ผู้ว่าฯตรัง เผยน้ำท่วมเมืองตรังรุนแรงมาก น้ำทะเลหนุนซ้ำ ทนจมใต้บาดาลไปอีกนาน ทุกฝ่ายช่วยเหลือเป็นครอบครัวเดียวกัน ประสานเครื่องสูบน้ำช่วยวัดท่าจีน ด้านปศุสัตว์แจกหญ้า ยารักษาโรคให้เกษตรกร
เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 10 ธันวาคม ที่บ้านพักจวนผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง นายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดตรังว่า ขณะนี้พื้นที่ที่ประสบภัยน้ำท่วมของ อำเภอรัษฎา อ.ห้วยยอด อ.วังวิเศษ อ.นาโยง เริ่มกลับเข้าภาวะปกติแล้วและคลี่คลายลง แต่ที่เกิดปัญหาใหม่และหนักมากในกรณีที่พนังกั้นน้ำแม่น้ำตรังแตก ในพื้นที่ 3 ตำบล 4 จุด คือต.หนองตรุด ต.นาท่ามใต้ และต.บางรัก เป็นลักษณะน้ำที่เกิดจากพนังกั้นน้ำแตกและเทลงมาจากจำนวนน้ำมหาศาลจากแม่น้ำตรัง ทำให้ระดับน้ำเสมอกับคันพนังกั้นน้ำซึ่งสูงประมาณ 2 เมตร เทลงมาไปที่ว่างส่งผลให้เกิดความรุนแรงมาก
นายศิริพัฒ กล่าวว่า พนังกั้นน้ำที่แตกเดิมความยาวประมาณ 20 เมตร มีการขยายกว้างไปถึงจุดละ 40-50 เมตร มวลสารน้ำจึงไหลแรงและเชี่ยวมากไปเติมกับปริมาณน้ำที่ท่วมอยู่แล้ว ยอมรับว่าพี่น้องประชาชนตกใจกันเป็นอย่างมาก แม้แต่ทางจังหวัด กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ท้องถิ่นก็กใจกันหมด แต่ถึงอย่างไรเราก็ต้องช่วยเหลือกัน ไม่ว่าจะอพยพชาวบ้าน สิ่งของ โดยเฉพาะบ้านชั้นเดียวจะต้องอพยพมาอยู่ในเต้นท์ที่พักชั่วคราวบนถนน เพราะว่าบางแห่งน้ำท่วมถึงหลังคา” นายศิริพัฒ กล่าว
นายศิริพัฒ กล่าวอีกว่า สถานที่เกิดน้ำท่วม ไม่ว่าจะเป็นหนองตรุด นาท่ามบางรัก ก็สื่อให้เห็นถึงความต่ำของพื้นที่อยู่แล้ว ประเด็นความเสียหายแม้จะไม่หนาแน่น เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เกษตรกรรม ปลูกยางพารา ปาล์มน้ำมัน แต่ด้วยความรุนแรงทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมาก การให้ความช่วยเหลือแม้จะช้าไปบ้างแต่ก็ทั่วถึงทุกที่ทุกแห่งอย่างแน่นอน” นายศิริพัฒ กล่าว
“น้ำที่ท่วมในพื้นที่อำเภอเมืองตรัง จะค่อยๆไหลแผ่กระจายเป็นหน้ากระดานที่ละนิด ทีละน้อย ไปอย่างช้าๆไหลลงสู่ทะเลอันดามัน ที่ อ.กันตัง ทำให้พื้นที่ อ.กันตัง ซึ่งรองรับน้ำท้ายสุด จะท่วมไม่สูงแต่จะท่วมนากว่าปกติ อีก 2-3 วันน้ำทะลจะหนุน ส่งผลให้การเดินทางของน้ำจะช้าลง ตอนนี้เราจะต้องร่วมทุกข์ด้วยกัน จะแบ่งว่า เป็นเจ้าหน้าที่ เป็นนายก อบต. เป็นสื่อมวลชน เป็นชาวบ้าน ไม่ได้เราจะต้องเป็นครอบครัวเดียวกัน ช่วยกันพากันเดินให้พ้นจากทุกข์ภัยน้ำท่วมตลอดลอดรอดฝั่ง”
นายศิริพัฒ กล่าวและว่า ในส่วนความเดือดร้อนของวัดประสิทธิชัย หรือวัดท่าจีน ที่ประสบภัยน้ำท่วมนั้น เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนและแก้ปัญหาในเบื้องต้น ทางจังหวัดตรังได้ประสานสนับสนุนเครื่องสูบน้ำระบบไฮโดรลิค จำนวน 3 เครื่องๆหนึ่งจะสูบน้ำได้ 150,000 ลิตรต่อนาที นอกจากนี้ยังมีการนำเครื่องสูบน้ำจากสำนักงานชลประทานตรังมีช่วยกันสูบน้ำอีกด้วย
นายไพโรจน์ อินทรศรี ปศุสัตว์จังหวัดตรัง กล่วว่าจากภาวะน้ำท่วมในครั้งนี้ ส่งผลให้เกิดผลกระทบด้านปศุสัตว์ในพื้นที่น้ำท่วมชาวบ้านต้องอพยพสัตว์เลี้ยงไปไว้บนที่สูง โดยเฉพาะวัว ขาดแคลนหญ้าแห้งกว่า 5-6 พันตัว แจกจ่ายหญ้าแห้งไปแล้วกว่า 20 ตัน และไก่ต้องอพยพหนีน้ำนับแสนตัว เพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรเลี้ยงสัตว์ ได้มอบเสบียงอาหารสัตว์ (หญ้าแห้ง) จำนวน 6,000 กิโลกรัม ยาถ่ายพยาธิโค และรักษาพยาบาลสัตว์ป่วย
นายศิริพัฒ กล่าวว่า พนังกั้นน้ำที่แตกเดิมความยาวประมาณ 20 เมตร มีการขยายกว้างไปถึงจุดละ 40-50 เมตร มวลสารน้ำจึงไหลแรงและเชี่ยวมากไปเติมกับปริมาณน้ำที่ท่วมอยู่แล้ว ยอมรับว่าพี่น้องประชาชนตกใจกันเป็นอย่างมาก แม้แต่ทางจังหวัด กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ท้องถิ่นก็กใจกันหมด แต่ถึงอย่างไรเราก็ต้องช่วยเหลือกัน ไม่ว่าจะอพยพชาวบ้าน สิ่งของ โดยเฉพาะบ้านชั้นเดียวจะต้องอพยพมาอยู่ในเต้นท์ที่พักชั่วคราวบนถนน เพราะว่าบางแห่งน้ำท่วมถึงหลังคา” นายศิริพัฒ กล่าว
นายศิริพัฒ กล่าวอีกว่า สถานที่เกิดน้ำท่วม ไม่ว่าจะเป็นหนองตรุด นาท่ามบางรัก ก็สื่อให้เห็นถึงความต่ำของพื้นที่อยู่แล้ว ประเด็นความเสียหายแม้จะไม่หนาแน่น เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เกษตรกรรม ปลูกยางพารา ปาล์มน้ำมัน แต่ด้วยความรุนแรงทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมาก การให้ความช่วยเหลือแม้จะช้าไปบ้างแต่ก็ทั่วถึงทุกที่ทุกแห่งอย่างแน่นอน” นายศิริพัฒ กล่าว
“น้ำที่ท่วมในพื้นที่อำเภอเมืองตรัง จะค่อยๆไหลแผ่กระจายเป็นหน้ากระดานที่ละนิด ทีละน้อย ไปอย่างช้าๆไหลลงสู่ทะเลอันดามัน ที่ อ.กันตัง ทำให้พื้นที่ อ.กันตัง ซึ่งรองรับน้ำท้ายสุด จะท่วมไม่สูงแต่จะท่วมนากว่าปกติ อีก 2-3 วันน้ำทะลจะหนุน ส่งผลให้การเดินทางของน้ำจะช้าลง ตอนนี้เราจะต้องร่วมทุกข์ด้วยกัน จะแบ่งว่า เป็นเจ้าหน้าที่ เป็นนายก อบต. เป็นสื่อมวลชน เป็นชาวบ้าน ไม่ได้เราจะต้องเป็นครอบครัวเดียวกัน ช่วยกันพากันเดินให้พ้นจากทุกข์ภัยน้ำท่วมตลอดลอดรอดฝั่ง”
นายศิริพัฒ กล่าวและว่า ในส่วนความเดือดร้อนของวัดประสิทธิชัย หรือวัดท่าจีน ที่ประสบภัยน้ำท่วมนั้น เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนและแก้ปัญหาในเบื้องต้น ทางจังหวัดตรังได้ประสานสนับสนุนเครื่องสูบน้ำระบบไฮโดรลิค จำนวน 3 เครื่องๆหนึ่งจะสูบน้ำได้ 150,000 ลิตรต่อนาที นอกจากนี้ยังมีการนำเครื่องสูบน้ำจากสำนักงานชลประทานตรังมีช่วยกันสูบน้ำอีกด้วย
นายไพโรจน์ อินทรศรี ปศุสัตว์จังหวัดตรัง กล่วว่าจากภาวะน้ำท่วมในครั้งนี้ ส่งผลให้เกิดผลกระทบด้านปศุสัตว์ในพื้นที่น้ำท่วมชาวบ้านต้องอพยพสัตว์เลี้ยงไปไว้บนที่สูง โดยเฉพาะวัว ขาดแคลนหญ้าแห้งกว่า 5-6 พันตัว แจกจ่ายหญ้าแห้งไปแล้วกว่า 20 ตัน และไก่ต้องอพยพหนีน้ำนับแสนตัว เพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรเลี้ยงสัตว์ ได้มอบเสบียงอาหารสัตว์ (หญ้าแห้ง) จำนวน 6,000 กิโลกรัม ยาถ่ายพยาธิโค และรักษาพยาบาลสัตว์ป่วย