เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 18 พ.ย.59 ที่กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (บก.สปพ.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ทรงพล วัธนะชัย ผบก.น.6 ฐานะรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบก.สปพ. พ.ต.อ.จักรเพชร เพชรพลอยนิล ผกก.สายตรวจฯ พ.ต.ต.ปียรัช เวสสะโกศล สว.งานสายตรวจ3ฯ ร่วมกันแถลงผลการจับกุมนายนพจร ปานนิยม อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรีที่ จ.1249/2559 ลงวันที่ 17 พ.ย.59 และ น.ส.กาญจนานุช อุดมศักดิ์ อายุ 23 ปี ในข้อหา”ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน” โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณหน้าร้านชิลชิล ริมถนนรังสิต-ปทุมธานี ต.บ้านฉาง อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า สืบเนื่องจาก น.ส.อคัมย์ศิริ สุวรรณศุข หรือจั๊กจั่น นักแสดงสาว ถูกกลุ่มผู้ต้องหาหลอกลวงจนหลงเชื่อให้ช่วยซื้อข้าวสาร โดยอ้างว่าเป็นลูกชาวนามีชีวิตลำบากต้องหาเงินจ่ายค่าสีข้าว จากนั้นในวันที่ 9 พ.ย. ทางดาราสาวจะนำข้อความโพสต์ในไอจีส่วนตัว ซึ่งมียอดสั่งจองเป็นจำนวนมากจนสินค้าหมดเกลี้ยง ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง หลังจากนั้นทางดาราสาวได้ติดตามความคืบหน้า แต่ปรากฏว่าไม่สามารถติดต่อได้ จึงทำให้ทราบว่าถูกหลอกลวง แล้วได้หลบหนีไปตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา จากนั้นทางตำรวจจึงลงพื้นที่ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดจากตู้กดเงินธนาคารธนชาติ สาขาร่มเกล้า สามารถจับภาพขณะที่คนร้ายกำลังกดเงินเป็นหญิงสาว ต่อมามีผู้เสียหายจำนวนหลายรายเดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ที่สน.ร่มเกล้า ต่อมาทางเจ้าหน้าที่งานสายตรวจ 3 ได้ติดตามสืบสวนข้อมูลจนทราบว่านายนพจรได้ไปรับประทานอาหารที่ร้านชิลชิล ย่านจ.ปทุมธานี อยู่เป็นประจำ จึงนำกำลังไปตรวจสอบพบนายนพจรยืนอยู่หน้าร้าน เจ้าหน้าที่จึงแสดงหมายจับ ก่อนทำการขยายผลจนสามารถจับกุมน.ส.กาญจนานุช ก่อนทำการจับกุมตัวมาสอบสวนที่บก.สปพ. สอบสวน น.ส.กาญจนานุช ให้การด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า ตนเป็นคนวางแผนกระทำการดังกล่าวทั้งหมดเอง ในตอนแรกแค่จะโทรศัพท์ไปขอยืมเงิน เพราะตนไม่มีแม้กระทั่งเงินกินข้าว เนื่องจากไม่มีงานทำ มีแฟนหนุ่มที่ทำงานเป็น รปภ.เพียงคนเดียว ทั้งนี้ตนรู้สึกผิด และอยากจะขอโทษนางเอกสาวด้วย ส่วนข้าวที่ลงประกาศขายนั้นไม่มีสินค้าจริงแต่อย่างใด ในครั้งแรกตนคิดว่าจะมีคนที่ช่วยเหลือแค่ไม่กี่ราย ตั้งใจเงินที่จะได้รับมาเพียงไม่กี่พันบาท สำหรับ น.ส.อมรลดา กันมล อายุ 35 ปี เจ้าของบัญชีรับโอนเงินไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด ซึ่งตั้งแต่เกิดเรื่องดังกล่าวขึ้นตนก็กินไม่ได้ นอนไม่หลับ แล้วไม่กล้าออกจากห้องหรือไปทำงาน เพราะหวาดกลัว ส่วนเงินที่ได้มาทั้งหมดกว่า 80,000 บาท ตนได้นำไปใช้หนี้ และให้พ่อแม่ใช้จ่าย จึงเหลือเงินเพียง 27,000 บาท ซึ่งตนยินดีที่จะนำมาคืนให้ตำรวจ เพื่อมอบให้ผู้เสียหายต่อไป รวมทั้งจะหาเงินมาชดใช้คืนให้ทั้งหมด ส่วนด้าน นายนพจร ที่มีสีหน้าเคร่งเครียดได้แต่ก้มหน้า ได้ให้การยอมรับสารภาพเพียงสั้นๆว่า ต้องกราบขอโทษด้วย ไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนี้ ที่ทำไปเพราะเงินที่ได้จากการทำงานแล้วไม่พอใช้ ตนยอมรับผิดทุกอย่าง ซึ่งหลังจากพ้นโทษ จะกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีของสังคม จากนั้นทาง ผู้ต้องหาทั้งสอง ได้นำเงินจำนวนที่เหลือมอบให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ต่อหน้าบรรดาสื่อมวลชนที่มารอทำข่าว ขณะที่ น.ส.อคัมย์ศิริ กล่าวทั้งน้ำตาว่า หลังจากเกิดเรื่องขึ้นตนอยากจะแสดงความรับผิดชอบต่อผู้ที่ติดตามในไอจี ซึ่งผู้เสียหายบางรายแม้จะถูกหลอกเงินไปเป็นจำนวนเล็กน้อย แต่เขาก็ตั้งใจซื้อข้าวเพื่อช่วยเหลือชาวนาที่ตกทุกข์ได้ยาก ซึ่งมีผู้เสียหายจำนวนอีกหลายรายเมื่อตนบอกว่าจะชดใช้เงินค่าเสียหายให้ แต่ก็ไม่มีผู้ใดขอรับไว้แต่อย่างใด จึงรู้สึกแย่เข้าไปอีก ทั้งนี้ตนอยากรู้แค่ว่าช่วงนี้มีแต่คนทำความดีเพื่อในหลวงรัชกาล ที่9 แต่ทำไมคนทั้งสองรายนี้ถึงกลับใช้โอกาสทำเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้ “พูดตรงๆ จั๊กจั่นก็เสียใจมากและก็โกรธมาก ทำไมเป็นคนที่ใจร้ายมากขนาดนี้ ถึงเราจะไม่ใช่เจ้าทุกข์โดยตรง ที่เป็นคนโอนเงินไป จั่นอยากรู้ว่าน้องมีปัญหาชีวิตอะไรที่มันลำบากมากขนาดนี้ ถึงต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอ พอน้องทำแบบนี้ต่อไปเวลาคนที่คิดจะช่วยเหลือ จะทำความดี มันก็ต้องฉุกคิด ซึ่งตัวน้องเองอยากจะให้ทุกคนที่พบเห็นประสบเหตุเด็กถูกรถชนต่อหน้าแล้วนิ่งเฉย ทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่กลับยกมือถือขึ้นมาถ่ายคลิปอย่างนั้นหรือ" นักแสดงสาว กล่าวตัดพ้อทั้งน้ำตา น.ส.อคัมย์ศิริ กล่าวต่ออีกว่า สำหรับเรื่องราวดังกล่าวนั้นหลังจากที่ทราบว่าทางตำรวจสามารถจับตัวคนร้ายได้แล้วนั้น ตนก็รีบเดินทางเข้ามาพบน้องทั้ง2 คนเพื่อถามว่า ทำไมถึงได้ก่อเหตุลักษณะนี้ ส่วนตัวอยากรู้ว่าน้องนั้นได้ขายข้าวจริงหรือไม่ สรุปแล้วน้องทั้งสองไม่ได้ขายข้าวจริงแต่อย่างใด มีเพียงเงินสดที่ยังเหลือจากการหลอกลวงเหยื่อครั้งนี้อยู่ 27,000 บาท ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง สองยินดีที่ได้ชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด ที่มียอดเกือบ 8,0000 บาท สำหรับผู้เสียหายรายอื่นๆที่โอนเงินมาให้ตนจะช่วยเหลือโดยการให้ติดมาทาง Instagram ตนจะทำการตรวจสอบจากทางตำรวจว่ายอดเงินตรงหรือไม่ แต่ก็มีผู้เสียหายบางรายที่ส่งยอดเงินมาไม่ตรงเหมือนกัน เนื่องจากสมัยนี้สลิปเงินสดสามารถปลอมแปลงกันได้ “อย่างไรก็ตามตอนนี้ตำรวจสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้แล้ว และผู้ต้องหาแสดงความจำนงว่าจะชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดตนเองก็เลยฝากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ดูแลดีกว่าก็อยากให้ผู้เสียหายแจ้งเข้ามาที่ สน.ร่มเกล้า หากใครที่อยู่ต่างจังหวัด ให้ไปแจ้งที่ สภ.ใกล้เคียง เพื่อทำการประสานมายัง สน.ร่มเกล้า ดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ตนอยากจะฝากถึงผู้ที่กระทำผิด ว่าสภาวะแบบนี้อย่าทำแบบนี้เลยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขอให้เป็นตัวอย่าง คนที่กระทำผิดอยู่ลอยนวลได้ไม่นานนัก เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจสมัยนี้นั้นเก่ง มีสามารถ จับคนร้ายได้แน่นอน สุดท้ายนี้ก็อยากจะขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำงานได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ตนยังคงจะช่วยเหลือชาวนานต่อไป โดยอยู่ระหว่างทำการออกแบบโลโก้ผลิตภัณฑ์ ให้ชาวนาที่มาขอความช่วยเหลือไปแล้ว กว่า 100 ราย จากทั้งหมด 400 ราย” ดาราสาว กล่าวทิ้งท้าย เบื้องต้นทางตำรวจต้องทำการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมทั้งได้แจ้งข้อกล่าวหา ก่อนนำตัวผู้ต้องหาทั้งสองส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป