ศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยตำรวจสอบสวนกลาง (CIB)
รวบเพิ่ม! พนักงานทวงหนี้แอปเงินกู้ดอกเบี้ยโหด เห็นช่องผันตัวเป็นบัญชีม้า ขบวนการเงินหมุนเวียนกว่า 400 ล้านบาท

 
​กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ รอง ผบก.ปอศ.,พ.ต.อ.วงศ์ปกรณ์ เปรมกุลนันท์ รอง ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.เมฆพิศาล ศรีภิรมย์ ผกก.5 บก.ปอศ.,พ.ต.ท.ภูวเดช จุลกะเสวี , พ.ต.ท.วิวัฒนชัย คลื่นแก้ว, พ.ต.ท.จักรี กันธิยะ , พ.ต.ท.พิทยา คงเจริญ รอง ผกก.5 บก.ปอศ. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.สุทธิพงษ์ จันทพันธ์ สว.กก.5 บก.ปอศ. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปอศ. สน ธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ม่วงสามสิบ นำโดย พ.ต.ต.วัลลภ วรรณดี สว.สส.สภ.ม่วงสามสิบ พร้อมพวก และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปรฟ.บช.ก.ชป.2 นำโดย ร.ต.ต.ประเสริฐ ดวงตา พร้อมพวก ร่วมกันจับกุม นายสมชาย อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 2660/2565 ลงวันที่ 29 พฤศจิกายน 2565 ความผิดฐาน “ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อโดยไม่ได้รับอนุญาต และเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด” สถานที่จับกุม บริเวณหน้าบ้านแห่งหนึ่ง ต.เตย อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี


พฤติการณ์ ในช่วงปี 2564 ได้มีแอปพลิเคชันเงินกู้นอกระบบระบาดอย่างหนัก มีการส่ง SMS ทวงหนี้ประชาชนทั่วไปจำนวนมาก ซึ่งระชาชนหลายรายที่ได้รับ SMS ไม่เคยแม้กระทั่งโหลดแอปพลิเคชันเงินกู้นอกระบบดังกล่าว แต่กลับได้รับ SMS ให้ชำระหนี้ทั้งที่ไม่เคยกู้มาก่อน บางรายได้รับ SMS แจ้งให้ชำระหนี้แทน โดยอ้างว่าประชาชนคนนั้นเป็นผู้ค้ำประกันให้กับบุคคลอื่น ทั้ง ๆ ที่เจ้าตัวไม่เคยรู้จักบุคคลดังกล่าวมาก่อน อีกทั้งยังมีการเรียกดอกเบี้ยสุดโหดกว่าร้อยละ 2,281.25 ต่อปี โดยในห้วงเวลาดังกล่าว พบว่ามีประชาชนจำนวนมากได้รับความเดือดร้อนจากแอปพลิเคชันเงินกู้นอกระบบ ที่มีชื่อว่า “กาก้า (KAKA) และ กิโก้ (KIKO)”


จากการสืบสวนจับกุมของ ศปน.ตร.อย่างต่อเนื่อง ทำให้กลุ่มคนร้ายมีการปรับกลวิธี และ พัฒนาระบบแอปพลิเคชัน ให้มีความสลับซับซ้อนมากยิ่งขึ้น มีการปิดบังอำพรางสถานที่ตั้ง รวมไปถึงมีการว่าจ้างผู้อื่นให้มาเปิดบัญชีเพื่อใช้ในการกระทำความผิด มิหนำซ้ำยังพบว่ามีการใช้บัญชีเงินฝากของผู้อื่นเป็นจำนวนมาก ภายในมีเงินหมุนเวียนในระบบ ไม่ต่ำกว่า 400 ล้านบาท ในช่วงเวลาเพียงแค่ 3 เดือนเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีการยักย้ายถ่ายโอนเงินอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ยากต่อการติดตามจับกุมของเจ้าหน้าที่ เป็นที่มาให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน กก.5 บก.ปอศ. เร่งติดตามสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน กระทั่งขอศาลออกหมายจับผู้ที่ร่วมขบวนการได้ทุกรายจนถึงตัวนายทุนทั้งหมด 11 ราย และสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้จำนวน 10 ราย โดยอีก 1 รายอยู่ระหว่างการหลบหนีการจับกุม


ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปอศ. ได้ดำเนินการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน จนกระทั่ง ทราบว่า นายสมชาย ผู้ต้องหารายนี้ และเป็น 1 ในขบวนการเงินกู้นอกระบบดังกล่าว มีหน้าที่เป็นผู้เปิดบัญชีม้าเพื่อใช้รับโอนเงินค่าดอกเบี้ยจากผู้กู้ และโอนผลประโยชน์ให้กลุ่มนายทุน และยังอยู่ระหว่างหลบหนี ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง ทั้งไม่ยอมมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานและขอศาลออกหมายจับ ในความผิดฐาน “ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาตและเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด”
       

กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปอศ. ได้สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ม่วงสามสิบ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปรฟ.บช.ก.ชป.2 ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า นายสมชาย ฯได้หลบหนีมาอยู่ที่ ต.เตย อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี จึงเฝ้าติดตามตัว กระทั่งพบผู้ต้องหายืนอยู่บริเวณหน้าบ้านแห่งหนึ่ง พื้นที่ ม.9 ต.เตย อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี จึงได้นำกำลังเข้าไปแสดงหมายจับก่อนควบคุมตัว นำส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


สอบถามคำให้การ ผู้ต้องหา เบื้องต้น รับสารภาพว่าเป็นผู้รับจ้างเปิดบัญชีจริง โดยได้ค่าจ้าง 1,000 บาท และเคยทำงานเป็นพนักงานทวงถามหนี้ให้กับแอปพลิชันเงินกู้นอกระบบ ชื่อกาก้า (KAKA) และ กิโก้ (KIKO) ศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอฝากเตือนภัยถึงประชาชน อย่าหลงเชื่อในการกู้เงินจากแหล่งเงินกู้นอกระบบ ซึ่งไม่มีความน่าเชื่อถือและไม่ได้รับอนุญาต รวมทั้งยังเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด หากต้องการตรวจสอบแหล่งเงินกู้ที่ถูกต้องตามกฎหมาย สามารถตรวจสอบใบอนุญาตการปล่อยสินเชื่อได้ที่ช่องทางดังต่อไปนี้
- ธนาคารแห่งประเทศไทย เว็บไซต์ https://app.bot.or.th/BotLicenseCheck
- สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เว็บไซต์ http://www.1359.go.th/picodoc/comp.php