เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 25 พ.ย. 59 - ที่ตึกนารีสโมสร พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมการประชุมของคณะกรรมการในเรื่องพระราชพิธี ว่า ในการประชุมจะทำความเข้าใจกับทุกภาคส่วนเรื่องแบบพระเมรุมาศ พระโกศจันทร์ และพระโกศเล็ก ซึ่งแบบทั้งหมดดำเนินการเสร็จแล้ว โดยสถานที่จัดงานอาจจะกินพื้นที่ของท้องสนามหลวงประมาณสองในสาม โดยจะรับพื้นที่ในวันที่ 10 ม.ค. 60 จะมีการลงเสาปักเขตต่างๆ ซึ่งตนและเจ้าหน้าที่ไปดูเสร็จก็จะเริ่มดำเนินการก่อสร้าง ทั้งหมดจะเสร็จไม่เกินเดือนกันยายน อย่างไรก็ดี วันที่ 19 ธ.ค.นี้จะมีการบวงสรวงราชรถ ราชยาน ส่วนพระราชพิธีในท้องสนามหลวงก็จะมีการบวงสรวงเช่นเดียวกัน แต่ต้องรอให้เป็นไปตามขั้นตอน ยืนยันว่าเรามีความพร้อม ช่างสิบหมู่ก็มีความพร้อม อย่างน้อยมีช่างฝีมืออยู่ 150 คน เป็นผู้มีความรู้ความสามารถ ขณะเดียวกันเรื่องการแทงหยวกกล้วย กระดาษย่น และดอกไม้ จะพยายามให้ผู้เกี่ยวข้อง และประชาชนมีส่วนร่วม ภายใต้การกำกับดูแลของช่างสิบหมู่ มีมาตรฐานและสมพระเกียรติอย่างยิ่ง เมื่อถามว่าวันที่ 1-2 ธ.ค.ที่จะมีการทำความสะอาดท้องสนามหลวง จะมีการขยับขยายอะไรหรือไม่ พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่า ในวันที่ 31 ธ.ค.59 - 1 ม.ค.60 กทม.คงจะมีการจัดสวดมนต์ข้ามปี ขณะนี้เราทำพื้นที่ทางด้านใต้บริเวณพระแม่ธรณีบีบมวยผม เพื่อบริการประชาชน โดยน่าจะบริหารจัดการได้ประมาณ 40,000 คน เมื่อตรงนั้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็จะขอคืนพื้นที่ และที่บริเวณนั้นจะไม่สามารถเข้าได้จะเป็นเรื่องของการก่อสร้าง ทั้งนี้ในวันประชุมจะมีการเสนอแบบในที่ประชุมด้วย ขณะเดียวกันวันที่ 5 ธ.ค. การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับภาคีเครือข่าย อาทิ บริษัท จีเอ็มเอ็มแกรมมี่ จำกัด(มหาชน) บริษัท อาร์เอส จำกัด(มหาชน) สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 และทุกภาคส่วนจะไปร่วมกันสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในหลวงรัชกาลที่ 9 ในวันคล้ายวันพระราชสมภพ 5 ธันวาคม ซึ่งจะจัดที่สะพานภูมิพล มีกิจกรรมดนตรีเพลงพระราชนิพนธ์ โดยงานเริ่มเวลา 06.19 น. จะมีการร้องเพลงพระราชนิพนธ์ใกล้รุ่ง จากนั้นจะเป็นเพลงสรรเสริญพระบารมี และจะมีการสวดชยันโต และปล่อยลูกโป่ง เสร็จแล้วจะมีการถวายสังฆทานพระ 999 รูป โดยสมเด็จวัดพิชัยญาติมาเป็นประธาน เพื่อถวายพระราชกุศล โดยรัฐบาลจะขอความร่วมมือปิดถนนและปิดสะพานบริเวณดังกล่าว คาดว่าไม่เกินเวลา 11.00 น.จะเสร็จสิ้นพิธี พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่า ในช่วงปีใหม่เราจะมีการจัดงาน โดยกระทรวงวัฒนธรรม กรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงมหาดไทย กทม. สำนักพระพุทธศาสนา และส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งประเทศ จะจัดสวดมนต์ในวัด ซึ่งจะเชิญวัดเครือข่ายในต่างประเทศเข้าร่วมด้วย โดยปีที่แล้วมีประชาชนประมาณ 18,400,000 คนเข้าร่วม นอกจากนี้จะมีการสวดมนต์อาเซียนระหว่างชายแดน 14 จังหวัดเหมือนเดิม อุทยานต่างๆ จะจัดสวดมนต์ข้ามปี ขณะเดียวกันเราให้จัดงานปีใหม่ได้ โดยขอความร่วมมือให้ทำกิจกรรมพร้อมกัน 3 อย่าง คือ เวลา 21.00 น. จะเป็นการถวายความอาลัย ยืนสงบนิ่งถวายพระองค์ท่าน 89 วินาที ส่วนนอกวัดจะมีการจัดกิจกรรมการแสดงวัฒนธรรม มีดนตรีที่เหมาะสมได้ ส่วนในวัดก็สวดมนต์ ส่วนเวลา 23.45 น. เป็นการสวดมนต์ส่งท้ายปีเก่า จะสวดทั้งในและนอกวัดทั้งประเทศ เป็นการสวดให้ประเทศ พระมหากษัตริย์ ราชวงศ์ และตัวท่านเอง เพื่อเป็นศิริมงคลส่งท้ายปีเก่า ส่วนเวลา 00.00 น. ฆราวาสจะมีการเคาท์ดาวน์ ร้องเพลงปีใหม่ได้ ซึ่งเป็นเพลงที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงพระราชนิพนธ์ไว้ ส่วนในวัดทุกวัดประมาณ 40,000 กว่าวัดจะมีการตีฆ้อง และสวดชยันโต จากนั้นเวลา 00.09 น. ทั้งในวัดและนอกวัดจะจุดเทียน เพื่อเป็นมงคลเรียกว่าเป็นแสงเทียนแห่งสยาม และจะมีการสวดมนต์ด้วยเช่นกัน จะให้ต่างชาติหรือซีเอ็นเอ็นมาถ่ายทำสิ่งเหล่านี้ ส่วนการจุดพลุนั้นอาจจะไม่มี มั่นใจว่าการจัดงานปีใหม่จะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ ซึ่งหลายๆ โรงแรมมีการจองเข้ามาแล้วกว่า 90 เปอร์เซ็น ส่วนศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และศูนย์การค้าอิมพีเรียล จะจัดเหมือนเดิม แต่บริเวณสนามหลวงจะไม่มีกิจกรรมรื่นเริง จะมีเพียงการสวดมนต์เท่านั้น และตนจะเชิญรัฐมนตรีให้ไปเป็นเจ้าภาพในแต่ละวัดด้วย