เสธ.หิ กับ เสธ.แอ๊บ ได้รับการปล่อยตัว พระราชทานอภัยโทษเนื่องในโอกาสแรกนับแต่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ขึ้นทรงราชย์สืบราชสันตติวงศ์ เสธ หิ รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่ได้รับการอภัยโทษ ยังยืนยันว่าตนไม่ได้ทำผิด จากกรณีราชกิจจานุเบกษาฉบับวันที่ 11 ธ.ค.59 ได้เผยแพร่พระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษเนื่องในโอกาสแรกนับแต่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ขึ้นทรงราชย์สืบราชสันตติวงศ์ 2559 โดยให้แต่ละเรือนจำตรวจสอบคุณสมบัติซึ่งต้องเป็นผู้ต้องขังชั้นดีและไม่เป็นผู้ที่กระทำผิดซ้ำ รวมถึง ไม่ใช่ผู้ต้องโทษคดีฆ่าข่มขืนฉ้อโกงประชาชน ความรุนแรง หรือค้ายาเสพติด คาดว่าจะมีผู้ต้องโทษจากทั่วประเทศที่เข้าข่ายได้รับการพระราชทานอภัยโทษประมาณ 30,000 กว่าคน และได้เริ่มมีการทยอยปล่อยตัวไปบางส่วน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และนายกฤช กระแสร์ทิพย์ ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เผยว่า วันที่ 20 ธ.ค.นี้ เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ จะปล่อยตัวผู้ต้องโทษล็อตแรก 300 ราย รวมถึง 2 อดีตนายทหารคนดัง พ.ท.หิมาลัย ผิวพรรณ หรือเสธ.หิ และ พ.ต.ธัญเทพ ธรรมธร หรือเสธ.แอ๊ป ผู้ต้องขังที่ถูกศาลสั่งจำคุกในคดีรื้อบาร์เบียร์คดีเดียวกับ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่ได้รับการปล่อยตัวไปแล้วเมื่อวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดตั้งแต่เวลา 07.00 น. เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. ที่บริเวณหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มีญาติพี่น้องนักโทษ 300 ราย ที่ได้รับการปล่อยตัววันนี้ มายืนรอรับเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีญาติพี่น้อง และบรรดาคนสนิทของ พ.ท.หิมาลัย และพ.ต.ธัญเทพ มีทั้งทหาร-ตำรวจ ในและนอกเครื่องแบบ กว่า 30 คน มายืนรอรับอยู่ด้วย ต่อมาเวลา 09.00 น. เรือนจำได้ปล่อยนักโทษชุดแรกประมาณ 10 คน ออกจากประตูทางเข้าใหญ่ของเรือนจำ ต่อมา เวลา 09.15 น. พ.ท.หิมาลัย และพ.ต.ธัญเทพ ได้ถูกปล่อยตัว โดยให้ออกทางประตู อาคารรับรองที่อยู่ติดๆกัน โดยมีญาติพี่น้อง 2 นายทหารคนดัง เดินเอาเสื้อผ้าไปให้เปลี่ยนด้านใน ทำให้ไม่สามารถมองเห็นจากด้านนอกได้ จากนั้นมีรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอรฺ สีดำ ทะเบียน 4กว 4473 กรุงเทพมหานคร วิ่งมารับ พ.ต.ธัญเทพ ที่หน้าประตูอาคารรับรอง ก่อนออกรถไปอย่างรวดเร็ว ถัดมามี รถโตโยต้า เวลไฟร์ สีขาว ทะเบียน ญฒ 102 กรุงเทพมหานคร เข้ามารับ พ.ท.หิมาลัย ที่หน้าประตูอาคารรับรองเช่นเดียวกัน หลังจากนั้นกลุ่มคนสนิทและผู้ที่มารอรับต่างทยอยเดินไปที่เรือนรับรอง ฝ่ายกิจการนอกเรือนจำ ด้านข้างเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อที่ พ.ท.หิมาลัย ใช้พบป่ะพูดคุย และรับประทานอาหารกับเพื่อนหลังออกจากเรือนจำ จากนั้น พ.ท.หิมาลัย เปิดเผยว่า ตนเองรู้สึกทราบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่ได้รับการอภัยโทษครั้งนี้ และขอบอบคุณผู้มีพระคุณทุกท่านที่มาต้อนรับและยังคงเป็นมิตรเสมอมา หลังจากนี้คงจะเดินทางไปขอบคุณผู้ใหญ่ และผู้มีพระคุณทุกท่านรวมถึง นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ ที่ได้รับสารภาพ จนทำให้โทษของตนเองลดลง ก่อนหน้านี่ช่วงที่ขึ้นศาล กระทั่งถูกศาลตัดสินลงโทษ ได้พูดเสมอว่าตนเองไม่มีความผิด แม้กระทั่งจนวันนี้ ก็ยังขอพูดคำเดิมว่าตนเองไม่ผิด แต่ถึงกระนั้นตนก็ยอมรับการตัดสินของศาล หลังจากออกจากเรือนจำจะไปขออุทิศความรู้ให้ทางด้านการศึกษา เพราะตนเรียนจบ ระดับปริญญาเอก สามารถเป็นครู สอนลูกศิษย์ ให้มีความรู้ คู่คุณธรรมได้ต่อไป" พ.ท.หิมาลัย กล่าว