การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย MOU สั่งซื้อข้าวสารหอมมะลิ สหกรณ์การเกษตรเกษตรวิสัย จำกัด 5,000 ตัน ตามโครงการ “อุตสาหกรรมร่วมใจ ช่วยชาวนาไทยขายข้าว” ขณะที่ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ระบุช่วยบรรเทาทุกข์ชาวนาทุ่งกุลาร้องไห้ 2 แสนราย ดร.วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ดร.วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ พร้อมด้วยนายพีรพนธ์ กิจโกศล สหกรณ์จังหวัดร้อยเอ็ด ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การสั่งซื้อข้าวสารหอมมะลิตามโครงการ “อุตสาหกรรมร่วมใจ ช่วยชาวนาไทยขายข้าว” ระหว่างดร.วีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยกับนางบุญเกิด ภานนท์ ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรเกษตรวิสัย จำกัด จังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อแก้ไขปัญหาราคาข้าวตกต่ำ โดยเชิญชวนผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมทั่วประเทศซื้อข้าวสารจากเกษตรกร เป้าหมายสั่งซื้อข้าวสาร จำนวน 5,000 ตัน ณ ห้องประชุม การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) สำนักงานใหญ่ กรุงเทพมหานคร ดร.วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า กรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้คัดเลือกสหกรณ์การเกษตรเกษตรวิสัย จำกัด เป็นผู้จัดหาข้าวสารหอมมะลิ 100% คุณภาพดีมาส่งมอบให้แก่ กนอ. เนื่องจากเป็นสหกรณ์การเกษตรขนาดใหญ่ มีศักยภาพและมาตรฐานการผลิตข้าวสารหอมมะลิ 100% บรรจุถุงระดับส่งออกสู่ตลาดต่างประเทศ และเป็นสมาชิกสำคัญของคลัสเตอร์กลุ่มข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตข้าวหอมมะลิดีที่สุดของประเทศไทย ครอบคลุมพื้นที่ 2.1 ล้านไร่ ใน 5 จังหวัด ได้แก่ ร้อยเอ็ด สุรินทร์ ศรีสะเกษ มหาสารคาม และยโสธร ดังนั้น การรับซื้อข้าวของ กนอ. จึงไม่เพียงเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรที่เป็นสมาชิกของสหกรณ์การเกษตรเกษตรวิสัย จำกัด เกือบ 9,000 ราย แต่ยังเป็นการช่วยเหลือต่อเนื่องไปถึงเกษตรกรที่เป็นแกนหลักของคลัสเตอร์กลุ่มข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ อีกประมาณ 200,000 ราย รวมถึงครอบครัวของเกษตรกรเหล่านี้ด้วย นางบุญเกิด ภานนท์ ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรเกษตรวิสัย จำกัด ด้าน นางบุญเกิด ภานนท์ ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรเกษตรวิสัย จำกัด กล่าวว่า รู้สึกดีใจอย่างมากที่ กนอ.ให้ความช่วยเหลือชาวนาไทย เพราะช่วงที่ผ่านมาชาวนาไทยเดือดร้อนมาก โดยเฉพาะสหกรณ์การเกษตรขนาดเล็กหลายแห่งที่หาตลาดขายข้าวได้ยาก ซึ่งทางสหกรณ์การเกษตรเกษตรวิสัย จำกัด พยายามช่วยเหลือชาวนาโดยการรับซื้อข้าวจากชาวนาราคาที่สูงกว่าตลาด แล้วนำมาสร้างมูลค่าเพิ่มโดยผ่านกระบวนการปรับปรุงคุณภาพข้าว เพื่อให้ได้ข้าวเกรดพรีเมี่ยมส่งถึงมือผู้บริโภคต่อไป ทั้งนี้ ข้าวที่จะนำมาส่งมอบให้ กนอ.จะเป็นข้าวที่ได้มาจากทั้งสมาชิกของสหกรณ์การเกษตรเกษตรวิสัย จำกัด และรับซื้อจากคลัสเตอร์กลุ่มข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ ซึ่งเป็นข้าวคุณภาพดี ไม่รมสารเคมี และจำหน่ายราคาถูกกว่าซื้อจากพ่อค้าคนกลาง โดยข้าวบรรจุถุง 5 กิโลกรัม จำหน่ายเพียง 160 บาท จากราคาจำหน่ายในห้างสรรพสินค้า อยู่ที่ 280 บาท นายพีรพนธ์ กิจโกศล สหกรณ์จังหวัดร้อยเอ็ด ขณะที่ นายพีรพนธ์ กิจโกศล สหกรณ์จังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า สหกรณ์การเกษตรเกษตรวิสัย จำกัด เป็นแกนหลักของเครือข่ายคัสเตอร์ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ 20 สหกรณ์ 5 จังหวัด ที่มีศักยภาพในการรวบรวมข้าวเปลือกของพี่น้องชาวนาสมาชิกสหกรณ์ แล้วนำมาแปรรูปเป็นข้าวสารด้วยโรงสีข้าวของสหกรณ์เองกำลังการผลิต 120 ตัน/วัน ซึ่งการสั่งซื้อข้าวของนิคมอุตสาหกรรมครั้งนี้ จะเป็นรายได้และเกิดประโยชน์กับพี่น้องชาวนาโดยตรง ส่งผลให้สหกรณ์ตั้งราคารับซื้อข้าวหอมมะลิเกี่ยวสดได้ราคา ณ วันนี้ 8.70 บาท/กก. พี่น้องชาวนาในทุ่งกุลาร้องไห้จะได้อานิสงค์อย่างทั่วถึง