เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 21 ธันวาคม 59 ร.ต.อ.อาทิตย์ เกตุทอง รอง สว.(สอบสวน) สน.ทองหล่อ ได้รับแจ้งเหตุรถบรรทุกพ่วง 6 ล้อ ชนรถประชาชนกว่า 20 คัน บริเวณภายในซอยสุขุมวิท 63 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบ พร้อมมูลนิธิร่วมกตัญญู ที่เกิดเหตุอยู่ภายในซอยสุขุมวิท พบรถเก๋งประชาชน จำนวน 26 คัน รถจยย. 2 คัน ได้รับความเสียหายถูกเฉี่ยวชนแต่ตั้ง กลางซอยสุขุมวิท 63 มุ่งหน้า 4 แยกเอกมัย-สุขุมวิท โดยพบรถบรรทุกพ่วง 6 ล้อ ยี่ห้อนิสัน รุ่นดีเซล สีขาว ทะเบียน 96-9575 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ปากสุขุมวิท 63 โดยมีนายเอกพจน์ ยศศิริ อายุ 27 ปี อาชีพพนักงานขับรถส่งวัสดุก่อสร้าง ของบริษัท ชัยภิวัตร จำกัด (Chaipiwat CO.,LTD.) เป็นผู้ขับขี่รถบรรทุกพ่วงคันดังกล่าว โดยจอดรถเนื่องจากน้ำมันหมดแล้วเปิดประตูวิ่งไปทาง บีทีเอส เอกมัย จากนั้นมีกลุ่มประชาชนราว 20 คนวิ่งไล่ตามกันอย่างชุลมุนและกระชั้นชิด จนในที่สุดล้อมจับตัวไว้บริเวณหน้าร้านบ้านไร่กาแฟ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวมาสอบสวนที่สน.ทองหล่อ ต่อมาเวลา 14.30 น. วันที่ 21 ธันวาคม ที่สน.ทองหล่อ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.เกติ์ฉกาจ นิลประดับ รอง ผบก.น.5 พ.ต.อ.ขจรพงศ์ จิตต์ภาคภูมิ ผกก.สน.ทองหล่อ พ.ต.อ.ฤทธี ปานดำ ผกก.สน.มักกะสัน และ พ.ต.ต.ทองเปลว หาญไพบูลย์ สว.สส.สน.ทองหล่อ ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายเอกพจน์ ยศศิริ อายุ 27 ปี ชาวศรีสะเกษ ภายหลังก่อเหตุขับรถบรรทุกชนรถยนต์และรถจักรยานยนต์เสียหายกว่า 30 คัน พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า จากการสอบปากคำนายเอกพจน์ให้การว่าเหตุการที่เกิดขึ้นเกิดจากตนเมาสารเสพติดเพราะได้เสพยาไอซ์ไปเมื่อ 3 วันก่อน และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจหาสารเสพติดพบว่ามีปัสสาวะเป็นสีม่วง และค้นภายในตัวพบยาไอซ์หนัก 1.93 กิโลกรัม จากการตรวจสอบเส้นทาง พบว่า นายเอกพจน์ ขับมุ่งหน้ามาจากสะพานควาย เข้าถนนราชปรารภ ได้ชนรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลของเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.พญาไท จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสังกัด ตั้งแต่แยกราชปรารภผ่านแยกประตูน้ำ กระทั่งเข้าสู่ถนนเพชรบุรีขาออกเลี้ยวซ้ายเข้าอาร์ซีเอ ผ่านสน.มักกะสัน โดยระหว่างนายเอกพจน์ขับนั้นได้ชนรถเสียหายไปกว่า 10 คัน จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าสู้ถนนเพชรบุรี เข้าถนนทองหล่อเหนือ สู้ถนนเอกมัยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยิงล้อสังกัดกระทั่งรถน้ำมันหมด นายเอกพจน์จึงลงจากรถวิ่งหนีไปทางรถไฟฟ้าเอกมัยแต่พลเมืองดีช่วยกันสังกัดจับไว้ได้ โดยระยะทางทั้งสิ้นกว่า 5 กิโลเมตร อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะต้องดำเนินคดีในข้อหาขับรถโดยประมาท มียาเสพติดไว้ในครอบครอง เสพสารเสพติด และหลบหนีไม่แจ้งเหตุต่อเจ้าหน้า ส่วนจ้อหาอื่นจะต้องพิจารณาต่อไป หลังจากนี้จะนำตัวนายเอกพจน์ให้กับแพทย์เพื่อตรวจหาสารเสพติดอย่างละเอียด พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบประวัตินายเอกพจน์เคยถูกดำเนินคดีของหายาเสพติดมาแล้วกว่า 4 ครั้ง คือ ปี 2554 2556 2557 และครั้งล่าสุดวันที่ 12 เดือน กรกฎาคม 2559 ที่ผ่านมา นายเอกพจน์ ให้การว่า ตนไปส่งของที่ย่านสะพานควายกำลังจะกลับไปสามย่าน แต่พบเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจตนจึงหักหลบหนีไป ทั้งนี้ตนเสพยาเสพติดมาเป็นเวลากว่า 3 ปี และทุกครั้งที่ขับรถบรรทุกก็เสพมาตลอดแต่ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุ แต่ครั้งนี้เนื่องจากเครียดเรื่องแฟนสาวที่ไปมีแฟนใหม่ เลยทำให้ไม่มีสติเมื่อเกิดเหตุตอนนั้นไม่รู้ว่าตนเองทำอะไรลงไป ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทางภายหลังการเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.น.5 ได้เร่งระบายรถยนต์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนบนท้องถนนโดยเร่งด่วน