"รัฐสภา" จัดงานวัน รธน.ด้าน "วิโรจน์"หวั่น กม.ลูก ทำพรรคการเมืองเป็นอาชญากร ด้าน ชทพ.เตรียมส่ง “ภราดร” ถก พรป. 14 ธ.ค. วันที่ 10 ธ.ค.59 ที่อาคารรัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเช้าตั้งแต่เวลา 08.00 น. บรรดาตัวแทนหน่วยงาน ส่วนราชการ พรรคการเมือง คณะบุคคลและประชาชนทั่วไป ได้นำพานประดับพุ่มดอกไม้ ร่วมถวายบังคมพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในพระราชพิธีฉลองวันพระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งราชาอาณาจักรไทย อาทิ มูลนิธิพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ นำโดย พล.ร.อ.มจ.ปุสาณ สวัสดิวัฒน์ ประธานกรรมการ พรรคเพื่อไทย นำโดย พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรค พรรคประชาธิปัตย์ นำโดย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค พรรคชาติไทยพัฒนา นำโดย นายนิกร จำนง สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ( สปท.)ในฐานะผู้อำนวยการพรรค นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)เป็นต้น ด้าน พล.ต.ท.วิโรจน์ กล่าวถึงกรณีที่ กรธ.เตรียมเชิญพรรคการเมือง ร่วมหารือร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองในวันที่ 14 ธ.ค.นี้ว่า หากทาง กรธ.เชิญพรรคเพื่อไทยเข้ามาอย่างเป็นทางการก็ยินดี ทั้งนี้ มองว่ากฎหมายพรรคการเมืองของ กรธ.ทำให้พรรคการเมืองดูเหมือนเป็นอาชญากร เพราะกำหนดโทษไว้รุนแรงถึงขั้นประหารชีวิต ทั้งที่ กรธ.ควรร่างกฎหมายลูก เพื่อดึงให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองตามระบอบประชาธิปไตยให้ได้มากที่สุด ไม่ใช่เขียนกำหนดบทลงโทษที่รุนแรง หรือสร้างเงื่อนไขและข้อจำกัดมากมาย เช่น สมาชิกพรรคการเมืองต้องเสียค่าใช้จ่ายอย่างน้อยคนละ 2,000 บาท หรือการกำหนดให้พรรคการเมืองจัดตั้งสาขาพรรคการเมืองและตัวแทนพรรคการเมืองภายใน 150 วัน เป็นต้น เหล่านี้ล้วนเป็นระเบียบและเป็นเรื่องยากในทางปฏิบัติ พล.ต.ท.วิโรจน์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องการปลดล็อกให้พรรคการเมืองสามารถทำกิจกรรมหรือเคลื่อนไหวทางการเมืองนั้น เนื่องจากขณะนี้อยู่ในช่วงจัดทำกฎหมายลูกแล้ว ก็อยากให้ทาง คสช.ยกเลิกประกาศหรือคำสั่งเพื่อให้พรรคการเมืองสามารถทำกิจกรรม หรือจัดประชุมพรรคได้แล้ว ด้านนายนิกร กล่าวว่า ในวันที่ 14 ธ.ค.นี้ที่ กรธ.เชิญตัวแทนพรรคการเมือง ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกฎหมายพรรคการเมืองนั้น ในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนา จะส่งนายภราดร ปริศนานันทกุล อดีต ส.ส.อ่างทองและนายทะเบียนพรรค ไปร่วมรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญ รวมทั้งเสนอความคิดเห็นในภาพรวม ทั้งนี้ เราเป็นพรรคขนาดกลางไม่น่าเป็นห่วงเท่ากับพรรคขนาดเล็กหรือพรรคที่จะตั้งขึ้นใหม่ โดยเฉพาะในบทเฉพาะกาลซึ่งกำหนดรายละเอียดหรือเงื่อนไข เช่น เรื่องเงินค่าสมัคร ค่าบำรุงพรรค การลงทะเบียน เป็นต้น ซึ่งมีข้อจำกัดเรื่องเงื่อนเวลาเข้ามาอีก ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อการลงเลือกตั้งภายในปี 2560 ซึ่งตนเชื่อว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว ดังนั้นอยากให้ทาง กรธ.อะลุ้มอล่วยหรือผ่อนปรนบ้าง เพราะเงื่อนไขต่างๆ ก็ทำให้การดำเนินการยากลำบากอยู่แล้ว