ที่ สน.โชคชัย เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 25 ธันวาคม พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วยพล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา รรท.ที่ปรึกษา(สบ10) พ.ต.อ.อังกูร คล้ายคลึง รรท.ผบก.สท. พล.ต.ต.ปรีชา เจริญทรัพย์ รอง ผบช.น. พ.ต.อ.ไพรศาล วงศ์วัชระมงคล รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.ชัยรพ จุณณวัตต์ รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.สุพล ค้ำชู ผกก.สน.โชคชัย และพ.ต.ท.สิทธิศักดิ์นาคามาตย์ รอง ผกก.สส.สน.โชคชัย ร่วมกันตรวจเยี่ยมโครงการประชารัฐร่วมใจฝากบ้านกับตำรวจ โดยได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมบ้านนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ไมค์ ภิรมย์พร หรือนายพรภิรมย์ พินทะปะกัง อายุ 50ปี ภายในหมู่บ้านเอกสิน ซอยนาคนิวาส 46 แขวงเขตลาดพร้าว กทม. จากนั้นได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมอมรพันธ์ 9 แขวงเขตลาดพร้าว กทม.
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า โครงการประชารัฐร่วมใจฝากบ้านกับตำรวจนั้น เป็นนโยบายของทางรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ต้องการให้มีการป้องปรามเหตุอาชญากรรมและยังเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างตำรวจและประชาชน ช่วยกันดูแลทรัพย์สินของประชาชน โดยจะขอความร่วมมือจากประชาชนที่จะเข้าร่วมโครงการให้ช่วยทำการติดกล้องCCTVไว้บริเวณรอบตัวบ้านด้วยเพื่อสะดวกต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้ยังมีการนำแอฟพลิเคชั่นไลน์และเฟสบุ๊กเข้ามาช่วยในการติดต่อสื่อสารระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของบ้าน และผู้ที่ช่วยเฝ้าระวัง เพราะนอกจากโครงการฝากบ้านกับตำรวจยังมีสายตรวจที่คอยตรวจตราได้รอบหมู่บ้าน มีโครงการเพื่อบ้านเตือนภัย โดยเพื่อนบ้านที่ไม่ได้ไปเที่ยวในช่วงเทศกาลจะช่วยเฝ้าระวังอีกแรงถือเป็นการร่วมมือกันอย่างแท้จริง ทั้งนี้เมื่อปีที่ผ่านมาพบว่าทั่วประเทศมีผู้ที่เข้ารวมโครงการกว่า 5,000หลัง ในพื้นที่ สน.โชคชัย ประมา140หลัง และในอนาคตเชื้อว่าจะมีผู้ที่เข้าร่วมโครงการมากขึ้น
นายพรภิรมย์ เปิดเผยว่า ตนเคยเข้าร่วมโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจมาแล้ว4ครั้ง และรุ้สึกว่าเป็นโครงการที่ดี สร้างความอุ่นใจให้กับประชาชนเพราะจะมีเจ้าหน้าที่คอยวนมาตรวจตราและรายงานสถานการณ์อยู่ตลอด เชื่อว่าเป็นโครงการที่ดรเป็นประโยชน์และอยากให้มีต่อไปเรื่อยๆ สำหรับประชาชนที่ต้องเดินทางออกไปต่างจังหวัดหลายวันในช่วงเทศกาลหยุดยาวนั้นให้เข้ารวมโครงการจะเป็นการดีเพราะจะได้อุ่นใจเพราะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลให้
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า โครงการประชารัฐร่วมใจฝากบ้านกับตำรวจนั้น เป็นนโยบายของทางรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ต้องการให้มีการป้องปรามเหตุอาชญากรรมและยังเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างตำรวจและประชาชน ช่วยกันดูแลทรัพย์สินของประชาชน โดยจะขอความร่วมมือจากประชาชนที่จะเข้าร่วมโครงการให้ช่วยทำการติดกล้องCCTVไว้บริเวณรอบตัวบ้านด้วยเพื่อสะดวกต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้ยังมีการนำแอฟพลิเคชั่นไลน์และเฟสบุ๊กเข้ามาช่วยในการติดต่อสื่อสารระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของบ้าน และผู้ที่ช่วยเฝ้าระวัง เพราะนอกจากโครงการฝากบ้านกับตำรวจยังมีสายตรวจที่คอยตรวจตราได้รอบหมู่บ้าน มีโครงการเพื่อบ้านเตือนภัย โดยเพื่อนบ้านที่ไม่ได้ไปเที่ยวในช่วงเทศกาลจะช่วยเฝ้าระวังอีกแรงถือเป็นการร่วมมือกันอย่างแท้จริง ทั้งนี้เมื่อปีที่ผ่านมาพบว่าทั่วประเทศมีผู้ที่เข้ารวมโครงการกว่า 5,000หลัง ในพื้นที่ สน.โชคชัย ประมา140หลัง และในอนาคตเชื้อว่าจะมีผู้ที่เข้าร่วมโครงการมากขึ้น
นายพรภิรมย์ เปิดเผยว่า ตนเคยเข้าร่วมโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจมาแล้ว4ครั้ง และรุ้สึกว่าเป็นโครงการที่ดี สร้างความอุ่นใจให้กับประชาชนเพราะจะมีเจ้าหน้าที่คอยวนมาตรวจตราและรายงานสถานการณ์อยู่ตลอด เชื่อว่าเป็นโครงการที่ดรเป็นประโยชน์และอยากให้มีต่อไปเรื่อยๆ สำหรับประชาชนที่ต้องเดินทางออกไปต่างจังหวัดหลายวันในช่วงเทศกาลหยุดยาวนั้นให้เข้ารวมโครงการจะเป็นการดีเพราะจะได้อุ่นใจเพราะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลให้