เด็กในฐานะ “ทรัพยากรมนุษย์” และเป็นอนาคตที่สำคัญของประเทศชาติในวันข้างหน้า ทุกสังคมจึงให้ความสำคัญกับเด็กและจัดให้มี “วันเด็ก” ขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อให้เด็กได้รับรู้ถึงสถานะความสำคัญของตัวเอง รวมทั้งปลูกฝังความคิด ความรู้ และสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กทุกคนได้เติบโตขึ้นมาเป็นบุคคลที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพของสังคมได้ต่อไปในอนาคต พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการเติบโตอย่างมีคุณภาพของเด็กเสมอ เพราะอนาคตของประเทศชาติจะเป็นอย่างไรต่อไป ล้วนขึ้นอยู่กับคุณภาพของเด็กในวันนี้ที่จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาดูแลประเทศชาติให้เกิดความมั่นคงได้ต่อไปในอนาคต ดังคำขวัญ “วันเด็กแห่งชาติ” ประจำปี 2560 ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบไว้ให้กับเด็กๆทุกคนว่า “เด็กไทย ใส่ใจศึกษา พาชาติมั่นคง” พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า เนื่องในโอกาส “วันเด็กแห่งชาติ” ประจำปี 2560 ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 14 มกราคม รัฐบาลได้เปิด “ทำเนียบรัฐบาล” ให้ผู้ปกครองพาบุตรหลานมาร่วมกิจกรรมที่จัดเตรียมเอาไว้อย่างมากมาย ตั้งแต่เวลา 08.30 น. เป็นต้นไป โดยได้รับเกียรติจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธิเปิดงาน พร้อมทั้งกล่าวให้โอวาทและร่วมทำกิจกรรมกับเด็กๆที่มาร่วมงาน โดยนอกจากจะมีการเปิดอาคารอนุรักษ์ที่สำคัญ ได้แก่ ตึกไทยคู่ฟ้า ตึกสินติไมตรี ตึกนารีสโมสร ห้องประชุมรัฐมนตรี และห้องทำงานของนายกรัฐมนตรี ให้เด็กและเยาวชนได้เยี่ยมชมแล้ว รัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับผิดชอบพื้นที่บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ร่วมจัดกิจกรรมงานวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2560 กำหนดประเด็น (Theme) ในการจัดภายใต้แนวคิดหลัก “ดินแดนแห่งความสุข ตามศาสตร์พระราชา” โดยได้น้อมนำแนวพระราชดำรัส พระราชดำริพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาเป็นแนวทางในการจัดกิจกรรม มีการสอดแทรกพระราชดำริ พระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุยเดช ที่เกี่ยวข้องด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างการเรียนรู้ จิตสำนึกควบคู่กับการสร้างความสุขให้กับเด็กๆ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ได้จัดสถานที่บริเวณสนามหน้าตึกสันติไมตรีให้เป็น “ดินแดนแห่งความสุข” สำหรับเด็กที่มาร่วมงาน ซึ่งหน่วยงานต่างๆ ได้จัดเตรียมกิจกรรมที่จะสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับเด็กทุกคน ขณะเดียวกันก็ได้สอดแทรกเนื้อหาความรู้ “ศาสตร์แห่งพระราชา” ซึ่งประกอบด้วยแนวทางตามพระราชดำริ และพระราชดำรัสของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชโดยเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมที่เด็กๆสามารถเรียนรู้และเข้าใจได้ง่าย เพื่อปลูกจิตสำนึกและเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคนนำไปปฏิบัติและเดินตามรอยเบื้องพระยุคลบาทของพระองค์ โดยหน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้จัดเตรียมมีกิจกรรมที่น่าสนใจไว้ดังนี้ การจัดแสดงนิทรรศการ “ศาสตร์แห่งพระราชา” โดยหน่วยงานต่างๆ นิทรรศการต้นไม้ทรงปลูก และการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ โดยกรมป่าไม้, นิทรรศการน้ำคือชีวิต และโครงการแก้มลิง โดยกรมทรัพยากรน้ำ, นิทรรศการศาตร์พระราชาและความรู้เรื่องน้ำบาดาล โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาล, นิทรรศการต้นน้ำ โดยกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธ์พืช, แบบจำลองภูมิปัญญาป่าชายเลน โดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และชม “กังหันชัยพัฒนา” ซึ่งเป็นวิธีการบำบัดน้ำเสียด้วยวิธีเติมอากาศโดยองค์การจัดการน้ำเสีย พระราชกรณียกิจเรื่องเหมืองแร่ และการเปิดลาน “Dino Park” โดยกรมทรัพยากรธรณี ซึ่งเด็กๆจะได้พบกับการจัดแสดง “ไดโนเสาร์คืนชีพ” หุ่นไดโนเสาร์เคลื่อนไหวได้ และหุ่นจำลองไดโนเสาร์ที่ค้นพ้นในประเทศไทย อาทิ ไดโนเสาร์กินพืชภูเวียงโกซอรัส สิรินธรเน่, ไดโนเสาร์สยามโมซอรัส อีสานเอนซิส, ไดโนเสาร์นกกินรี ฯลฯ พบไดโนเสาร์เดินได้, หลุมขุดค้นไดโนเสาร์ รวมทั้งร่วมการทดลองวิทยาศาสตร์อย่างง่ายๆ ทางธรณีวิทยา การแจกจ่ายกล้าไม้ตาม “พันธุ์ไม้ทรงปลูก” จำนวน 2,000 กล้า โดยกรมป่าไม้ พร้อมทั้งร่วมกิจกรรมเขียนข้อความตั้งปณิธานความดีแล้วนำไปติดเป็นใบไม้บน“ต้นไม้แห่งความดี”, กิจกรรมความรู้เรื่องน้ำบาดาล พร้อมจุดถ่ายภาพจำลองระบบสูบน้ำบาดาลพลังแสงอาทิตย์ และร่วมระบายสีภาพพระมหาชนก โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาล, กิจกรรมให้ความรู้เรื่องช้างและ “ช้างเผือก” โดยองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ นายสากล ฐินะกุล อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า นอกจากนี้ภายในบูทกิจกรรมของหน่วยงานต่างๆ ยังได้จัดเตรียมเกมชิงของรางวัล ของขวัญของแจก อาหาร ขนมและน้ำดื่มเอาไว้ให้กับเด็กๆ อย่างมากมาย ทั้งจักรยานจำนวน 110 คัน ซึ่งจะแจกทุกชั่วโมงๆละ 12 คัน ชุดของเล่นเด็ก ตุ๊กตา อุปกรณ์กีฬา ชุดเครื่องเขียน กระบอกน้ำ และหุ่นไดโนเสาร์ อาทิ เกม Super basketball เกมคัดแยกขยะเกมวงล้อรักษ์โลก จำนวนกว่า 10,000 ชิ้น ขณะที่บนเวทีกลาง ก็มีการจัดเตรียมกิจกรรมบันเทิงให้เด็กๆ เข้าร่วม เช่น การร้องเพลงคาราโอเกะเพลงพระราชนิพนธ์ เพลงตามรอยพ่อ และเพลงต้นไม้ของพ่อ เป็นต้น ทั้งหมดนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของกิจกรรมที่ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดเตรียมเอาไว้ โดยไม่ได้หวังเพียงแค่จะเป็นการมอบความสุขเนื่องในวันเด็กแห่งชาติเท่านั้น แต่ยังต้องการให้ส่งมอบแรงบันดาลใจให้เด็กทุกคนได้เดินตามรอยศาสตร์แห่งพระราชาที่ยิ่งใหญ่ของชาวไทย เพื่อให้ทุกคนได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีจิตสำนึกรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเป็นพลังสำคัญในการสร้างชาติของเราต่อไป ดังนั้นจึงอยากขอเชิญชวนพ่อ แม่ และผู้ปกครอง พาบุตรหลาน เข้ามาร่วมกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ “ดินแดนแห่งความสุข ตามศาสตร์แห่งพระราชา”14 มกราคมนี้ ที่บริเวณหน้าตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่เวลา 08.30 น. เป็นต้นไป