เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 พ.ย. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช.ทำหน้าที่ประธาน ได้ลงมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่....) พ.ศ. (แก้ไขอัตราโทษในภาค 2 ความผิด ) ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นผู้เสนอในวาระแรกสนช.รับหลักการแก้ไข กม. เพิ่มค่าปรับคดีอาญา 1 ด้วยคะแนน 195 เสียง งดออกเสียง 3 ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญจำนวน 15 คน พิจารณาภายใน 30 วัน โดยนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า ร่าง พ.ร.บ.นี้เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาเกี่ยวกับอัตราโทษปรับและการบังคับโทษปรับ โดย พ.ร.บ.แก้ไชเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 22) พ.ศ.2558 ได้แก้ไขอัตราโทษปรับสำหรับความผิดลหุโทษในภาค 3 เพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่า ทำให้อัตราโทษปรับสำหรับความผิดลหุโทษเพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่อัตราโทษปรับสำหรับความผิดในภาค 2 ของประมวลกฎหมายอาญา ไม่ได้มีการแก้ไข อีกทั้งอัตราโทษปรับในความผิดภาค 2 ใช้บังคับมานานแล้ว ไม่สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนแปลง ทำให้การลงโทษไม่เกิดประสิทธิภาพ จึงควรปรับปรุงอัตราโทษปรับในภาค 2 ความผิดโดยเพิ่มอัตราโทษปรับในสัดส่วนอัตราโทษจำคุก 1 ปีต่ออัตราโทษปรับ 2 หมื่นบาท นายวิษณุ กล่าวว่า หลักการของร่าง พ.ร.บ.ฉบับมี 3 เรื่อง คือ1.แก้ไขเพิ่มเติมให้การอายัดสิทธิเรียกร้องแทนค่าปรับ มีกำหนดเวลาบังคับใช้ 5 ปีนับแต่วันที่ได้มีคำพิพากษาถึงที่สุด 2.ความผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัสทั้งทางร่างกายและจิตใจ จากเดิมที่ระวางโทษจำคุก ก็แก้ไขเป็นทั้งจำคุกและปรับ เพื่อให้ศาลได้ใช้ดุลพินิจกว้างขวางมากขึ้น และ 3. แก้ไขอัตราโทษปรับในบทบัญญัติต่างๆ ในภาค 2 ความผิดแห่งประมวลอาญา โดยเพิ่มอัตราโทษปรับในสัดส่วนอัตราโทษจำคุก 1 ปีต่ออัตราโทษปรับ 2 หมื่นบาท โดยขอให้มีการจัดทำรายละเอียดตัวร่างมาตราที่มีการ ปรับเปลี่ยนให้มาอยู่ในบัญชีเดียวกัน โดยไม่ต้องทำรายมาตราเพราะจะยากและใช้เวลานาน ทั้งนี้นายพรเพชร ได้ฝากข้อสังเกตไปยังรัฐบาลว่า มีคดีประเภทหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการพนัน โทษปรับยังต่ำมาก แต่การจับกุมใช้กำลังเจ้าหน้าที่จำนวนมากแต่ได้ค่าปรับกลับมาน้อยมาก จึงขอฝากให้รัฐบาลไปพิจารณา