ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ประเทศไทยมีกระแสในเรื่องการจัดตั้งสภาดิจิทัลขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่ได้เคยมีความพยายามในการผลักดันสภาไอซีที 10 กว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่งหากประเทศไทยสามารถจัดตั้งสภาดิจิทัลได้สำเร็จ เพราะประเทศไทยยังขาดองค์กรที่เกิดจากการรวมตัวของผู้ประกอบธุรกิจดิจิทัลเพื่อเป็นศูนย์กลางการพัฒนาธุรกิจดิจิทัล โดยภาคธุรกิจดิจิทัลควรมีการรวมตัวที่เด่นชัดแยกจากภาคธุรกิจอื่น เนื่องจากมีลักษณะการประกอบธุรกิจที่แตกต่างกัน การรวมตัวของภาคธุรกิจดิจิทัลจะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อน และพัฒนาเทคโนโลยีนวัตกรรมของประเทศ อันจะส่งผลให้เกิดการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด และก้าวสู่ประเทศอันดับหนึ่งในภูมิภาคอาเซียนได้ หากมองถึงบทบาทของสภาดิจิทัล ตาม ร่างพระราชบัญญัติสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย พ.ศ. .... ที่มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนที่ผ่านมา จะพบว่า สภาดิจิทัลมีกลไกการทำงานที่แตกต่างจากการทำงานภาครัฐ อันได้แก่ กระทรวงดิจิทัลฯ และสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(สำนักงาน กสทช.) อย่างชัดเจน โดยกระทรวงดิจิทัล มีหน้าที่เป็นผู้กำหนดนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เสนอมาตรการและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งติดตาม กำกับดูแลและประเมินผลการทำงานตามนโยบาย แผนงานและยุทธศาสตร์ต่างๆ ของประเทศ สำหรับสำนักงาน กสทช.มีบทบาทในด้านการกำกับดูแลการจัดสรรคลื่นความถี่ในกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม ขณะที่สภาดิจิทัลเป็นมิติการทำงานของภาคเอกชนในการร่วมมือกับภาครัฐเพื่อร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล ผ่านการพัฒนาเทคโนโลยีและบุคลากร อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมการนำนวัตกรรมดิจิทัลไปประยุกต์ใช้เพื่อผลักดันประเทศไทยสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน หากเปรียบเทียบการรวมตัวของภาคเอกชนในต่างประเทศจะพบว่า ได้มีการจัดตั้งองค์กรกลางที่มีลักษณะเช่นเดียวกับสภาดิจิทัล และได้รับการรับรองจากรัฐบาลมาเป็นเวลานานแล้วอาทิเช่น ประเทศอังกฤษ UK Digital Economy Council, ประเทศฝรั่งเศส French Digital Council, ประเทศเกาหลีใต้ Korea Association of ICT Promotion นอกจากนี้ในประเทศญี่ปุ่น,สิงคโปร์,มาเลเซีย,ฟิลิปปินส์,สหรัฐฯ,เยอรมนี ก็เช่นเดียวกัน องค์กรกลางด้านดิจิทัลของภาคเอกชนเหล่านี้ มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการขับเคลื่อนนวัตกรรมดิจิทัลของประเทศ และเป็นกำลังหลักสำคัญในการพัฒนากำลังคน และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ส่งผลให้ประเทศเหล่านี้พัฒนาได้อย่างรวดเร็วและก้าวกระโดด ด้วยเหตุนี้จึงน่าติดตามกันต่อไปถึงความคืบหน้าในการจัดตั้งสภาดิจิทัล และเป็นกำลังใจให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งเป็นเจ้าภาพในการผลักดันกฎหมายจัดตั้งสภาดิจิทัลให้แล้วเสร็จ เพื่อเป็นองค์กรหลักของภาคเอกชนที่ร่วมมือกับภาครัฐในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล ทั้งในด้านการให้ความเห็นร่วมกันของภาคธุรกิจดิจิทัลเกี่ยวกับการกำกับดูแลดิจิทัลของประเทศ การสนับสนุนภาครัฐให้ใช้ดิจิทัลในการปรับปรุงประสิทธิภาพการบริหารจัดการหน่วยงานภาครัฐเพื่อให้เกิดบริการภาครัฐในรูปแบบดิจิทัลที่ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ ให้การสนับสนุนนโยบาย ยุทธศาสตร์ และแผนระดับชาติว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งสนับสนุนการตราและแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวช้อง ตลอดจนสนับสนุนการฝึกอบรมและการรับรองคุณวุฒิด้านดิจิทัล ตั้งแต่ระดับพื้นฐานจนถึงระดับผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งเป็นความหวังของภาคเอกชนด้านอุตสาหกรรมดิจิทัล และตอบโจทย์ของประเทศในการขับเคลื่อนประเทศสู่ประเทศนวัตกรรมอันดับหนึ่งในภูมิภาคอาเซียน