วันที่ 7 พ.ค.67 ผู้นำหมู่บ้านจำนวน 3  หมู่บ้าน ข้องใจในการบริหารเงินวัดตลอดจนการใช้จ่ายงานมรณะภาพ ของหลวงพ่อรูปหนึ่ง ซึ่งได้มรณะภาพไปเมื่อเดือน เม.ย.67 ที่ผ่านมา และการใช้จ่ายเงินของวัด ส่อไปในทางทุจริตหลายเรื่องทนไม่ไหว นัดคณะกรรมการวัดตลอดจนไวยาวัจกรของวัด นัดประชุมพร้อมกับได้นิมนต์พระครูโสภณ รองเจ้าคณะอำเภอศีขรภูมิ  และพระภิกษุสงฆ์  ซึ่งจำพรรษาอยู่ภายในเขตพื้นที่เข้ามารับฟังและหาทางออกร่วมกัน

นายขจร ผมน้อยอายุ 67 ปี กรรมการที่ปรึกษาวัดบ้านขวาวใหญ่ กล่าว่า ที่ชาวบ้านตลอดจนคณะกรรมการวัดที่ได้เดินทางมาประชุมในวันนี้  ก็เนื่องจากว่าอยากจะทราบรายรับรายจ่ายเงินของวัดที่ผ่านมาเงินมีรายรับและรายจ่ายไม่เคยนำมาแสดงให้กับพี่น้องประชาชนตลอดจนคนภายในหมู่บ้านได้รับทราบกัน ประกาศโครมๆ แต่บัญชีไม่มีอ้างโน้นอ้างนี้  ซึ่งตนเองตลอดจนคณะกรรมการที่ปรึกษาวัดอึดอัดมานานแต่ไม่เคยมีใครกล้าปริปากพูดซักคำ

นายกำพล ฉิมมาลี กรรมการสถานศึกษาและคณะกรรมการของหมู่บ้าน ก็ได้สอบถามเหรัญญิกในที่ประชุมว่า เงินในงานมรณะภาพของหลวงพ่อซึ่งท่านได้มรณะภาพไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา  รายรับ 180,000 เงินใช้จ่ายคงเหลือ 300 บาท แต่รายจ่ายไม่มีเอกสารมาชี้แจงแต่ได้ประกาศในที่ประชุมไปแล้วจะให้ทางคณะกรรมการเชื่อถือได้อย่างไร

นายวรวัฒน์ มีแก้ว อายุ 47 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 บ้านขวาวใหญ่  ได้กล่าว่า เรื่องที่เชิญผู้ใหญ่บ้านมาจำนวน  3 หมู่บ้าน มีหมู่ 1 หมู่ 2 และ หมู่ที่ 8 ในวันนี้ ก็เพื่อที่จะให้คณะกรรมการวัดตลอดจนคณะกรรมการของวัดได้ชี้แจงรายรับรายจ่ายให้กับชาวบ้านได้รับทราบ  เพราะที่ผ่านมาชาวบ้านอึดอัดมานานกับการบริหารเงินภายในวัด มีแต่รายรับและรายจ่ายเงินคงเหลือไม่เคยมีเงินสร้างเมรุก็สร้างยังไม่เสร็จ 280,000 บาท เบิกเงินไปหมดและอีกหลายรายการที่ไม่ยอมชี้แจงให้ชาวบ้านได้รับทราบ นิมนต์ให้ขึ้นไปนอนบนกุฏิวัดก็ไม่ยอมขึ้นไปมานอนอยู่ข้างล่างสังกะสีเก่าๆ ภายในบริเวณวัดเนื่องจากว่าทางคณะกรรมการวัดจะปรับปรุงใช้พื้นที่ให้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจที่บรรดาชาวบ้านที่มาร่วมงานวัดซึ่งทางเจ้าอาวาสก็ไม่ยอมขึ้นไปชาวบ้านก็ยังงงกับเจ้าอาวาสไม่ทราบว่าคิดอะไร

ล่าสุดมีรายงานของคณะกรรมการในกรณีการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีพระครูประภากร ซึ่งถูกร้องเรียนว่า มีพฤติกรรมบริหารจัดการเงินของวัดไม่โปร่งใสหลายประการเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2567  ตามที่ได้มีคำสั่งเจ้าคณะอำเภอศีขรภูมิที่ 11/2566 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการการตรวจสอบข้อเท็จจริงและระงับอธิกรณ์ลงวันที่ 16 สิงหาคม 2566 เพื่อสอบสวนพระครูประภากร ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดขวาวใหญ่  ถูกร้องเรียนว่ามีพฤติกรรมบริหารจัดการเงินของวัดไม่โปร่งใสและความประพฤติไม่เหมาะสมหลายประการโดยคำสั่งดังกล่าวได้ภาคทัณฑ์ไว้ 3 ปี