"นายกฯ" ย้ำ ต้องพูดด้วยข้อเท็จจริงไม่ใช่พูดกล่อมสมองชี้ประเทศอยู่ในกำมือปชช.ขีดให้ดีเลือกใครในการเลือกตั้ง ย้ำบัตรสวัดิการแห่งรัฐต้องได้ไปต่อ บอกวันนี้รบ.ทำประกันสุขถาพทั่วหน้า เลิกเรียกบัตรอะไรเสียที ทำ 3 เรื่องปีหมูทองให้ "ประธานอาเซียน-เลือกตั้ง-พระราชพิธี"
วันที่ 6 ก.พ. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฯและคณะ เดินทางต่อมายัง จ.มุกดาหาร เพื่อตรวจเยี่ยมสหกรณ์การเกษตรโคขุนหนองสูง อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร ตามโครงการยกระดับคุณภาพการผลิตโคเนื้อคุณภาพเข้าสู่ระบบมาตรฐาน ตั้งแต่การคัดเลือกพันธุ์ การเลี้ยง การแปรรูป และการตลาด ส่งผลให้ยอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี ซึ่งในปี61 มียอดจำหน่ายมูลค่า 294,720,000 บาท โดยได้ผลักดันการสร้างโรงชำแหละตามมาตรฐานจีเอ็มพีและฮาลาล เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภค และยกระดับสินค้าเพื่อการส่งออก ทำให้สมาชิกมีรายได้ที่มั่นคง ยั่งยืน พร้อมกันนี้ นายกฯ ได้เป็นสักขีพยานมอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทำกิน ในชุมชน ตามนโยบายรัฐบาลในลักษณะแปลงรวมให้แก่ผู้แทนประชาชน โดยมีนักเรียนร้องเพลง “ใจเพชร” ต้อนรับนายกฯ ขณะที่ชาวบ้านมาต้อนรับเกือบ 1 พันคน พร้อมทำการเปิดป้ายเปิดป้ายอาคารโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์เนื้อโคขุนมุกดาหาร
จากนั้นนายกฯ กล่าวมอบนโยบายว่า เราต้องเปิดเศรษฐกิจอีสานให้สูงขึ้นหลายอย่าง ที่พูดกันมาสวยหรูไม่มีทางทำได้ ถ้าพูดแบบตนทำได้ใช่ไหม วันนี้รัฐบาลทำเต็มที่แต่เราต้องเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ ถ้าเรายังไม่ปลดล็อกกติกา เขาจะย้ายฐานการผลิตไปจากเมืองไทย ย้ายไปที่ง่ายกว่ากว่า สะดวกกว่า ไม่มีปัญหาเรื่องมาก ซึ่งเราต้องแก้ไขปัญหาตรงนี้ให้ได้ด้วยกฎหมายพื้นฐานของเราให้ได้ แต่ก็ปรับให้เป็นสากลเป็นธรรมกับการลงทุน ส่วนการสร้างโอกาสในพื้นที่หลายคนออกมาพูดกัน จะต้องสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ต้องมีการพัฒนาคุณภาพชีวิต สร้างชุมชนเมือง อย่างที่กทม.ตอนนี้อยู่กันแน่นหมดแล้ว ฉะนั้นทุกจังหวัดต้องขยายเมือง ซึ่งการปรับตรงนี้ได้คือการทำผังเมืองโดยประชาชนลงคะแนนเสียงลงความต้องการเข้าไป โดยการทำผังจะต้องไม่สิ้นเปลืองมากนักและจะทำให้บ้านเมืองเปลี่ยนแปลง มีอาชีพ รวมถึงการท่องเที่ยว ตนเปิดประเด็นนี้ 1 วัน 1 คืนที่มุกดาหาร มีโฮมสเตย์ให้นักท่องเที่ยวพัก มีบางประเทศทำกิจกรรมพานักท่องเที่ยวไปแทงกบตอนเช้า ไปพาไปตกปลาด้วยคนก็ไปกันเยอะเลย
“เราต้องสืบสานความคิด ภูมิปัญญาความดีงามจากอดีตสู่อนาคต เราล้มล้างประวัติศาสตร์ไม่ได้ เราล้มล้างสิ่งที่ดี ๆ เป็นหลักของประเทศชาติไม่ได้ แกนหลักของประเทศคือชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ 3 คำนี้จำไว้ เราถึงเป็นแผ่นดินที่ศักดิ์สิทธิ์ ใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น ไม่วันนี้ก็วันหน้า ทำผิดหรือถูกก็ไปว่ากันมา กระบวนการยุติธรรมมีอยู่แล้ว เราต้องการให้สิ่งเหล่านี้ให้ประสบความสำเร็จ ก็ต้องมีแรงผลักดันจากทุกภาคส่วน ท้องถิ่น สังคม ที่ต้องปฏิรูปตัวเองทั้งอบจ. อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผมไม่ว่าจะต้องอย่างไร พูดให้ได้แบบผม มีใครพูดได้บ้างหรือยัง พูดที่เป็นข้อเท็จจริงไม่ใช่พูดกล่อมสมองคน ผมไม่ใช่คนแบบนั้น ผมเอาเหตุผลมาพูดที่เรียกว่าข้อเท็จจริงในเชิงประจักษ์ ด้วยหลักการและเหตุผล มีน้ำหนักศักดิ์สิทธิ์ มันทำได้ ถ้าพูดลอยๆ ทำไม่ได้หรอก อย่าไปล้มล้างสิ่งที่มีอยู่เดิม ไม่ใช่คิดจะอันนี้ ดีกว่าอันนู้น คิดแบบนี้ก็รั่วไหลหรือเปล่าไม่รู้ ถ้าลดอย่างเพื่อไปเพิ่มอีกอย่าง ไม่มีใครในโลกทำกัน ความคิดแบบนี้ใช่ไม่ได้ สิ่งที่ตนพูดจากประสบการณ์ในการบริหารราชการแผ่นดิน” นายกฯ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ที่ดินส.ป.ก. ซึ่งคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ที่จัดสรรให้ 38,000 ไร่ จะเร่งรัดทำให้ทั้ง 71 จังหวัด แต่หากทุกคนหวังจะเอาไปจำนำ ไปขาย บอกเลยอันตราย เพราะเราจะไม่มีที่ดินทำกิน นายทุนซื้อไปหมด อย่าคิดแต่ขายแล้วโดนยึดก็เสียไป ต้องพยามรักษาที่ดินให้ได้ ส่วนเรื่องหนี้นอกระบบ มีการร้องเรียนเรื่องดอกเบี้ยเกินกฎหมาย ถ้าใครเรียกเกินให้ไปแจ้งความ เจ้าหนี้ต้องเอาติดคุก แจ้งตำรวจ ทหาร กอ.รมน. ผู้ว่าฯ แล้วดูสิว่าจะติดคุกไหม ถ้าไม่อยากติดคุกก็ต้องมาประนอมหนี้ ถ้าติดคุกแล้วยังทำอีกยึดทรัพย์หมด ราคาค่าเช้าที่เพื่อทำนาต้องอย่าให้เกินราคา เราต้องแก้ปัญหาตรงนี้ ประชาชนต้องขจัดคนไม่ดีออกไปให้ได้ ไม่ใช่ไปเดินตามท้องถนน เรามีกฎหมายอยู่แล้ว ตนไม่ได้ยุ่งแยงให้ทะเลาะกันนะ รัฐบาลนี้แก้กฎหมายขายฝากได้ ซึ่งไม่เคยมีใครทำได้อย่าให้ใครมายุแยงพวกเรา เรื่องความมั่นคงอย่าคิดว่า เราไม่มีปัญหาเพราะไม่ได้ไปสู้รบกับใคร แต่การค้าขายเรายังสู้รบ ต้องขายทั่วโลก ปัญหาสังคม การทำอะไรต้องฟังประชาชนด้วย รัฐบาลไม่ว่าพรรคไหนต้องทำเพื่อส่วนรวมไม่ทำเพื่อส่วนตัว เป็นรัฐบาลของคนทั้งประเทศ อย่าไปเป็นเครื่องมือของใคร
นายกฯกล่าวว่า ปีนี้เป็นปีหมูทอง สิ่งแรกคือเป็นประธานอาเซียน ต้องทำให้เขาเห็นศักยภาพไทย สองคือการเลือกตั้งที่ทุกคนคาดหัวทุกอย่างจะดีขึ้นประชาธิปไตยอาจจะรู้สึกว่าดีขึ้น แต่ต้องไปดูว่าสิ่งที่เขาทำต่อว่าดีกว่าเดิมหรือแย่กว่าเดิมหรือไม่ ไปคิดเอาเอง ตนไปชี้นำไม่ได้ และเรื่องที่ 3 พระราชพิธีบรมราชาภิเษก ทั้ง 3 อย่างต้องเกิดขึ้นในปีนี้ แล้วตนถามเราจะไม่ร่วมมือกันเหรอ เราจะไม่ร่วมให้การเมืองมีการปฏิรูปกันเหรอที่ค่อยเป็นค่อยไป ไม่ใช่ปฏิรูปทีเดียวทั้งหมด มันไม่ได้ เพราะคนเรายังยึดติดอยู่กับหลายๆอย่าง ติดอยู่กับอดีตที่ผ่านมากลายสิบปี ติดกับค่านิยมเดิมๆต้องค่อยๆปรับแก้ มีวิธีไปด้วยกันได้โดยที่รัฐบาลมียุทธศาสตร์ชาติ ที่ทั้งซ้ายและขวาจำเป็นต้องเดินตรงนี้ไปข้างหน้า
นายกฯกล่าวว่า ระมัดระวังแล้วกันประเทศชาติอยู่ในกำมือทุกคนที่สองนิ้วของท่าน ขีดให้ดีแต่จะขีดใครก็เรื่องของท่าน ขอบคุณข้าราชการ ผู้ว่าฯ นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต.อบจ.โอ้ยเยอะไปหมดแล้วทำไมไม่เจริญเสียทีก็ไม่เข้าใจ มันอยู่ที่ความร่วมมือ แนวคิดใหม่ วิสัยทัศน์ ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ทำแบบเดิมๆไม่ได้ วันนี้บัตรรัฐสวัสดิการต้องไปดูมีระยะที่ 1 ระยะที่ 2 และถ้าตั้งใจทำเรื่องนี้ต่อได้อีกหลายระยะ ทั้งหมดเป็นเรื่องของนโยบายรัฐบาลที่จะทำต่อไป คงไม่มีใครเลิกเข้าใจว่าอย่างนั้น ไม่ได้อยู่แล้ว ส่วนเรื่องของสาธารณสุขประกันสุขภาพทั่วหน้า เลิกเรียกบัตรอะไรเสียที เขาเรียกประกันสุขภาพทั่วหน้าคือระบบของรัฐบาลนี้ รวบมาทำทั้งหมดจนดีขึ้น ที่ผ่านมามีแต่ฟรีแต่โรงพยาบาลอย่างประจำตำบลไม่ได้รับการดูแล มันก็เจ๋งหมด ไม่เคยได้งบฯพัฒนามาก่อน แต่จะโทษใครไม่ได้