ยังคงประสบความสำเร็จกับการขายรถที่มีหน้าตาแบบรถทหาร หลังจากเปิดตัว ทรานส์ฟอร์เมอร์ รุ่นแรกออกมา ได้รถตรวจการณ์ตัวถังเหลี่ยมพร้อมลุย เป็นการออกแบบที่ฉีกหนีไปจากรุ่นก่อนๆที่ไทยรุ่งฯเคยทำมาในแบบหน้าตาไม่ซ้ำใคร เมื่อถึงคราวต้องเปลี่ยนตัวถัง ทรานส์ฟอร์เมอร์ก็ออกแบบรุ่นที่ 2 มา พอเห็นหน้าตา หลายคนคงแปลกใจเพราะไม่ได้เป็นแบบกล่องเหมือนก่อน ถ้ามองกันจริงๆ แล้วก็ยังคงอิงหน้าตาของรถทหารเอาไว้เช่นเดิม เพียงแต่เราไม่คุ้นเคยแค่นั้นเอง เพราะรถทหารหน้าตาแบบนี้จะเป็นสิงห์ทะเลทราย ลุยกู้ระเบิดแถวตะวันออกกลางมากกว่า สำหรับทุกรุ่นหน้าตาจะเหมือนกัน แต่จะต่างจากการออกแบบภายในให้ต่างกัน จึงได้ทั้งแบบ 5 ที่นั่ง 7 ที่นั่ง และ 11 ที่นั่ง โดยรุ่นที่มีโอกาสได้สัมผัสครั้งนี้จะเป็นแบบ 7 ที่นั่ง วางเครื่องยนต์ 2.8 ลิตร ขับเคลื่อนสี่ล้อ ทีอาร์ ทรานส์ฟอร์เมอร์ ทูกับหน้าตาที่เปลี่ยนไป เวลามองจากข้างนอก การออกแบบรถตัวถังเหลี่ยมทรงกล่อง ทำให้ดูใหญ่กว่าปกติ เพราะไม่ต้องบีบหลังคาเพื่อความลู่ลม ซึ่งรถสไตล์นี้ไม่เน้นในเรื่องความเร็วอยู่แล้วช่วงหน้าจะมีการปรับเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างเห็นได้ชัดเจน โดยออกแบบฝากระโปรงให้มีเหลี่ยมมุม ไม่ตัดตรงแบบเก่า เพื่อรับกับกระจังหน้าขนาดใหญ่ อีกทั้งไม่ต้องมีช่องรับลมบนฝากระโปรงที่ลาดลงมาทางด้านหน้า เพิ่มความลู่ลมให้มากขึ้น ตรงกันชนหน้าจะยกด้านข้างขึ้นเพื่อรับกับด้านหน้าที่เปลี่ยนรูปไป ตอนเห็นครั้งแรกมอหาโคมไฟหน้าไม่เจอ เพราะจะใช้ไฟหน้าแบบไบ-ซีนอนโปรเจคเตอร์ ขนาด 3.5 นิ้ว ไม่จำเป็นต้องอาศัยโคมไฟหน้ามาเป็นกรอบ ใช้แค่ฝังเข้าไป ซึ่งขนาดของไฟก็ไม่ใหญ่ไปกว่าไฟตัดหมอกที่ติดไว้ตรงกันชน ตัวถังสูงขึ้นเล็กน้อย แต่อย่าได้ดูถูกไฟหน้าดวงเล็กๆ นี้ เพราะเมื่อความมืดเข้ามาเยือนก็จะเห็นลำแสงส่องไปด้านหน้า มองเห็นได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะตอนเปิดไฟสูง จึงเป็นไฟดวงเล็กแต่มีคุณภาพเกินตัว เมื่อวิ่งตอนกลางวันจะมีไฟแอลอีดี จัดเรียงเป็นแถวยาวอยู่ใต้ฝากระโปรงหน้าทำงานได้ดีอยู่แล้ว ใต้ฝากระโปรงจะเป็นเครื่องยนต์ของโตโยต้ารุ่นปัจจุบันขนาด 2.8 ลิตร ติดตั้งไว้อยู่ เป็นเครื่องยนต์รุ่นใหม่ ที่ให้กำลัง 177 แรงม้าที่3,400รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 6 สปีด อัตราเร่งที่มาจากเครื่องยนต์ จะมาแบบนุ่มๆ ไม่กระชาก ไม่ต้องกังวลกับน้ำหนักตัวถังขนาดนี้ เพราะเครื่องยนต์ที่ถูกพัฒนามาใหม่จะมีแรงบิดเพียงพอสำหรับการบรรทุกหนักๆ เพราะแรงบิดที่มีมาให้ 420 นิวตัน-เมตร ที่ 1,400-2,600 รอบนั้น อยู่ในช่วงที่ใช้งานบ่อยๆ อยู่แล้ว. แผงคอนโซลดูเตี้ยเมื่อเจอรถสูง เมื่อลองไล่ความเร็วตั้งแต่เกียร์ 1 อัตราเร่งจะมาอย่างต่อเนื่อง ทำความเร็วขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงเกียร์สุดท้าย บางครั้งถ้าเจอรถช้าก็คาไว้ที่เกียร์ 5 โดยมีอัตราบริโภคที่ไม่ต่างไปจากเกียร์ 6 มากนัก สามารถตอบสนองต่อคันเร่งได้รวดเร็วกว่าด้วย ความเร็วระดับ 120 กม./ชม. จะเป็นความเร็วที่เหมาะสมกับรถตัวถังใหม่แบบนี้ ซึ่งทางไทยรุ่งเลือกใช้ยางที่เข้ากันพอดีกับตัวรถ เป็นยางของ บีเอฟ กู๊ดริช ดอกใหญ่ แต่ไม่ถึงกับเป็นมัดเทอร์เรนเพื่อการเข้าโค้งที่ดีกว่า เข้ากันได้ดีกับลายล้อแม็กซ์ เพิ่มความดุดันให้กับตัวรถได้มากขึ้น ซุ้มล้อของทรานฟอร์เมอร์แม็กซ์ จะกว้าง สามารถใส่ยางใหญ่ๆได้ ปกติยางติดรถจะเป็นขนาด 265/70R16 แต่คันที่นำมาขับถูกเปลี่ยนใหม่ ใช้ยางที่มีขนาดใหญ่ถึง 285/65R18 ที่ดูแล้วทำให้รถดูเต็มขึ้นเยอะ เบาะดำเลอะยาก ตัวถังของรถรุ่นนี้มีความยาวถึง 5,150 มม. เวลาจอดต้องเจอพื้นที่มากพอ เมื่อต้องต่อกันเป็นแถวยาว แต่ก็ยังดีที่มีกล้องมองหลังมาให้ ช่วยให้เห็นพื้นที่ด้านหลังเวลาถอยจอดได้ชัดเจน สำหรับวงเลี้ยวก็เหมือนรีโว่ ที่มีวงเลี้ยวแคบอยู่แล้ว แค่ 6.4 ม.แต่ความสูงของรถจะมีมากถึง 2,180 มม. ดังนั้นเวลาต้องกลับรถใต้สะพานต้องดูความสูงด้วย เพราะบางสะพานจะไม่สูงพอให้ลอดกลับรถได้ เมื่อต้องการลุยรถคันนี้ก็พร้อมลุยกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ที่ใช้การบิดเลือกการขับเคลื่อนเมื่อได้ยางหน้า กว้างดอกใหญ่พอสมควร การลุยบนเส้นทางที่ขรุขระหรือเปียกลื่นจึงไม่เป็นปัญหา หลังจากห้องเครื่องไปแล้ว ก็จะเจอกับรูปแบบที่คล้ายกับรุ่นแรก โดยรถรุ่นนี้จะวางเบาะนั่งไว้ 3 แถว เป็นเบาะหนัง ซึ่งเบาะแถวสุดท้ายจะไม่เหมือนกับในฟอร์จูนเนอร์ แต่จะใช้การพับเก็บไว้ด้านข้างเหมือนกัน เป็นเบาะที่นั่งได้สบายพอสมควรสำหรับผู้ใหญ่ ยกพื้นเบาะสูง เรื่องระบบปรับอากาศจะมีความสำคัญสำหรับรถเมืองร้อนบ้านเรา จึงต้องเอาใจใส่กันให้ดี ไทยรุ่งฯ ถึงเพิ่มช่องแอร์สำหรับที่นั่งตอนหลัง เป็นช่องแอร์ที่ติดไว้ตรงเพดาน เพื่อจะได้กระจายความเย็นได้ทั่วถึง พร้อมปุ่มควบคุมปรับการทำงานได้ ความเร็วการเดินทางระดับ 100 – 120 กม./ชม. จะดูดีที่สุดเพราะไม่ต้องกังวลกับเสียงลมที่ดังและเป็นช่วงที่มีแรงบิดใช้งานเยอะ สามารถกดคันเร่งส่งต่อได้ ตอนเบรกต้องเผื่อระยะนิดหน่อย เพราะแรงเฉื่อยของรถน้ำหนักเยอะจะมีมากกว่ารถทั่วๆ ไป เบาะหลังสุดผู้ใหญ่นั่งได้ ห้องโดยสารสูงโปร่ง สิ่งที่ได้จากรถรุ่นนี้คือ ความกว้างของห้องโดยสาร เวลาเข้าไปจะเจอกับหลังคากว้างๆ และสูงอีกต่างหาก ทำให้ไม่รู้สึกอึดอัดเวลานั่งกันนานๆ ทั้งๆ ที่ความกว้างของตัวรถก็ไม่ต่างจากรถฟอร์จูนเนอร์มากนัก เบาะนั่งทั้งสามแถวสามารถรองรับผู้โดยสารได้เต็มที่ ให้ความหรูหรากับเบาะหนังที่มีกาตัดเย็บประณีต คนที่นั่งในรถ ก็จะรู้สึกถึงความนุ่มนวลของช่วงล่าง ซึ่งทางไทยรุ่งฯ จะใช้ชุดช่วงล่างของรีโว่ แต่พอได้น้ำหนักตัวถังที่มากขึ้น ทำให้ช่วงล่างนุ่มนวล กว่าตอนที่เป็นรถกระบะ ทำให้การเดินทางไกลรู้สึกผ่อนคลายกับห้องโดยสารที่กว้างและช่วงล่างที่นุ่มๆ แบบนี้ คอลัมน์ ยุทธจักรยานยนต์ : อภิชัย ไกรนุกูล