ภูมิธรรม เซ็ง ปมซาวข้าวหลายน้ำ บอกจะกี่น้ำแล้วแต่ความในใจ ขออย่าเบี่ยงประเด็น ดึงสติเอาความจริงมาพูด อย่าดราม่า-ใช้จินตนาการชี้นำ-คิดไปเรื่อย ด้าน สมศักดิ์ลั่นพร้อมตรวจคุณภาพข้าว 10 ปี ขอให้ส่งมายัน 7 วันรู้ผล ป้องกันเสียงวิจารณ์ผิดๆ ถูกๆ ขณะที่ เรืองไกร แนะ นายกฯ เชิญ สตง. ตรวจสต็อกข้าว อคส.10 ปี ยังดี มีคุณภาพอยู่จริงหรือไม่
       

 ที่ทำเนียบรัฐบา เมื่อวันที่ 8 พ.ค.2567 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงข้าวในโครงการจำนำข้าว ต้องซาวน้ำถึง 15 ครั้งว่า จริงๆจะซาวข้าวกี่ครั้งก็ซาวเถอะ เพื่อความสะอาด ขึ้นอยู่กับความในใจของตัวเอง อันนี้ไม่ใช่ประเด็น อย่าเปลี่ยนประเด็นเป็นอย่างอื่น แต่สิ่งที่ตนทำในวันนี้คือ ตนเป็นผู้ดูแลหน่วยงานเกี่ยวกับข้าว แล้วมีเจ้าของโกดังทำเรื่องขอร้องให้จัดการกับข้าวเสียที อยู่ในโกดังมา 10 ปีแล้ว โกดังก็ถูกปิดตายอยู่อย่างนั้น จะปล่อยให้เป็นไปอย่างนี้ทั้งชีวิตหรือ จะเป็นข้าวเน่าข้าวดีก็จัดการให้มันจบ ปิดเรื่องนี้ไปเลย ตนเลยไปตรวจดู ไปชิมข้าวแล้วว่ามันไม่เน่า
   

 ที่มีคนบอกว่าปีนึงข้าวเน่า หรือสองปีเน่า จริงๆแล้วข้าวเน่าไม่เน่าขึ้นอยู่กับการเก็บรักษา ก็เปิดให้สื่อมวลชนทุกท่านเข้าไปตรวจดู อยากเจาะดูตรงไหนก็เจาะ ฉะนั้นทุกอย่างทำโปร่งใส อย่าให้จินตนากา ชี้นำความจริง วันนี้เราพิสูจน์ทางกายภาพแล้วว่า จมูกข้าวโอเค เมล็ดข้าวไม่มีแตก แม้จะสีเหลือง แต่ความเหลืองเป็นเรื่องปกติของข้าว ที่ถูกเก็บ แต่สีออกให้มันขาวได้ ส่วนการรมข้าว หลัง 14 วันก็เข้าไปได้ กินได้อย่าไปนั่งพูดวิจารณ์ให้ของมันอยู่กับที่เลย ปัญหาก็จะไม่ได้แก้ ไม่มีประโยชน์ ตนดูมาแล้วคิดว่าไม่มีปัญหา วันนี้นำไปขายได้ ไม่ต้องกลัว ตนไม่ได้เอาเรื่องนี้ไปทำลายชื่อเสียงประเทศ อย่าดราม่ามาก อย่าพูดไปเรื่อยๆ คนที่วิจารณ์ควรมาช่วยกันคิดว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร
   

 เมื่อถามถึงข่าวที่มาแตะตรงนี้เป็นการฟอกขาวให้โครงการจำนำข้าว นายภูมิธรรมกล่าวว่า ก็แล้วแต่จะคิด วันนี้นั่งอยู่เฉยๆ คิดได้ไปสารพัด คิดบวกคิดลบก็ได้ ท่านใดมีความพึงพอใจที่จะคิดใช้จินตนาการก็คิดไป ตนมีหน้าที่แก้ปัญหา ตนก็ต้องแก้ปัญหา
   

 ด้าน นายพิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กล่าวถึงกรณีนายภูมิธรรม ว่า อย่าคิดอะไรสลับซับซ้อนมาก เพราะเป็นเพียงการตั้งข้อสงสัยมานานแล้วว่า ข้าว 4-5 ปีเหตุใดจึงเป็นข้าวเน่า เป็นข้าวเสียถึงขั้นจะนำไปขายเป็นอาหารสัตว์หรือเชื้อเพลิง
   

 ได้รับเบาะแสมาพอสมควรแล้ว ว่า บรรดาผู้ที่รับซื้อข้าว เอาไปทำอะไร กำลังอยู่ในรูปคดี เพราะขณะนี้มีคนไปยื่นต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ยืนยันว่าผู้ที่ซื้อข้าวไป ไม่ได้เอาไปทำอาหารสัตว์ เพราะเรามีแหล่งข่าว และมีพยานหลักฐานพอสมควรแล้ว ดังนั้นสิ่งที่นายภูมิธรรม เดินทางไปดู เป็นแค่การพิสูจน์เชิงประจักษ์ ว่า ข้าว 10 ปีสามารถทานได้หรือไม่ ไม่ได้มีเรื่องการเมืองแต่อย่างใด
 

   เมื่อถามย้ำว่าการเข้าไปในโครงการรับจำนำข้าวมีแรงจูงใจทางการเมืองหรือไม่ นายพิชิต กล่าวว่า ตนมองนายภูมิธรรม ทำหน้าที่ รมว.พาณิชย์ ดูแลเรื่องข้าว คลังสินค้ามากกว่า ไม่มีเรื่องการเมือง
 

   เมื่อถามว่าในฐานะนักกฎหมายมองคดีของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีมูลเหตุคดีทางการเมืองหรือไม่ นายพิชิต กล่าวว่า ตนขอให้มองแค่ปัญหาที่ไปตรวจข้างในโครงการรับจำนำข้าว จังหวัดสุรินทร์ มากกว่า อย่าไปถึงเรื่องคดีความเลย
   

 เมื่อถามย้ำว่าการที่คดีดังกล่าวมาจุดติดในตอนนี้ มีนัยอะไร หรือไม่ นายพิชิต กล่าวว่า อยากให้คิดว่ารัฐบาลเข้ามาบริหารราชการแผ่นดินไม่ถึงปี และเพิ่งได้กระแสมาว่าโกดังนี้เป็นโกดังที่เร่งรีบขาย ในฐานะนักกฎหมาย จะเป็นการทำลายพยานหลักฐานอะไรบางอย่าง พร้อมกล่าวย้ำว่าเรื่องนี้ไม่มีเรื่องการเมือง มีแต่เรื่องของประชาชน ถ้าข้าวดีข้าวขายได้ เงินก็เข้ารับเท่านั้นเอง ไม่มีเรื่องการเมือง
   

 ส่วน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงประเด็นคุณภาพข้าวในโครงการจำนำข้าวที่เก็บมานานกว่า 10 ปี และกำลังจะมีการนำออกมาประมูลเพื่อการบริโภค ว่า เรื่องนี้เวลาเขาเก็บตัวอย่างไปพิสูจน์ เพื่อป้องกันสิ่งที่วิพากษ์วิจารณ์กันไปผิดๆ ถูกๆ ทั้งนี้หากพูดถึงข้าว อย่างเรื่องความชื้นของข้าวปกติที่เก็บใหม่ๆ จะมีความชื้นประมาณ 35% เก็บไว้ 1 ปี ความชื้นเหลือ 17% เก็บ 10 ปี ความชื้นอาจจะเหลือ 1 หรือ 2% สภาพทางกายภาพมันเปลี่ยนแปลงไปตามภูมิศาสตร์ อุณหภูมิร้อน หนาว เรื่องนี้เป็นวิทยาศาสตร์มันเก็บเป็น 10 ปีแล้ว ความเหมือน ไม่เหมือนกับข้าว 1 ปี ก็คงไม่เหมือนกัน มันอาจจะดีกว่ามากๆ ก็ได้ ถ้าสงสัยก็ส่งกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ใช้เวลา 7 วัน ตรวจก็รู้เลย แต่ต้องเก็บพยานหลักฐานเยอะ ไม่ใช่เก็บมาจากข้างบ้านแล้วพูดผิดๆ ถูกๆ ไม่ได้
       

 เมื่อถามว่าในฐานะเจ้ากระทรวงจะแนะนำว่าข้าว 10 นี้ควรบริโภค หรือไม่ควรบริโภค นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนไม่มีข้อมูลตรงนี้ ยอมรับว่า เป็นเรื่องใหม่สำหรับตน คนอื่นคงตอบได้ แต่ตนไม่กล้าตอบ
   

 เมื่อถามต่อว่า มีการเก็บตัวอย่างส่งมาตรวจที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ หรือไม่ เรื่องของสิ่งปนเปื้อนสารเคมี หรือเชื้อโรค นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่
   

 เมื่อถามย้ำว่า ในฐานะที่เป็นกระทรวงที่ดูแลสุขภาพของประชาชน ซึ่งอาหารก็มีผลต่อสุขภาพประชาชน ดังนั้นจะขอตัวอย่างข้าวในโครงการดังกล่าวมาตรวจ หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ถ้าต้องการอยากให้ตรวจก็ส่งมาได้ แต่ให้เก็บตัวอย่างเป็นทางการให้เรียบร้อย
   

 ขณะที่ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสว. กล่าวว่า กรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และโฆษกรัฐบาล ออกมากล่าวอ้างว่า สต็อกข้าวของ อคส. ที่เก็บมานานกว่า 10 ปี ยังดีอยู่ และมีการกินโชว์สื่อมวลชน รวมทั้งให้พิธีกรบางรายการนำไปกินโชว์อีกนั้น เรื่องนี้ คนที่รู้บัญชีคงไม่เชื่อถือ เพราะข้าวสารเป็นสินค้าทางการเกษตรที่มีการเสื่อมสภาพ และงบการเงิน อคส. ก็มีการหักค่าเผื่อจากการลดมูลค่าของสินค้าคงเหลือไว้ทุกปี เมื่อไปดูในหมายเหตุประกอบงบการเงิน ในส่วน สินค้าคงเหลือ ซึ่งแสดงอยู่ในหมายเหตุประกอบงบการเงิน ข้อ 8 จะพบข้อมูลสินค้าคงเหลือ ณ วันที่ 30 ก.ย.2565 ในส่วนโครงการรัฐบาลที่มีนัยสำคัญ 2 รายการ คือ สินค้าที่ตรวจนับได้ (ปกติ/ข้าวเปียกน้ำ) จำนวน 1,644.25 ล้านบาท ซึ่งมีการ หัก ค่าเผื่อจากการลดมูลค่าของสินค้าคงเหลือไว้เป็นจำนวน 902.41 ล้านบาท สินค้าที่ตรวจนับไม่ได้ จำนวน 3,836.68 ล้านบาท มีการ หัก ค่าเผื่อจากการลดมูลค่าของสินค้าคงเหลือไว้เป็นจำนวน 2,653.65 ล้านบาท
   

 นายเรืองไกร กล่าวว่า กรณีสต็อกข้าวตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และโฆษกรัฐบาลนำมากล่าวอ้าง ประกอบไปด้วยสต๊อกสินค้าเกษตรภายใต้การดูแลของรัฐบาล ปัจจุบันยังคงเหลือเพียง ข้าวในโครงการรับจำนำปี 2556/2557 จ.สุรินทร์ ดังนี้
   

 1. คลังกิตติชัย หลัง 2 (ข้าวหอมมะลิ 100%) รับมอบข้าวสารตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2557 ถึง 10 มีนาคม 2557 เก็บข้าวแล้ว 10 ปี 2 เดือน รวมปริมาณทั้งสิ้น 26,094 ตัน หรือ 258,106 กระสอบจาก 24 โรงสี และได้มีการระบายข้าวสารแล้ว 3 ครั้ง คงเหลือ 11,656 ตัน หรือ 112,711 กระสอบ
   

 2. คลัง บจก.พูนผลเทรดดิ้ง หลัง 4 (ข้าวหอมมะลิ 100%) รับมอบข้าวสารตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม 2557 ถึง 29 เมษายน 2557 เก็บข้าวแล้ว 10 ปี 7 วัน มีปริมาณรวมทั้งสิ้น 9,567 ตัน หรือ 94,637 กระสอบ จาก 6 โรงสี ซึ่งระบายข้าวสารแล้ว 4 ครั้ง คงเหลือ 3,356 ตัน หรือ 32,879 กระสอบ"
   

 นายเรืองไกร กล่าวว่า การออกมาโชว์ว่า ข้าวในสต็อกดังกล่าวยังดีอยู่และกินได้นั้น จึงไม่ใช่หลักฐานทางบัญชีที่น่าเชื่อถือได้ว่าข้าวในสต็อกดังกล่าวรวมทั้งสองคลัง จำนวน 145,590 กระสอบ จะดีอยู่จริง หรือไม่ กรณี จึงควรเชิญให้ สตง. เข้าไปตรวจสอบข้าวทุกกระสอบก่อนที่จะมีการนำไปประมูลขายด้วย ทั้งนี้เพื่อให้แน่ใจว่า ข้อมูลที่แถลงข่าวกล่าวอ้างออกมานั้นถูกต้องกับสต็อกข้าวสารที่มีอยู่จริงและตรงตามเอกสารทางบัญชีของ อคส. โดยมี สตง. เข้าไปตรวจสอบรับรองได้
   

 นายเรืองไกร กล่าวว่า วันนี้ตนจึงส่งหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีทางไปรษณีย์ EMS เพื่อขอให้นายกฯ เชิญ สตง. เข้าไปตรวจสอบเอกสารทางบัญชีและร่วมตรวจนับสต็อกข้าวทุกกระสอบก่อนเพื่อให้แน่ใจได้ว่า ข้าวในสต็อกคงเหลือ ณ ปัจจุบัน ของ อคส. ก่อนที่รัฐบาลจะนำไปเปิดประมูลขายนั้น เป็นข้าวสารในสต็อกที่ถูกต้องตรงกันกับบัญชีสินค้าคงเหลือของ อคส. หรือไม่ ข้าวสารในสต๊อกดังกล่าว มาจากข้าวเปลือกตามใบประทวนของเกษตรกร รายใด มีการนำไปสีแปรสภาพเมื่อใด มีการจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐไปกี่ครั้ง ในราคาเท่าใด ใครเป็นผู้ประมูลไป เงินที่ประมูลได้มีการนำส่งให้ ธ.ก.ส. ครบถ้วน หรือไม่ ในแต่ละรอบปีบัญชีสิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.ของ อคส. มีการตรวจนับสต็อกข้าวทั้งสองคลังได้ หรือไม่ มีการหักค่าเผื่อจากการลดมูลค่าของสินค้าคงเหลือไว้ในแต่ละปีเป็นจำนวน เท่าใด และมีการรักษาคุณภาพข้าวโดยวิธีรมยาหรือวิธีอื่นใดมาทั้งหมดกี่ครั้ง แต่ละครั้ง มีค่าใช้จ่าย เท่าใด ปัจจุบัน สต๊อกข้าวในคลังทั้งสอง ยังดีอยู่และกินได้จริงตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และโฆษกรัฐบาลแถลงข่าว หรือไม่ ถ้าข้าวที่เก็บมา 10 ปี ยังดีอยู่จริง อาจหมายความว่า ข้อมูลข้าวสารที่เป็นสินค้าคงเหลือในงบการเงิน อคส. ที่ผ่านมาร่วม 10 ปี อาจจะเชื่อถือไม่ได้ ใช่หรือไม่