เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 25 ธ.ค. บริเวณลานจอดรถโรงแรมอมารี วอเตอร์เกท (ประตูน้ำ) เขตราชเทวี พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผบช.สตม. พร้อมด้วย พ.ต.อ.บรรลือศักดิ์ ขลิบเงิน รอง ผบก.สส.สตม. พ.ต.ต.ระลึก อินทรรัศมี สว. กก.2 บก.สส. สตม. นำกำลังเจ้าหน้าที่ กก.2 บก.สส.สตม. เข้าจับกุม นายมาหิมานนาดา มิสรา (MR.MAHIMANANDA MISHRA) อายุ 63 ปีและนายบาซานต้า คูมา เบล (MR.BASANTA KUMAR BAL) อายุ 69 ปี ผู้ต้องหาตามหมายศาลสูงประเทศอินเดีย ข้อหาอ"สมรู้ร่วมคิดกระทำฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ใช้และครอบครองอาวุธปืน โดยผิดกฏหมาย ใช้และครอบครองวัตถุระเบิด" พล.ต.ท.ณัฐธร เปิดเผยว่า นายมาหิมานนาดา มิสรา เป็นหัวหน้ามาเฟียขนาดใหญ่ คุมท่าเรือพาราดิส ทางตะวันออกของ ประเทศอินเดีย มีมือปืนในสังกัดไม่ต่ำกว่า 50 คน และมีนายบาซานต้า คูมา เบล เป็นคนสนิท โดยเมื่อวันที่ 26 ต.ค. 59 ที่ประเทศอินเดีย มีมือสังหารใช้ปืนยิงและขว้างระเบิดใส่ นายมาเฮนดร้า ซาวาน ผู้บริหารบริษัท ซีเวย์แอนด์โลจิสติกส์ จำกัด เสียชีวิตและมีผู้บาดเจ็บ เพราะขัดแย้งเรื่องพื้นที่ท่าเรือ ขนส่งทางน้ำและการกระจายสินค้าทางบก บริษัทของผู้ตายเข้ามาแข่งขันทางธุรกิจในท่าเรือ ซึ่งมีผลกำไรมูลค่ากว่า 4พันล้านบาท เป็นข่าวโด่งดังในประเทศอินเดีย จากนั้นทางการอินเดียจับกุมมือปืนและมือระเบิด ให้การว่าผู้จ้างวาน คือ ผู้ต้องหาทั้ง 2 และหลบหนีออกจากประเทศอินเดีย ไปประเทศเนปาล และเดินทางเข้ามาประเทศไทย เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. โดยประเทศอินเดีย ประสานมาจึงสั้งการให้ พ.ต.อ.บรรลือศักดิ์ นำกำลัง กก.2 บก.สส.สตม. เข้าจับกุม พล.ต.ท.ณัฐธร เปิดเผยต่อไปว่า นอกจากผู้ต้องหาทั้ง 2 ยังสืบทราบว่า มีผู้ลูกน้องติดตามเข้ามาในประเทศไทย 4-5 คน แต่ไม่มีหมายจับ หลังจากนี้จะดำเนินยกเลิกหนังสือเดินทาง เพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาญาจักร ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พฤติการณ์เป็นภัยสังคม พร้อมบันทึกเป็นบุคคลต้องห้าม (Black list) ห้ามเข้าประเทศไทย และให้ทางการอินเดียนำตัวกลับไปดำเนินคดีตามกฎหมาย//