ตร.ภ.4 รวบหนุ่มสงขลา จบนิติศาสตร์ แต่ ตกงานตระเวนหลอกขายน้ำมันทั่วภาคอีสาน มีร้านค้าหลงเชื่อหลายสิบราย คิดเป้นมุลค่ารวมกว่า 20 ล้านบาท พบเคยถูกจับหลายครั้งแต่ยื่นขอประกันตัวเรื่อยมา ก่อนกลับมาก่อเหตุซ้ำเพื่อหาเงินไปเที่ยวเตร่และเที่ยวหญิงสาวตามสถานบริการ เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 17 พ.ย.2559 ที่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภุะรภาค 4 (บก.สส.ภ4) จ.ขอนแก่น พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา รักษาการ ผบช.ภ.4 พร้อมด้วย พล.ต.ต.เจริญวิทย์ ศรีวณิช , พล.ต.ต.พนมพร อิทธิประเสริฐ ,พล.ต.ต.บุญลือ กองบางยาง รอง ผบช.ภ.4 และ พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ ผบก.สส.ภ.4 ร่วมกันจับกุมนายธนธรณ์ นวลเพชร อายุ 33 ปี อยู่ที่ 15/71 ม.6 ต.น้ำน้อย อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พร้อมของกลาง เงินสดจำนวน 70,000 บาท,บัตรเอทีเอ็มธนาคาร จำนวน 4 ใบ,โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และสมุดบัญชีเงินฝาก จำนวน 1 เล่ม ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.ภ.4 ติดตามจับกุมตัวได้ ตามหมายจับของศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ 407/2559 ลงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2559 ในข้อกล่าวหาฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา รักษาการ ผบช.ภ.4 กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งนายณัฐพล สุจริตพุทธอังกูร อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 286 ถ.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี เป็นเจ้าของสถานีบริการน้ำมันรายใหญ่ ในเขต จ.อุดรธานี ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อแจ้งความหลังถูกคนร้ายอ้างตนเองว่าเป็นเจ้าหน้าที่บริษัทตัวแทนจำหน่ายน้ำมันแบบค้าส่ง โทรศัพท์เข้ามาขอซื้อน้ำมันดีเซลจำนวน 15,000 ลิตร ในราคา 363,000 บาท โดยตกลงว่าจะมีการโอนเงินชำระเงินให้หลังจากที่ผู้นำน้ำมันส่งมอบให้เรียบร้อย จึงหลงเชื่อและนำน้ำมันไปส่งที่ ร้าน เอส มหานคร คอนกรีต จำกัด ต.นาดี อ.เมือง จ.อุดรธานี แต่เมื่อส่งมอบน้ำมันเสร็จ ก็ไม่สามารถติดต่อกับบุคคลที่โทรศัพท์มาหาได้เลย ซึ่งเมื่อสอบถามข้อมูลจากเจ้าของร้าน เอส มหานคร คอนกรีต จำกัด ที่รับซื้อนำมัน ก็ให้การว่าได้มีคนติดต่อเสนอขายน้ำมันและได้โอนเงินชำระไปแล้ว จำนวน 301,000 บาท ผู้เสียหายจึงเชื่อว่าตนเองถูกคนร้ายหลอก จึงได้มาแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อสืบสวนติดตามจับกุม "จากการสืบสวน ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือนายธนธรณ์ ขณะนี้ได้หลบหนีไปในเขต กรุงเทพฯ จึงส่งชุดสืบสวนสอบสวนจับกุมตัวได้ที่ อาคารลุมพินีคอนโด ถ.รามอินทรา กรุงเทพฯ ซึ่งจากการสอบถาม นายธนธรณ์ ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ที่ได้ก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยสำเร็จจบการศึกษาด้านนิติศาสตร์ จากนั้นในปี 2556 ได้เคยทำงานเป็นตัวแทนขายน้ำมันของบริษัทฯรายใหญ่้ ให้กับร้านค้าต่างๆ จึงรู้ช่องทางในการติดต่อซื้อขายน้ำมันกับผู้ประกอบการต่างๆ พร้อมทั้งวิธีการสร้างความน่าเชื่อถือและการจูงใจให้เกิดการซื้อขายน้ำมันในปริมาณมากๆ แต่หลังจากที่ตกงาน ก็ได้คิดวิธีการในการหลอกผู้ขายน้ำมัน ทั้งนี้จากากรตรวจสอบประวัติพบว่า ผู้ต้องหารายนี้เคยถูกจับกุมมาแล้ว 2 ครั้ง เมื่อปี 2558 ที่ จ.สมุทปราการและ จ.พระนครศรีอยุธยา และถูกอายัดตัวไปอีกหลายท้องที่ แต่ผู้ต้องหาได้ประกันตัวและหนีประกันชั้นศาลออกมาก่อเหตุซ้ำ นับรวมการก่อเหตุมาแล้วมากกว่า 30 ครั้ง และมีหมายจับ 9 อีก 9 คดี" พล.ต.ต.จตุพล กล่าวเพิ่มเติมว่าผู้ต้องหาจะใช้วิธีการหาเหยื่อซึ่งเป็นร้านค้าในอินเตอร์เนต จากนั้นจะเหลือกเหยื่อผู้ซื้อและผู้ขายให้อยู่ในพื้นที่จังหวัดใกล้เคียงกัน และติดต่อจำหน่ายน้ำมันให้โดยให้ราคาสูงกว่าท้องตลาด และจูงใจผู้จะซื้อในราคาต่ำกว่าท้องตลาด ซึ่งการชำระเงินนั้นผู้ต้องหาจะใช้บัญชีของบุคคลอื่นในการให้โอนเงิน เมื่อถูกอายัดบัญชี ก็จะจ้างบุคคลอื่นเปิดให้ใหม่ ทั้งนี้จากากรตรวจสอบพบว่าในการก่อเหตุแต่ละครั้งจะได้เงินประมาณครั้งละ 200,000-1,000,000 บาท รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 20 ล้านบาท โดยเมื่อผู้ต้องหานี้ได้เงินมาจะนำไปเที่ยวแตร่ เลี้ยงผู้หญิงตามสถานบันเทิง