เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 9 ธ.ค. พ.ต.อ.ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ รรท.ผบก.น.7 สั่งการให้ พ.ต.อ.ธนวรรธน์ ตาระกา ผกก.สน.ตลิ่งชัน และ พ.ต.อ.ภิญโญ ป้อมสถิตย์ ผกก.สส.บก.น.7 นำกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุคนร้ายชาย 2 คน ข่มขืนนักท่องเที่ยวสาวชาวออสเตรเลีย บริเวณพงหญ้าด้านหลังอาคารวัฏจักร ถนนบรมราชชนนีขาออก แขวงและเขตตลิ่งชัน กทม.เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 04.00 น.ของวันที่ 5 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 5 ธ.ค. มีพลเมืองดีพา น.ส.เบลล่า (นามสมมุติ) อายุ 21 ปี นักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลีย เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน ว่า ถูกโชเฟอร์รถสามล้อชาวไทยล่อลวงจากถนนข้าวสารมาให้เพื่อนร่วมรุมโทรมที่พงหญ้าด้านหลังอาคารดังกล่าว จากการสอบสวน น.ส.เบลล่า เล่าว่า เป็นนักท่องเที่ยวเดินทางจากประเทศออสเตรเลียเข้ามาเพียงลำพัง ตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. โดยเปิดห้องพักอยู่ที่ รังขมิ้นโฮมสเตย์ ถนนตานี แขวงตลาดยอด เขตพระนคร ตั้งใจจะท่องเที่ยวศึกษาวัฒนธรรมไทยตามวัดและชุมชนท้องถิ่นในกรุงเทพมหานคร ก่อนเดินทางไปต่างจังหวัดต่อไป จนกระทั่งวันที่ 4 ธ.ค. เวลาประมาณ 18.00 น. ได้ไปนั่งดื่มเบียร์ ที่ร้าน Km cocktails กับเพื่อนนักท่องเที่ยวที่รู้จักกันที่เมืองไทยในถนนข้าวสาร และเปลี่ยนไปดื่มกินต่อที่ร้านเหล้าใกล้กันอีก1 ร้าน จนเวลาเวลาราวๆ 03.00 น.วันที่ 5 ธ.ค.รู้สึกมึนๆ จำทางกลับที่พักไม่ได้ จึงเรียกรถสามล้อคนไทยให้ช่วยพาไปส่ง แต่พอรู้ตัวอีกทีก็ถูกพาไปที่พงหญ้าด้านหลังอาคารจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นอาคารร้าง โดยมีคนร้ายชายอีก 1 คน ซึ่งคาดว่าเป็นเพื่อนกับโชเฟอร์สามล้อรออยู่ก่อนแล้ว จากนั้นคนร้ายทั้งคู่ก็ลงมือทำร้ายร่างกายตนด้วยการตบหน้า ใช้กำลังผลัดกันขืนใจตนจนสำเร็จความใคร่คนละ 1 ครั้ง ก่อนจะพากันขึ้นรถสามล้อขับหลบหนีไป จากนั้นเมื่อ น.ส.เบลล่า ตั้งสติได้จึงเดินออกมาริมถนนบรมราชชนนีเพื่อขอความช่วยเหลือพบหญิงพลเมืองดีชาวไทยขี่รถ จยย.ผ่านมา และอาสาพาเข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.ตลิ่งชัน จากการส่งตรวจร่างกาย ที่ รพ.ศิริราช แพทย์พบร่องรอยการถูกล่วงละเมิดทางเพศจริง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ตลิ่งชัน และ กก.สส.บก.น.7 ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณละแวกใกล้เคียงถนนข้าวสารพบว่าก่อนเกิดเหตุ น.ส.เบลล่า มีการไปนั่งดื่มกินกับเพื่อนชาวต่างชาติจริง และเดินออกมาเรียกรถสามล้อบริเวณหน้าศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ ถนนราชดำเนิน แต่กล้องไม่ชัดจึงไม่สามารถบันทึกภาพทะเบียนรถเอาไว้ได้ โดยหลังจากนี้จะทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดตัวอื่นๆ เพื่อตามล่าตัวโชเฟอร์สามล้อและเพื่อนที่ร่วมก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับอาคารวัฏจักร ใกล้เคียงจุดที่เกิดเหตุนั้นปัจจุบันเป็นอาคารร้างไม่มีแสงไฟส่องสว่างและยามกลางคืนจะค่อนข้างมืดและเปลี่ยว ที่ผ่านมาจะมีวัยรุ่นลักลอบเข้าไปพ่นสีสเปรย์แนวกราฟิตี้เป็นลวดลายตามผนังหลายแห่ง จนบรรดาช่างภาพมือสมัครเล่นนิยมพานางแบบแอบลักลอบเข้าไปใช้เป็นโลเคชั่นในการถ่ายภาพจำนวนมาก เป็นที่รู้จักกันของหมู่ช่างภาพในนามอาคารร้างถนนบรมราชชนนี ซึ่งหลังจากนี้ตำรวจจะหาทางป้องกันการบุกรุกเข้าออกในอาคารแห่งนี้เพื่อป้องกันเหตุต่อไป.