ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับการเข้ามาทำตลาดรถยนต์ในเมืองไทย เราจึงเห็นรถยนต์จากหลายๆ ค่าย ค่อยๆ ปิดตัวไปแล้วปล่อยให้มือใหม่เข้ามาทำตลาดแทน ถึงแม้โด่งดังสักแค่ไหน ในตลาดโลก ก็ไม่ทำให้คนไทยเปลี่ยนใจง่ายนัก ค่ายรถยนต์น้องใหม่ ที่รุกตลาดเมืองไทยอย่างต่อเนื่อง ก็คงหนีไม่พ้นค่ายเอ็มจี รถยนต์ที่มีตำนานก่อกำเนิดในประเทศอังกฤษ ปัจจุบันแม้ว่าจะถูกเปลี่ยนมือไปเป็นนักธุรกิจจีน ที่เงินหนากว่า แต่ก็ยังคงใช้การออกแบบจากถิ่นกำเนิดเช่นเดิม ค่ายเอ็มจีมีรถยนต์หลายรุ่นมาทำตลาดเมืองไทย ในราคาไม่สูงนัก หนึ่งในนั้นก็มีเอ็มจี 6 รวมอยู่ด้วย ซึ่งโฉมปัจจุบันของรถยนต์รุ่นนี้ จะถูกปรับเปลี่ยนแบบไมเนอร์เชนจ์ หลังจากเปิดตัวรุ่นแรกไปแล้วก่อนน้านี้ การออกแบบเอ็มจี 6 ที่ถูกปรับปรุงรูปโฉมทั้งภายในและภายนอกจะใช้ทีมวิศวกรและดีไซน์เนอร์ ของเอ็มจี จากยูเค เทคนิเซียล เซ็นเตอร์ ปะเทศอังกฤษ ในการเพิ่มความเป็นสปอร์ต เร้าใจให้กับเอ็มจี 6 ในทุกมุมมอง เอ็มจี 6 ปรับโฉมแบบไมเนอร์เชนจ์ การปรับปรุงโฉมจะคำนึงถึงหลักอากาศพลศาสตร์ มากที่สุด ทำให้เอ็มจี 6 มีเส้นสายที่โฉบเฉี่ยว จากการออกแบบกันชนหน้าใหม่ ให้สอดรับกับโลโก้ เอ็มจี ที่โดดเด่นอยู่บนกระจังหน้า สามารถให้อากาศไหลผ่านหลังคารถได้อย่างลื่นไหลผ่านเส้นโค้งของหลังคาที่ลาดลงจรดกระโปรงหลัง กันชนและไฟท้ายถูกออกแบบใหม่ในสไตล์ รถยุโรป พร้อมเพิ่มไฟเบรกดวงที่ 3 เป็นแอลอีดี ไฟหน้าแบบไฟซีนอน เอชไอดี ที่ให้ความสว่างมากขึ้น มีระบบหัวฉีดน้ำล้างไฟหน้าไม่ให้หมดยามเมื่อต้องลุยฝน พร้อมความปอดภัยด้วยไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน ดีไซน์ภายใน รูปทรงสปอร์ต ระบบปรับอากาศแบบ Dual Zone เบาะนั่งกระชับรับสรีระ ภายในดีไซน์ใหม่โทนสีเบจ โดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยคอนโซลหน้าสีเทาเข้มพร้อมจอมาตรวัดดีไซน์ใหม่ ครบทุกฟังก์ชันความบันเทิงทั้ง CD และ MP3 หน้าจอแบบทัชสกรีนขนาด 7 นิ้ว พร้อมระบบ นำทางบลูทูธ กล้องมองหลัง และลำโพงคุณภาพสูง 8 ตำแหน่ง รองรับ USB และ AUX ช่วยเพิ่มความบันเทิงและความปลอดภัยตลอดทุกการเดินทาง ภายในกว้างขวางสะดวกสบาย แต่ยังคงความสปอร์ตพรีเมียม เบาะที่นั่งสบายกระชับรับสรีระปรับด้วยระบบไฟฟ้า 6 ทิศทาง สำหรับที่นั่งตอนหน้าแผงประตูดีไซน์ใหม่ พร้อมเบาะหลังสามารถปรับพับได้แบบ 60:40 ช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ สะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยระบบปรับอากาศแบบ Dual Zone สามารถแยกปรับระดับอุณหภูมิได้อย่างอิสระสำหรับผู้โดยสารตอนหน้าและผู้ขับขี่ หลังคาซันรูฟปรับด้วยระบบไฟฟ้า เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ในทุกการเดินทาง นอกจากนี้เอ็มจี 6 ยังติดตั้งแผงบังแดดด้านหลังอีกด้วย เครื่องยนต์เทอร์โบ ขนาด 1.8 ลิตร พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ให้พละกำลังสูงสุดถึง 161 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 215 นิวตัน-เมตรที่ 2,000-4,500 รอบต่อนาที รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 มาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีดคลัตช์ช่วยลดระยะเวลาในการเปลี่ยนเกียร์ลงเหลือเพียง 0.2 วินาที ทำให้ได้ความนุ่มนวลในทุกการขับขี่ อีกทั้งยังช่วยลดอัตราการสิ้นเปลือง สปอร์ตเร้าใจเพิ่มขึ้นด้วยโหมดการขับขี่แบบ Sport และพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นปรับระดับ 4 ทิศทางพร้อม Paddle Shift ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถปรับเปลี่ยนเกียร์ได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส เอ็มจี 6 รองรับทุกพลังแห่งการควบคุมด้วยช่วงล่างแบบ European Tuning Suspension ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สัน สตรัท ส่วนระบบกันสะเทือนด้านหลังแบบ แซ็ด-ไทป์ มัลติลิงค์ ที่สามารถตอบสนองทุกการขับขี่ ทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับรถยนต์อย่างแท้จริง ภายในดีไซน์ใหม่โทนสีเบจ ล้ออัลลอย 17 นิ้วแบบทูโทน ระบบช่วงล่างและกันสะเทือนของเอ็มจี 6 ประกอบไปด้วยระบบกันสะเทือนหน้าหลังที่มาพร้อมเหล็กกันโคลง เพื่อการขับขี่ที่ดีและเสถียรภาพของรถ ขนาดที่เหมาะสมของเหล็กกันโคลง ทำหน้าที่ช่วยเหลือการควบคุมรถขณะเข้าโค้ง ช่วงล่างแบบอิสระช่วยลดการสั่นสะเทือน สร้างสมดุลของโช้คอัพ สามรถปรับให้ยืดหยุ่นตามสภาพถนน เอ็มจี 6 ยังเหนือระดับด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยเพิ่มขึ้นอีก 5 ฟังก์ชั่นทั้งระบบ Auto Hold เพิ่มความสะดวกในการขับขี่ ให้คุณไม่ต้องเหยียบเบรกค้างไว้ในช่วงการจราจรติดขัด และเมื่อแตะคันเร่ง รถจะออกตัวอย่างนุ่มนวล เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร เทอร์โบอินเตอร์คูลเลอร์ ระบบควบคุมแรงบิดของล้อในขณะเข้าโค้ง DWTC (Dynamic Wheel Torque Control) ช่วยเพิ่มความมั่นคง ความคล่องตัวและความปลอดภัยเมื่อเข้าโค้ง ระบบแจ้งเตือนทิศทางของพวงมาลัยหลังสตาร์ทเครื่องยนต์ (Steering Wheel Reminder) ระบบจะแจ้งเตือนเมื่อพวงมาลัยถูกหมุนไปจากทิศทางตรงเกินกว่า 90 องศา เพื่อช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุขณะออกตัว ไฟส่องสว่างด้านข้างขณะเลี้ยว (Cornering Lights) ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ยามค่ำคืนขณะเลี้ยว ช่วยเพิ่มความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ระบบปรับระดับไฟหน้าสูง-ต่ำอัตโนมัติ (Auto-Leveling Headlights) ช่วยป้องกันไม่ให้แสงจากไฟหน้ารบกวนผู้ขับขี่คันหน้า หรือผู้ที่ขับขี่ในฝั่งตรงข้าม เอ็มจี 6 ยังให้ความมั่นใจด้วยนวัตกรรมการออกแบบตัวถัง USD (Ultimate Stiffness Design) โครงสร้างทำจากเหล็กที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษ พร้อมคานเหล็กนิรภัยที่ช่วยรับแรงกระแทกจากด้านข้างและถุงลมนิรภัย 6 ลูก ปกป้องห้องโดยสารให้เป็นโซนนิรภัยขณะเกิดอุบัติเหตุ เบาะที่นั่งยังถูกออกแบบให้รองรับกับสรีระของทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร พวงมาลัยแบบยุบตัวได้ และวาล์วตัดการทำงานของน้ำมันเชื้อเพลิง ช่วยเพิ่มความปลอดภัยตามมาตรฐานยุโรป คอลัมน์ ยุทธจักรยานยนต์:อภิชัย ไกรนุกูล