงการคลังต้องการให้ประเทศมีนโยบายการคลังกับนโยบายการเงินที่สอดประสานกัน มิฉะนั้นนโยบายอีกฝั่งต้องเร่งขึ้นเกินความจำเป็น ซึ่งเป็นต้นทุนของประเทศ

เมื่อนโยบายการคลังถูกวิจารณ์ (Digital Wallet) เรารับฟังและปรับปรุง นำสู่การปรับเงื่อนไข เราคาดหวังสิ่งเดียวกันจะเกิดขึ้นกับนโยบายการเงิน
   

 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าวและความคิดเห็นของฝั่งรัฐบาลที่บอกว่าการแก้พ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อลดความอิสระของแบงก์ชาติ ขอใช้เป็นทางเลือกสุดท้าย ว่า ในส่วนของพรรคได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากการส่งสัญญาณผ่านหัวหน้าพรรคเพื่อไทยที่ได้กล่าวถึงธนาคารแห่งประเทศไทยว่าเป็นอุปสรรคในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ แน่นอนว่าการส่งสัญญาณดังกล่าวเชื่อว่าผู้ใต้บังคับบัญชาของหัวหน้าพรรคต้องหาวิธีการเพื่อตอบสนองความต้องการอย่างแน่นอน การแก้กฎหมายก็ย่อมเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ ซึ่งหากมีการยื่นแก้ไข ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์เราไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน เพราะการลดความอิสระของ ธปท. จะส่งผลเสียหายต่อประเทศ
   

 นายราเมศ กล่าวว่า การปรับปรุง พ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทย ล่าสุดเป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้วที่มีความครอบคลุมหลายส่วนทั้งในเรื่องความอิสระ และให้มีความโปร่งใส สร้างการถ่วงดุลฝ่ายการเมืองซึ่งเป็นผู้ใช้เงินให้อยู่ในหลักการที่ถูกต้องและเพื่อความมั่นคงปลอดภัยในสถานะทางการเงินของประเทศ ซึ่งเป็นหลักสากลที่ทั่วโลก ได้กำหนดให้อำนาจของธนาคารกลางให้มีความอิสระ แยกการใช้อำนาจออกจากฝ่ายการเมืองอย่างชัดเจน
 

   รัฐบาลอึดอัดใจ ไม่สบายใจต่อท่าทีของผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยที่มีการท้วงติงไม่เห็นด้วยกับโครงการแจกเงินดิจิทัลวอเลต ซึ่งเป็นนโยบายหลักของรัฐบาลที่พยายามผลักดัน แต่ด้วยกฎหมายมีความเข้มแข็งในเรื่องการปลดผู้ว่า ธปท. รัฐบาลเลยไม่สามารถทำอะไรได้ตามอำเภอใจ เพราะกฎหมายระบุไว้ชัดว่า นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวาระตามแล้ว ผู้ว่าการพ้นจากตำแหน่งเมื่อเสียชีวิต หรือลาออก หรือขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้าม  หรือคณะรัฐมนตรีมีมติให้ออกโดยคำแนะนำของรัฐมนตรี เพราะมีความประพฤติเสื่อมเสียอย่างร้ายแรงหรือทุจริตต่อหน้าที่ หรือคณะรัฐมนตรีมีมติให้ออกโดยคำแนะนำของรัฐมนตรีหรือการเสนอของรัฐมนตรี โดยคำแนะนำของคณะกรรมการ ธปท. เพราะบกพร่องในหน้าที่อย่างร้ายแรง หรือหย่อนความสามารถโดยมติดังกล่าวต้องแสดงเหตุผลในการให้ออกอย่างชัดแจ้ง
 

   "การแสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาของผู้ว่า ธปท ด้วยความสุจริตใจเพื่อประโยชน์ของบ้านเมือง เพื่อให้เห็นความคุ้มค่าของงบประมาณแผ่นดิน ถ้ารัฐบาลเห็นว่าการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตของผู้ว่า ธปท. เป็นความประพฤติเสื่อมเสียอย่างร้ายแรงหรือถึงขั้นทุจริตต่อหน้าที่ บกพร่องในหน้าที่อย่างร้ายแรง หรือหย่อนความสามารถ ขอท้าให้รัฐบาลรีบปลดได้เลย" นายราเมศ กล่าว
   

 นายศรัณยู อึ๊งภากรณ์ รองโฆษกพรรคไทยสร้างไทย และคณะทำงานด้านเศรษฐกิจ กล่าวถึงการแถลงผลงานรัฐบาล โดยแกนนำจัดตั้งรัฐบาลที่ผ่านมาว่ามีประเด็นที่น่าสนใจและเกิดคำถามเป็นวงกว้างในสังคม หลังจากที่หัวหน้าพรรคดังกล่าวได้แสดงทัศนะคติถึง ความเป็นอิสระของธนาคารแห่งประเทศไทยว่าเป็นปัญหาและอุปสรรคต่อการแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งนี้หากธนาคารแห่งประเทศไทยไม่ยอมให้ความร่วมมือ จะไม่สามารถลดเพดานหนี้ได้เลย นั้น ทีมเศรษฐกิจพรรคไทยสร้างไทย ได้แสดงความกังวลและไม่เห็นด้วยต่อทัศนคติอันแปลกประหลาดโดยได้ออกมาต่อว่าถึงบทบาทของธนาคารแห่งประเทศไทยในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย
   

 หากย้อนกลับไปพิจารณา ตามพันธกิจของธนาคารแห่งประเทศไทยจะพบว่ามีหน้าที่ในการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ รวมถึงการรักษาเสถียรภาพด้านราคา การป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจมีความผันผวนมากเกินไป พร้อมทั้งรักษาเสถียรภาพของระบบการเงิน ซึ่งปฎิเสธไม่ได้ว่าในบางครั้งอาจเกิดความขัดแย้งกับเป้าหมายที่รัฐบาลต้องการ เพราะในบางกรณี รัฐบาลอาจมีเป้าหมายที่ต้องการเห็นผลจากการกระตุ้นเศรษฐกิจทันที ซึ่งอาจขัดแย้งกับเป้าหมายในการรักษาเสถียรภาพของธนาคารกลางได้ เช่น การดำเนินนโยบายการเงินที่ขยายตัวมากเกินไปนั้น อาจมีผลดีต่อการแก้ไขปัญหาการว่างงานและเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นได้ แต่อาจล้มเหลวต่อการสภาพเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาวเนื่องจากอาจสร้างสภาวะเงินเฟ้อที่รุนแรงจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ
   

 แม้แต่ในด้านการพิมพ์ธนบัตรซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นหน่วยงานที่สามารถพิมพ์ธนบัตร ได้ซึ่งสวนทางกับรัฐบาลที่มีความต้องการเข้าถึงแหล่งเงิน เพื่อใช้ในการบริหารจัดการเศรษฐกิจให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยเหตุผลที่ได้กล่าวมานั้น ธนาคารแห่งประเทศไทยจึงจำเป็นต้องมีความเป็นอิสระเพื่อให้สามารถรักษาความมั่นคงของการเงินและไม่เป็นปัจจัยที่กีดกันในการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
 

   นายศรัณยู กล่าวว่า ไม่เพียงเท่านั้น ความเป็นอิสระของธนาคารกลางยังมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นต่อผู้ลงทุนต่างชาติด้วยอันเห็นตัวอย่างได้จากประเทศตุรกีที่มีการแทรกแซงเชิงนโยบายการเงินของธนาคารกลางโดยรัฐบาลตุรกี ที่เน้นนโยบายการเงินที่ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจ ซึ่งท้ายที่สุด ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นถึง 60% และทำให้มูลค่าของเงินลดต่ำลงอย่างมีนัยยะสำคัญซึ่งทำให้ผู้ลงทุนต่างชาติเป็นจำนวนมากขนเงินออกนอกประเทศ
 

   ดังนั้นพรรคไทยสร้างไทยขออ้างอิงจากผลการวิจัยขององค์กรนานาชาติอย่าง IMF ที่แสดงผลเชิงประจักษ์ในการใช้กลุ่มตัวอย่างมากกว่า 50 ประเทศจากทุก ๆ กลุ่มเศรษฐกิจนับตั้งแต่ปี 2550 ถึง 2564 ซึ่งพบว่าความอิสระของธนาคารกลางมีผลกับการควบคุมอัตราเงินเฟ้ออย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีผลต่อการเสถียรภาพทางการเงินอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเสถียรภาพทางการเงินมีผลต่อการเติบโตของประเทศในทุกมิติอย่างต่อเนื่องระยะยาว ดังนั้น คำถามสำคัญที่ควรกลับไปถามตัวเองคือ ทุกวันนี้ ท่านได้ฟังเสียงแจ้งเตือนขององค์กรอิสระหรือไม่ พร้อมทั้งหาวิธีประสานงานให้เกิดความราบรื่นต่อการบริหารประเทศมากกว่