สแกนเนียเปิดตัวรถบรรทุกรุ่นใหม่ที่เป็นผลจากงานพัฒนาผลิตภัณฑ์มากว่า 10 ปี และเงินลงทุนกว่า 72,000 ล้านบาท โดยรถบรรทุกรุ่นใหม่เสนอสินค้าที่หลากหลายด้วยระบบโมดูลาร์อันเป็นเอกลักษณ์ของสแกนเนีย มอบประสิทธิภาพที่สูงขึ้นทั้งผลิตภัณฑ์และงานบริการ มีข้อเสนอที่หลากหลาย ปรับให้เหมาะกับงานแต่ละประเภท เพื่อการทำกำไรสูงสุดของลูกค้า ตลอดจนการลงทุนในโรงงานแห่งใหม่ในกรุงเทพฯตอกย้ำความเชื่อมั่นในตลาดเมืองไทยให้เป็นศูนย์กลางการดำเนินงานของสแกนเนียในเอเชีย ย้ำเป็นการลงทุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ 128 ปีของสแกนเนีย
นายสเตฟาน ดอร์สกี้ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สแกนเนีย สยามเปิดเผยว่า สแกนเนียเปิดตัวรถบรรทุกรุ่นใหม่ ที่ไม่ได้เป็นเพียงยานพาหนะ หากยังเป็นเหมือนเครื่องมือพิเศษที่ชาญฉลาด ในรูปแบบของโซลูชันสินค้าและบริการที่ยั่งยืนอย่างครบวงจร มีจุดประสงค์เพื่อให้ลูกค้าของเรามีเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการสร้างผลกำไรอย่างยั่งยืนในธุรกิจของลูกค้า
สำหรับคุณสมบัติที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือหัวเก๋งที่ออกแบบใหม่หมด รวมถึงเทคโนโลยีใหม่ที่ล้ำสมัย เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่ และมีทัศนวิสัยดียิ่งขึ้น จากการปรับตำแหน่งผู้ขับขี่และการใช้แดชบอร์ดที่ต่ำกว่าเดิม อีกทั้งอากาศพลศาสตร์ พร้อมทั้งระบบขับเคลื่อนใหม่ที่ช่วยลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงได้ถึง 5% ด้านความปลอดภัยในการขับขี่ได้ปรับปรุงคุณสมบัติด้านความปลอดภัยใหม่ทั้งแบบแอคทีฟและแพสซีฟเช่น การเป็นเจ้าแรกในอุตสาหกรรมนี้ที่ติดตั้งถุงลมนิรภัยด้านข้างแบบโรลโอเวอร์ เพื่อปกป้องผู้ขับขี่จากอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำ
โดยปัจจุบันสัญญาการบำรุงรักษา มีแบบแผนการที่ยืดหยุ่น ซึ่งจะคำนวณช่วงเวลาการบำรุงรักษาที่เหมาะสมสำหรับรถแต่ละคันตามการใช้งานจริงของรถ เพิ่มเวลาทำงานรวมสูงสุด และเพิ่มศักยภาพการทำกำไรของลูกค้า สินค้าและและบริการใหม่ๆที่ให้นิยามคำว่า พรีเมียมอย่างชัดเจนในอุตสาหกรรมรถบรรทุก ทั้งนี้สแกนเนียให้ความสำคัญต่อความยั่งยืนด้วยการเปิดตัวรถบรรทุกขนาดใหญ่รุ่นใหม่มาตรฐานยูโร 6 คันแรกในประเทศไทย เครื่องยนต์ที่ใช้แก๊สเป็นเชื้อเพลิงรุ่นใหม่จะช่วยประหยัดต้นทุนเชื้อเพลิงได้มาก และช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมและคุณภาพอากาศ
“รถบรรทุกรุ่นใหม่ได้ออกสู่ตลาดในแถบยุโรป ตั้งแต่เดือนส.ค.59 และได้รับการยอมรับจากสื่อมวลชนยืนยันผลการทดสอบคุณภาพ ด้วยรางวัลรถบรรทุกนานาชาติยอดเยี่ยมแห่งปี รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่รถบรรทุกรุ่นใหม่ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าของเราทั่วโลก ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นได้จากตัวเลขยอดขายทั่วโลก ซึ่งอยู่ในระดับสูงสุดอย่างเป็นประวัติการณ์ พิสูจน์ให้เห็นว่าสแกนเนียได้ตอบสนองความต้องการของตลาด ทั้งในด้านเทคโนโลยี ความปลอดภัย ห้องผู้ขับขี่ ที่สำคัญที่สุดคือ เพิ่มผลกำไรโดยรวมให้ลูกค้า”
นอกจากนี้สแกนเนียเพิ่มความแข็งแกร่งในประเทศไทยและเอเชียด้วยการตั้งโรงงานแห่งใหม่ในเขตการค้าเสรีที่กรุงเทพฯสำหรับประกอบรถบรรทุกและแชสซีส์รถโดยสาร โดยโรงงานแห่งใหม่นี้สามารถทำการผลิตหัวเก๋งรถบรรทุกสแกนเนีย และถือเป็นการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในสายงานการผลิตของสแกนเนียที่ดำเนินกิจการนอกทวีปยุโรปและละตินอเมริกา
สำหรับการจัดตั้งโรงงานใหม่นี้ถือการทำงานร่วมกันจากหลายสายงานการผลิต ซึ่งดำเนินงานโดยบุคคลากรจากฝ่ายการผลิตและโลจิสติกส์ของสแกนเนีย ฝ่ายวิจัยและพัฒนา ฝ่ายจัดซื้อ รวมถึงฝ่ายขายและการตลาด การลงทุนทั้งหมดในโรงงานมีมูลค่า 800 ล้านบาท
นายกุสตาฟ ซันเดล กรรมการผู้จัดการ สแกนเนียกรุ๊ป ประเทศไทยกล่าวว่า การจัดตั้งโรงงานแห่งใหม่นี้ และความร่วมมือจากซัพพลายเออร์ในประเทศสามารถสร้างรถบรรทุกและรถโดยสาร ได้ตามมาตรฐานระดับโลกโดยฝีมือคนไทย สิ่งนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นพื้นฐานสำหรับการเติบโตของเราในเขตการค้าเสรีอาเซียน
“การที่ได้มีถิ่นฐานในภูมิภาคนี้ ทำให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว และทำให้แน่ใจว่าเราจัดหาโซลูชันการขนส่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าทุกราย อีกทั้งสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคที่ก่อตั้งขึ้นในประเทศไทยยังสามารถสนับสนุนและพัฒนาธุรกิจให้กับตัวแทนจำหน่ายสแกนเนียในเอเชียและโอเชียเนีย”
สำหรับคุณสมบัติที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือหัวเก๋งที่ออกแบบใหม่หมด รวมถึงเทคโนโลยีใหม่ที่ล้ำสมัย เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่ และมีทัศนวิสัยดียิ่งขึ้น จากการปรับตำแหน่งผู้ขับขี่และการใช้แดชบอร์ดที่ต่ำกว่าเดิม อีกทั้งอากาศพลศาสตร์ พร้อมทั้งระบบขับเคลื่อนใหม่ที่ช่วยลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงได้ถึง 5% ด้านความปลอดภัยในการขับขี่ได้ปรับปรุงคุณสมบัติด้านความปลอดภัยใหม่ทั้งแบบแอคทีฟและแพสซีฟเช่น การเป็นเจ้าแรกในอุตสาหกรรมนี้ที่ติดตั้งถุงลมนิรภัยด้านข้างแบบโรลโอเวอร์ เพื่อปกป้องผู้ขับขี่จากอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำ
โดยปัจจุบันสัญญาการบำรุงรักษา มีแบบแผนการที่ยืดหยุ่น ซึ่งจะคำนวณช่วงเวลาการบำรุงรักษาที่เหมาะสมสำหรับรถแต่ละคันตามการใช้งานจริงของรถ เพิ่มเวลาทำงานรวมสูงสุด และเพิ่มศักยภาพการทำกำไรของลูกค้า สินค้าและและบริการใหม่ๆที่ให้นิยามคำว่า พรีเมียมอย่างชัดเจนในอุตสาหกรรมรถบรรทุก ทั้งนี้สแกนเนียให้ความสำคัญต่อความยั่งยืนด้วยการเปิดตัวรถบรรทุกขนาดใหญ่รุ่นใหม่มาตรฐานยูโร 6 คันแรกในประเทศไทย เครื่องยนต์ที่ใช้แก๊สเป็นเชื้อเพลิงรุ่นใหม่จะช่วยประหยัดต้นทุนเชื้อเพลิงได้มาก และช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมและคุณภาพอากาศ
“รถบรรทุกรุ่นใหม่ได้ออกสู่ตลาดในแถบยุโรป ตั้งแต่เดือนส.ค.59 และได้รับการยอมรับจากสื่อมวลชนยืนยันผลการทดสอบคุณภาพ ด้วยรางวัลรถบรรทุกนานาชาติยอดเยี่ยมแห่งปี รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่รถบรรทุกรุ่นใหม่ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าของเราทั่วโลก ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นได้จากตัวเลขยอดขายทั่วโลก ซึ่งอยู่ในระดับสูงสุดอย่างเป็นประวัติการณ์ พิสูจน์ให้เห็นว่าสแกนเนียได้ตอบสนองความต้องการของตลาด ทั้งในด้านเทคโนโลยี ความปลอดภัย ห้องผู้ขับขี่ ที่สำคัญที่สุดคือ เพิ่มผลกำไรโดยรวมให้ลูกค้า”
นอกจากนี้สแกนเนียเพิ่มความแข็งแกร่งในประเทศไทยและเอเชียด้วยการตั้งโรงงานแห่งใหม่ในเขตการค้าเสรีที่กรุงเทพฯสำหรับประกอบรถบรรทุกและแชสซีส์รถโดยสาร โดยโรงงานแห่งใหม่นี้สามารถทำการผลิตหัวเก๋งรถบรรทุกสแกนเนีย และถือเป็นการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในสายงานการผลิตของสแกนเนียที่ดำเนินกิจการนอกทวีปยุโรปและละตินอเมริกา
สำหรับการจัดตั้งโรงงานใหม่นี้ถือการทำงานร่วมกันจากหลายสายงานการผลิต ซึ่งดำเนินงานโดยบุคคลากรจากฝ่ายการผลิตและโลจิสติกส์ของสแกนเนีย ฝ่ายวิจัยและพัฒนา ฝ่ายจัดซื้อ รวมถึงฝ่ายขายและการตลาด การลงทุนทั้งหมดในโรงงานมีมูลค่า 800 ล้านบาท
นายกุสตาฟ ซันเดล กรรมการผู้จัดการ สแกนเนียกรุ๊ป ประเทศไทยกล่าวว่า การจัดตั้งโรงงานแห่งใหม่นี้ และความร่วมมือจากซัพพลายเออร์ในประเทศสามารถสร้างรถบรรทุกและรถโดยสาร ได้ตามมาตรฐานระดับโลกโดยฝีมือคนไทย สิ่งนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นพื้นฐานสำหรับการเติบโตของเราในเขตการค้าเสรีอาเซียน
“การที่ได้มีถิ่นฐานในภูมิภาคนี้ ทำให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว และทำให้แน่ใจว่าเราจัดหาโซลูชันการขนส่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าทุกราย อีกทั้งสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคที่ก่อตั้งขึ้นในประเทศไทยยังสามารถสนับสนุนและพัฒนาธุรกิจให้กับตัวแทนจำหน่ายสแกนเนียในเอเชียและโอเชียเนีย”