จากกรณีนายสรพงษ์ ชาตรี ดารารุ่นใหญ่ พร้อมน.ส.ดวงเดือน จิไธสง ภรรยา เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนสน.ดอนเมือง ว่า ถูกคนร้ายแฮกเข้าไปในเฟสบุ๊กและแอพพลิเคชั่นไลน์ก่อนหลอกเพื่อนของผู้เสียหายให้โอนเงินเข้าบัญชีคนร้ายจนมีผู้หลงเชื่อและยอมโอนเงินเป็นจำนวนหลายราย ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจกก.สส.บก.น.2 ได้จับกุมตัวน.ส.ละออ แถลงกัน หรือแนน อายุ 36 ปี ชาวจ.นครราชสีมาได้ที่ห้องเช่าแห่งหนึ่ง ต.ทุ่งลูกนก อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม พร้อมของกลางโทรศัพท์ที่ใช้แฮกข้อมูล และบัตรเอทีเอ็มบัญชีที่ใช้รับโอนจากเหยื่อ ซึ่งคนร้ายรับสารภาพว่าได้กระทำการดังกล่าวจริง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 พ.ย.นั้น ความคืบหน้าที่กองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 (กก.สส.บก.น.2) เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 20 พ.ย.59 นายสรพงษ์ ชาตรี อายุ 66 ปี ดารารุ่นใหญ่ พร้อมน.ส.ดวงเดือน จิไธสง ภรรยา นางปิยะนุช พรหมรัตนไพศาล อายุ 50 ปี และนางมะรวง วิจันทึก อายุ 56 ปี ผู้เสียหายโดนหลอกโอนเงิน เดินทางมาชี้ตัวน.ส.ละออ แถลงกัน หรือแนน อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาแฮกเฟสบุ๊กและไลน์ของน.ส.ดวงเดือน โดยมีพ.ต.อ.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รรท.ผบก.น.2 พ.ต.อ.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผกก.สส.บก.น.2 ร่วมสอบปากคำ พ.ต.อ.ภาณุมาศ เปิดเผยว่า หลังจากนายสรพงษ์และน.ส.ดวงเดือนได้เข้าแจ้งความที่สน.ดอนเมือง เมื่อวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กก.สส.บก.น.2 ได้ติดตามจนสามารถจับกุมน.ส.ละออ แถลงกัน หรือแนน อายุ 36 ปี ได้ที่จ.นครปฐม จากการตรวจสอบพบว่าน.ส.ละออได้ก่อเหตุ 2 ครั้ง อีกครั้งทางผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความเมื่อวันที่ 7 พ.ย.ที่สน.ห้วยขวาง ซึ่งจะส่งตัวน.ส.ละออให้กับพนักงานสอบสวนสน.ดอนเมืองดำเนินคดีในข้อหา"นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550" และจะประสานให้สน.ห้วยขวางมาอายัดตัวต่อไป อยากฝากเตือนประชาชนว่ารหัสผ่านการเข้าบัญชีผู้ใช้เฟสบุ๊กและแอพลิเคชั่นไลน์ ควรจะมีทั้งตัวอักษรและตัวเลข เพื่อให้ยากต่อกลุ่มมิจฉาชีพที่จะมาแฮกข้อมูล ทางด้านนายสรพงษ์ ได้พูดคุยสอบถามว่าทำไมต้องเลือกใช้ชื่อของตนและน.ส.ดวงเดือนในการไปหลอกลวงบุคคลอื่น ทำให้น.ส.ละออได้ยกมือไหว้ขอโทษพร้อมกับกล่าวทั้งน้ำตาเล่าสาเหตุที่ต้องหลอกลวงผู้อื่น ก่อนที่นายสรพงษ์จะได้บอกว่า หากไม่มีงานทำก็สามารถไปทำงานด้วยกันที่วัดโนนกุ่ม(วิหารสมเด็จโต) จ.นครราชสีมาได้ และอยากจะบอกว่าเทคโนโลยีสมัยใหม่ไม่ปลอดภัยมากๆ ตนคิดว่าคนเราหากรู้จักกันจะขอยืมเงินกันก็ควรจะต้องไปรับประทานอาหารร่วมกันได้พบปะกัน มากกว่าจะพูดคุยกันผ่านทางข้อความไลน์ แล้วให้โอนเงินให้เป็นวิธีการหลอกลวงที่ง่ายเกินไป ด้านน.ส.ละออ รับสารภาพทั้งน้ำตาว่า ตนก่อเหตุจริงทำมา 2 ครั้ง ได้เงินทั้งหมด 80,000 บาท ส่วนครั้งนี้มีคนหลงเชื่อโอนเงินให้จำนวนเงินประมาณ 60,000 บาท ที่ทำไปเพราะต้องการเงินมาใช้หนี้ ได้นำเงินบางส่วนไปซื้อทอง อีกส่วนก็ใช้หนี้ เหลือเงินสดไว้ใช้จ่ายส่วนตัว ตนประกอบอาชีพทำไร่แต่ไม่มีเงินและต้องการเงินจึงก่อเหตุขึ้น โดยได้นำเบอร์โทรศัพท์ของน.ส.ดวงเดือนพร้อมข้อมูลที่หาได้จากการค้นหาทางเว็บไซต์กูเกิล มาเข้าสู่ระบบเฟสบุ๊กป้าเดือนลุงเอกผ่านทางโทรศัพท์มือถือ โดยสุ่มรหัสซึ่งได้ใช้เบอร์โทรศัพท์ของน.ส.ดวงเดือนเป็นรหัสผ่านก็สามารถเข้าได้ เมื่อเข้าระบบเฟสบุ๊กได้แล้ว จึงใช้บัญชีไลน์ที่เชื่อมต่อไว้กับเฟสบุ๊ก ก่อนจะสุ่มเลือกเพื่อนในไลน์ป้าเดือนลุงเอกเข้าไปพูดคุยหลอกลวงอ้างเป็นน.ส.ดวงเดือน เพื่อหลอกให้โอนเงิน ซึ่งผู้เสียหายแต่ละรายจะถูกหลอกในเรื่องต่างกัน ซึ่งได้สังเกตจากการพูดคุยและจับประเด็นในการพูดคุยเพื่อหาวิธีหลอกลวงให้โอนเงินให้ จนมีผู้เสียหายได้โอนเงินให้ 3 คน นางมะรวง วิจันทึก อายุ 56 ปี นางปิยะนุช พรหมรัตนไพศาล อายุ 50 ปี 2 ใน 3 ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ด้วยความเชื่อใจและเห็นว่าน้องเดือดร้อนจึงรีบโอนเงินมาช่วยเหลือ ก่อนจะทราบภายหลังว่าถูกหลอก เพราะคนร้ายมีวิธีการพิมพ์ข้อความให้น่าเห็นใจ โดยได้ส่งข้อความมาช่วงดึกตั้งแต่วันที่ 16 พ.ย. อ้างว่า ลูกน้องของนายสรพงษ์มีปัญหากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และขอให้ปิดเป็นความลับและขอให้รีบโอนเงินให้ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเปลี่ยนเวร ทำให้ผู้เสียหายทั้ง 2 คนหลงเชื่อก่อนจะรีบโอนเงินเข้าบัญชีให้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างทำการสอบสวนผู้ต้องหา พร้อมกับชี้แจงต่อสื่อมวลชลอยู่นั้น นายฤทธิ์ลือชา คุ้มแพรวพรรณ หรือฤทธิ์ ลือชา อายุ 72 ปี ดารารุ่นเก๋าอเดินทางมาให้กำลังใจกับนายสรพงษ์ พร้อมทั้งอยากจะเห็นหน้าคนร้าย และได้เปิดเผยว่าลูกน้องของตนก็โดนหลอกลวงในลักษณะเดียวกัน แต่ไม่ได้โอนเงินไปให้