ผู้สื่อข่าว จ.สมุทรสาคร รายงานคืบหน้า (วันที่ 18 ม.ค.60) จากกรณีที่ น.ส.บุษบา ขาวเจริญ และญาติ ฐานะเจ้าของสวนมะขามเทศและพุทรา บนเนื้อที่ 7 ไร่ ในเขตพื้นที่หมู่ 8 ต.บางกระเจ้า อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร ได้เข้าร้องเรียนเรื่องความเดือดร้อน ต่อหน่วยงานราชการ และศูนย์ดำรงธรรมฯในจังหวัด ว่า ได้รับจากปัญหาน้ำเสียโรงงาน (ทวีชัยการฟอกย้อม) ที่อยู่ติดกัน ปล่อยให้น้ำทิ้งซึ่งมีสารเคมีปนเปื้อนรั่วซึมเข้ามาในสวนหลายครั้ง เป็นเหตุให้ต้นมะขามเทศในสวนได้รับความเสียหายและล้มตาย แต่ยังไม่เป็นผลผ่านมาเกือบ 1 ปีแล้ว กระทั่งตัดสินใจฟ้องร้องต่อศาลปกครองกลาง (เมื่อเดือนเม.ย.2557) ที่ผ่านมา (วันที่ 18 ม.ค.60) มีรายงานว่า ล่าสุด น.ส.บุษบา เจ้าของสวนมะขามเทศ ฐานะเจ้าทุกข์ เปิดเผยว่าด้วยเหตุกรณีที่เคยร้องเรียนเรื่องความเดือดร้อนน้ำเสียจากโรงย้อมฯรั่วซึมเข้าสวนเสียหายฯ กับหน่วยงานราชการ และศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสมุทรสาคร แต่ผลไม่มีความคืบหน้า จึงต้องพึ่งศาลปกครองกลาง โดยมีนายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เป็นตัวแทนผู้จัดการให้ ปรากฏว่า ล่าสุดนี้ศาลปกครองกล่างมีคำสั่งกำหนดผู้ถูกฟ้องที่ 6 ใหม่ และเรียก สนง.ปลัดอุตสาหกรรมฯ กรมโรงงาน และ จนท.อบต.บางกระเจ้า เข้ามาเป็นจำเลยผู้ถูกฟ้องเพิ่ม กรณีในไต่สวนคดีนัดสุดท้ายนี้เพื่อเตรียมตัดสินปิดคดี โดยมีฝ่ายโจทย์ฟ้องเรียกค่าเสียหายในผลกระทบของน้ำเสียของโรงงานฯ ต่อผลผลิตมะขามเทศและพุทราเสียที่หายเก็บผลผลิตขาดทุน ด้านนายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ระบุว่า เรื่องนี้ตนได้รับมอบหมายเป็นตัวแทนฟ้องศาลปกครองกลาง ถนนแจ้งวัฒนะ หลักสี่ กทม. ให้แก่น.ส.บุษบา เจ้าของสวนพุทราและครอบครัว ไปตั้งแต่(20 เม.ย.58) ในนามสมาคมฯ กับชาวบ้าน ต.บางกระเจ้า อ.เมืองสมุทรสาคร โดยยื่นฟ้องเผาผิดได้แก่ อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร คือจำเลยที่ 1, อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม จำเลยที่ 2, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม จำเลยที่ 3 และนายก อบต.บางกระเจ้า จำเลยที่ 4, ในฐานเป็นเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานของรัฐละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติกรณี การปล่อยให้โรงงานฟอกย้อมทวีชัยฟอกย้อม (เลขที่ 89 หมู่ที่ 8 ถนนชัยมงคล ตำบลบางกระเจ้า) ที่ได้ละเลยปล่อยน้ำเสียออกมากระทบต่อสวนพุทราและสวนมะขามเทศของชาวบ้าน จนความเดือดร้อนและเสียหายหลาย ต่อกันหลายครั้งเรื่อยมาตั้งแต่ปี 2554 จนถึงขณะนี้ เป็นเหตุให้พืชผลของบ้านข้างเคียงล้มตาย เก็บเกี่ยวผลผลิตไม่ได้เท่าที่ควร ซึ่งมีฟ้องศาลเรียกค่าเสียหายด้วย 3.5 ล้านบาท "ในส่วนการฟ้องด้านราชการหน่วยงานภาครัฐ (ใน ม.157) ว่าไม่ได้ใช้อำนาจหน้าที่อย่างใดตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ จัดดำเนินการสั่งปิดหรือลงโทษผู้ประกอบการดังกล่าวให้เป็นผลแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามการไต่สวนของคดีดังกล่าวนี้คาดว่าเร็วๆนี้รู้ผลคำตัดสินราวๆสิ้นเดือน ม.ค.นี้แล้ว"