นิสสัน ประเทศไทย พร้อมผู้เชี่ยวชาญด้านยานยนต์และสื่อมวลชนสายไลฟ์สไตล์ร่วมขบวนทดสอบขับขี่เป็นเวลา 11 วัน 10 คืน บนเส้นทางที่มีระยะทางรวมทั้งหมดกว่า 3,000 กม. ทั่วประเทศเมียนมาร์ ในกิจกรรมที่จัดขึ้นด้วยแนวคิด “Nissan Intelligent Driving Experience (NIDE) Go Anywhere” เพื่อพิสูจน์ศักยภาพของรถกระบะอัจฉริยะอย่าง นาวารา แบล็ค เอดิชั่น ปี 2019 ใหม่ รถเอสยูวีอัจฉริยะสำหรับชีวิตในเมือง อย่าง เอ็กซ์เทรล ใหม่ และ เทอร์ร่า ใหม่ รถอเนกประสงค์อัจฉริยะแบบตัวถังบนแชสซี
การผจญภัยอย่างไร้ขีดจำกัดในเมียนมาร์คือปรากฎการณ์ใหม่ของกิจกรรมทดสอบขับขี่ภายใต้กิจกรรม NIDE Go Anywhere ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยังเป็นครั้งแรกที่เป็นการเดินทางแบบคาราวานอย่างเป็นทางการจากภาคใต้ขึ้นสู่ภาคเหนือของประเทศเมียนมาร์
ไลฟ์สไตล์แบบ “ลุยได้ทุกที่” ของนิสสัน สร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนด้วยสมรรถนะ และศักยภาพของรถยนต์นิสสันที่พร้อมจะพาคุณไปที่ไหนก็ได้ด้วยความปลอดภัย สะดวกสบาย ด้วยเหตุนี้เราจึงได้เชิญสื่อมวลชนสายยานยนต์ และสื่อมวลชนสายไลฟ์สไตล์มาร่วมการเดินพิสูจน์ศักยภาพของ นิสสัน นาวารา แบล็ค เอดิชั่น ปี 2019 ใหม่ นิสสัน เอ็กซ์เทรล ใหม่ และ นิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ ด้วยตนเอง
มร.ราเมช นาราสิมัน ประธาน นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า นิสสัน คาราวาน ออกเดินทางไปในเส้นทางที่ว่ากันว่า ยังไม่ถูกค้นพบแห่งหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีทิวทัศน์ที่สวยงามและการจราจรที่ไม่หนาแน่น เรามีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่รถของเรามอบสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมและความสะดวกสบายเมื่อขับขี่บนถนนที่ขรุขระหรือ สามารถขับได้อย่างราบรื่นบนถนนที่มีความคดเคี้ยวตลอดเส้นทาง ซึ่งผู้ร่วมกิจกรรมได้มีโอกาสทดสอบขีดจำกัดของรถยนต์แต่ละรุ่นระหว่างการเดินทางที่มี กิจกรรมต่างๆ มากมายบนเส้นทางที่มี เข้าถึงได้ยากแต่มีความน่าตื่นตาตื่นใจที่สุดเส้นทางหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
การทดสอบขับขี่ในเส้นทางที่แตกต่างกัน ซึ่งรวมระยะทางทั้งหมดกว่า 3,000 กม. โดยผู้ร่วมกิจกรรมจะต้องสลับสับเปลี่ยนรถยนต์ที่ขับทุกวันระหว่าง นาวารา แบล็ค เอดิชั่น ใหม่ เอ็กซ์เทรล ใหม่ และเทอร์ร่า ใหม่ เพื่อทดสอบสมรรถนะการขับขี่บนเส้นทางที่ถูกกำหนดให้มีความแตกต่างกัน และท้าทายสมรรถนะของรถยนต์ทุกรุ่นอย่างเต็มที่
โดยกลุ่มแรกเริ่มต้นจาก ทางหลวงในจังหวัดกาญจนบุรี สู่ด่านพรมแดน ที่บ้านพุน้ำร้อน ก่อนจะมุ่งหน้าสู่เมืองทวาย และเดินทางต่อไปยังนครย่างกุ้งด้วยรถกระบะนาวารา แบล็ค เอดิชัน ใหม่ ที่เพียบพร้อมสมรรถนะและรูปลักษณ์ใหม่ที่โดดเด่น ตลอดจนระบบอินโฟเทนเมนท์ล่าสุดแบบ Alliance In-Vehicle Infotainment (A-IVI) ที่รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านแอปเปิล คาร์เพลย์ และแอนดรอยด์ ออโต้
ขณะที่กลุ่มที่สองขับขี่ เอ็กซ์เทรล ใหม่ จากนครย่างกุ้งสู่มัณฑะเลย์เพื่อเน้นถึงศักยภาพของเทคโนโลยีจาก นิสสัน อินเทลลิเจนต์ โมบิลิตี (Nissan Intelligent Mobility) ไม่ว่าจะเป็นระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ (Intelligent Cruise Control) เทคโนโลยีเตือนเมื่อมีวัตถุอยู่ในจุดอับสายตา (Blind Spot Warning) เทคโนโลยีเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง (Lane Departure Warning) เทคโนโลยีช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้าอัจฉริยะ (Intelligent Forward Collision Warning) และเทคโนโลยีตรวจจับวัตถุด้านหลังรถขณะถอย (Rear Cross Traffic Alert) ซึ่งทั้งหมดนี้ ช่วยยกระดับความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการเดินทางครั้งนี้
ซึ่งระหว่างการทดสอบขับ หลังคาพาโนรามิกซันรูฟในเอ็กซ์เทรล ใหม่ (เฉพาะรุ่น) ได้ช่วยเปิดมุมมองกว้างไกลให้ผู้ร่วมกิจกรรมได้ชมความเขียวชอุ่มของธรรมชาติผ่านหลังคาแก้วที่มีขนาดกว้าง ขณะที่เทคโนโลยีประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้าอัตโนมัติ (Hands-free Auto Lift Gate) มีประโยชน์สำหรับการขนถ่ายสัมภาระในเมืองและอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการทำกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ หรือการเดินทางที่ต้องบรรทุกสัมภาระหรือกระเป๋าเดินทางมากมายเหมือนกับทริปนี้อีกด้วย
เมื่อออกจากมัณฑะเลย์ คาราวานทดสอบขับขี่กลุ่มที่สาม เดินทางไต่ขึ้นสู่เขตเทือกเขาสูงไปพร้อมกับเทอร์ร่า ใหม่ รถอเนกประสงค์อัจฉริยะแบบตัวถังบนแชสซี โดยมุ่งหน้าสู่ทะเลสาบอินเล ซึ่งรถรุ่นนี้มีการผสมผสานระหว่างเครื่องยนต์อันทรงพลังที่สุดในระดับเดียวกัน และห้องโดยสารแบบ 7 ที่นั่งที่มีพื้นที่กว้างขวาง รวมถึงเทคโนโลยีจากนิสสัน อินเทลลิเจนต์ โมบิลิตี อาทิ กล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitor) และระบบเตือนวัตถุเคลื่อนไหวรอบคัน (Moving Object Detection หรือ MOD) ช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นภาพรอบคันได้อย่างสมบูรณ์ในทุกมุมมอง จึงสามารถเคลื่อนตัวผ่านพื้นที่คับแคบจอแจได้ง่าย รวมถึงเทคโนโลยีกระจกมองหลังอัจฉริยะ (Intelligent Rear View Mirror หรือ IRVM) อีกด้วย
คุณสมบัติต่างๆ เหล่านี้มอบอรรถประโยชน์เมื่อขบวนขับขี่มุ่งหน้าผ่านเมืองตองจีและเมืองน้ำจ๋าง บนเส้นทางที่ผ่านหมู่บ้านของชนเผ่าปะหล่อง ซึ่งมีการขับขี่ที่ไต่ลงไปในหุบเขาที่คับแคบ โดยชาวบ้านจากหมู่บ้านปะหล่องมีการเพาะปลูกใบชาและต้นมะม่วงตามหุบเขา ก่อนจะลัดเลาะเลียบไปตามเส้นทางตีนเขาและไต่ขึ้นถนนที่มีความลาดชันมากอีกครั้งไปยังหมู่บ้านปะหล่องที่ตั้งอยู่บนยอดเขา ซึ่งเป็นหนึ่งในการขับขี่ช่วงสุดท้ายที่มีความคดเคี้ยวผ่านรัฐฉานทางภาคตะวันออกของประเทศที่ถือเป็นเส้นทางที่น่าประทับใจจากทิวทัศน์สองข้างทางอันงดงามตระการตา
ในช่วงสุดท้ายของการผจญภัย ผู้ร่วมกิจกรรมทุกคนต่างพูดคุยถึงการขับขี่และสมรรถนะของนาวารา แบล็ค เอดิชั่น ใหม่ เอ็กซ์เทรล ใหม่ และเทอร์ร่า ใหม่
ผู้ร่วมกิจกรรมบางคนมีความกังวลกับการขับขี่นาวารา แบล็ค เอดิชั่น ใหม่ บนเส้นทางที่พวกเขาไม่คุ้นเคย แต่เมื่อพวกเขาเสร็จสิ้นการขับช่วงแรก ทุกคนก็มีความเข้าใจในเทคโนโลยีจากนิสสัน อินเทลลิเจนต์ โมบิลิตี มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะความก้าวล้ำหน้าของระบบนำทางผ่านแอพพลิเคชันที่มีสามารถเห็นทางโค้งต่างๆ ช่วยให้พวกเขาเตรียมพร้อมล่วงหน้าและเห็นตรงกันว่าระบบนำทางช่วยเหลือในการขับขี่ได้มากโดยเฉพาะการเดินทางผ่านเข้าสู่ เมืองมะละแหม่ง เมืองพะโค และบนเทือกเขาที่ลาดชันเลียบแม่น้ำสาละวิน เป็นต้น
ขณะที่ นิสสัน เอ็กซ์เทรล ใหม่ ได้รับความเสียงชื่นชมจากผู้ร่วมกิจกรรมที่ได้รับความสะดวกสบายตลอดการเดินทางไม่ว่าจะขับขี่บนทางหลวงของเมืองพุกามหรือการขับสู่ทางลาดชันที่มีโค้งแคบๆ มุ่งหน้าสู่เมืองมัณฑะเลย์ และด้วยเทคโนโลยีจาก นิสสัน อินเทลลิเจนต์ โมบิลิตี ของเอ็กซ์เทรล ใหม่ อย่างระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ ที่ตรวจจับการเคลื่อนที่ของรถคันหน้าในขบวน และระบบช่วยลดความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ (Intelligent Engine Brake) ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างนุ่มนวลเพื่อลดความเร็วลงขณะเข้าโค้ง รวมถึงเร่งความเร็วเมื่อออกจากโค้ง
ผู้ร่วมกิจกรรมกลุ่มที่สาม ได้พบกับความตื่นเต้นเร้าใจจากการขับขี่ผ่านรัฐฉานที่แวดล้อมด้วยเทือกเขาและป่าทึบ พวกเขาเปิดเผยว่า ด้วยการออกแบบที่บึกบึนและแข็งแกร่งของเทอร์ร่า ใหม่ มาพร้อมระบบกันสะเทือนหลังแบบ 5 ลิงค์อันเป็นเอกลักษณ์ ให้ความสมบูรณ์แบบแก่การขับขี่ที่สมบุกสมบัน โดยเฉพาะการขับขึ้นสู่เส้นทางที่มีความลาดชันมุ่งหน้าสู่หมู่บ้านของชาวปะหล่อง โดยแต่ละคนชื่นชมกับอัตราเร่งของเทอร์ร่า ใหม่ บนถนนที่มีความเรียบอย่างถนนลาดยาง รวมถึงการเกาะถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพบนทางที่คดเคี้ยว รวมถึงความสามารถของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่ให้ความปลอดภัยสูงสุดไม่ว่าจะขับขี่บนพื้นผิวถนนแบบใดก็ตาม
ตลอดกิจกรรม ผู้ร่วมกิจกรรมได้รับประสบการณ์มากมายจากการขับขี่ไปยังสถานที่แปลกใหม่ของเมียนมาร์ในทริปการเดินทางสุดพิเศษครั้งนี้ ที่ทำให้การขับขี่บนท้องถนนต่างๆ และทางหลวง เต็มเปี่ยมไปด้วยความอบอุ่น เงียบสงบ สดชื่น และปราศจากความกังวล อันเกิดจากความเชื่อมั่นในเทคโนโลยีจาก นิสสัน อินเทลลิเจนต์ โมบิลิตี ที่ช่วยยกระดับของความสนุกสนาน ความสะดวกสบาย และความปลอดภัยให้แก่ผู้ร่วมกิจกรรมทุกคนตลอดการเดินทาง ซึ่งได้จำกัดนิยามของกิจกรรมภายใต้วิถีชีวิตที่สามารถ “ลุยได้ทุกที่” อย่างแท้จริง
นิสสัน เอ็กซ์เทรล ใหม่ ที่มี 2 ระบบขับเคลื่อนได้มีโอกาสแสดงสมรรถนะในรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 171 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 233 นิวตัน-เมตร และเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ไฮบริด ให้กำลังสูงสุด 144 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 200 นิวตัน-เมตร และมอเตอร์ไฟฟ้าที่เพิ่มกำลังสูงสุดอีก 41 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 160 นิวตัน-เมตร เพื่อการขับขี่ที่สนุกเร้าใจ ซึ่งทั้งสองเครื่องยนต์มีพละกำลังเหลือเฟือสำหรับการเดินทางสู่เมืองพุกามและหยุดพักกันที่ชุมชนที่แปรรูปอาหารและผลผลิตจากต้นตาล
นิสสัน นาวารา แบล็ค อิดิชั่น ใหม่ พละกำลังเครื่องยนต์ 163 แรงม้า และแรงบิดกว่า 403 นิวตัน-เมตร ของนาวารา สร้างความท้าทาย และส่งมอบประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ที่ดีที่สุดของรถกระบะในระดับเดียวกันและยังให้การประหยัดน้ำมัน รวมถึงการขับขี่ที่สะดวกสบายเมื่อขับบนถนนที่คดเคี้ยว สามารถผ่านทุกโค้งไปได้อย่างราบรื่น โดยในระหว่างการเดินทาง นาวารา แบล็ค อิดิชั่น ใหม่ ยังรับหน้าที่บรรทุกอุปกรณ์ที่จำเป็น และสัมภาระในการเดินทางต่างๆ
ระหว่างการเดินทางสื่อมวลชนได้ทดลองใช้เทคโนโลยี นิสสัน อินเทลลิเจนต์ โมบิลิตี และฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย และความสะดวกสบาย เช่น กล้องมองภาพรอบทิศทาง (Around View Monitor - AVM) ในรุ่น ดับเบิ้ลแค็บ คาลิเบอร์ เกียร์อัตโนมัติ 7 สปีดของนาวารา แบล็ค อิดิชั่น ใหม่ ที่ช่วยให้สามารถมองเห็นตัวรถนาวารา และสิ่งรอบข้างผ่านกล้องที่ถูกติดตั้ง 4 จุดรอบคัน ในขณะที่รุ่นคิง แค็บ ของเบล็ค อิดิชั่น ใหม่ มีกล้องมองหลัง (Rear-View Camera) คุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่โดดเด่นรวมถึงระบบเบรกป้องกันล้อล็อค (ABS) ถุงลมนิรภัย กุญแจรีโมท ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ จอแสดงผลแบบ Drive-Assist ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถติดตามความเร็วและแสดงอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันของการขับขี่ระยะไกล ในขณะที่ระบบปรับอากาศด้านหลังที่เป็นเอกลักษณ์ของนาวารา ได้มอบความสะดวกสบายทั่วห้องโดยสารในช่วงฤดูร้อน
นิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ เครื่องยนต์ดีเซล YS23DDTT ทวินเทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ DOHC ขนาด 2,298 ซีซี มาพร้อมหัวฉีดเชื้อเพลิงระบบไดเร็คอินเจคชัน ให้พละกำลังสูงสุด 190 แรงม้า และมีแรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ให้อัตราเร่งที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน ระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ 7 สปีด ที่มาพร้อมโหมดขับขี่แบบแมนนวล (M mode) ที่โดดเด่นด้านพละกำลัง จึงทำให้ขับเคลื่อนได้อย่างราบรื่นและทรงพลังเมื่อต้องการสามารถรับมือกับทุกความท้าทายด้วยสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม และมีการประหยัดน้ำมันเป็นเลิศ ระบบกันสะเทือนด้านหลังอันโดดเด่นแบบ 5 ลิงค์ (5-link) ยังช่วยลดอาการโคลงตัวของรถ หรือ body rolling มอบการขับขี่ที่สะดวกสบายและราบรื่นผ่านถนนขุขระเคี้ยวบนลาชันตลอดทั้งเส้นทาง
ความรู้สึกส่วนตัวกับการเดินทางในทริปนี้ เป็นครั้งแรกที่ได้มีโอกาสเปิดประการณ์ใหม่และเส้นทางใหม่ของเอประเทศเพื่อนบ้าน อย่างเช่น ประเทศเมียนมาร์ หรือ”พม่า” นั้นเอง เส้นทางทาง จ.กาญจนบุรี อำเภอบ้านเก่า สิ้นสุดเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างไทย-พม่าที่บ้านน้ำพุร้อน ซึ่งค่ายรถยนต์ที่ทำอุตสาหกรรมผลิตในไทยเพื่อการส่งออกไปขายยังทั่วโลกนั้น ยังไม่มีค่ายใดเตยได้สัมผัสเส้นทางนี้ การเดินทางสู่เมืองทวาย พม่า อดีตไม่ใช่เรื่องที่ง่ายแต่ปัจจุบันก็ยังไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนกัน ระยะทาง 165 กม.กว่าๆ ในระยะทางดังกล่าวนั้นส่วนใหญ่จะเป็นทางฝุ่นบวกด้วยหินก้อนเล็กก้อนใหญ่ปะปนกันไประยะกว่า 90 กม.ที่เช่นนี้ การเดินทางค่อนข้างจะลำบากใช้เวลานาน กว่า 6 ชั่วโมงกว่าจะผ่านไปได้ รถยนต์ที่ใช้สัญจรในเส้นทางนี้ส่วนมากจะเป็นรถกระบะเพียงเท่านั้น “ถ้าเป็นรถที่ไม่ใช่กระบะจอดพังทุกราย” คำว่า “ระเบียงเศรษฐกิจใหม่ทวาย”คงต้องใช้เวลามากกว่า 10 ปี แน่นอนครับ
บริษัท นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เป็นผู้ผลิตรถยนต์ในบ้านเรารายแรกที่สามารถจัดกิจกรรมการเดินทางเส้นทางใหม่ๆ โดยใช้เส้นทางการค้า“ระเบียงเศรษฐกิจใหม่ทวาย” กรุงเทพฯ-กาญจนบุรี-เมียนม่าร์”พม่า”ซึ่งทั้ง 2 ช้าง จะขนาบไปด้วยป่าเขา-ลำน้ำ-เทือกเขาตะนาวศรี ที่ถอดยาวตลอดเส้นทาง ไม่มีชุมชนบ้านเรือนเลย ตลอดระยะทางกว่า 90 กม. แต่ถึงจะมีก็สามารถนับหลังคาเรือนได้เลยครับ เป็นความโชคดีของผมในช่วงวันแรกของการเดินทางผมได้สัมผัสกับรถกระบะสายพันธ์แกร่งอย่าง นิสสัน นาวารา แบล็ค อิดิชั่น ใหม่ พร้อมด้วยสัมภาระเต็มกระบะท้าย ขอบอกเลยสามารถผ่านเส้นทางหฤโหดตามภาพประกอบได้อย่างสบาย
การผจญภัยอย่างไร้ขีดจำกัดในเมียนมาร์คือปรากฎการณ์ใหม่ของกิจกรรมทดสอบขับขี่ภายใต้กิจกรรม NIDE Go Anywhere ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยังเป็นครั้งแรกที่เป็นการเดินทางแบบคาราวานอย่างเป็นทางการจากภาคใต้ขึ้นสู่ภาคเหนือของประเทศเมียนมาร์
ไลฟ์สไตล์แบบ “ลุยได้ทุกที่” ของนิสสัน สร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนด้วยสมรรถนะ และศักยภาพของรถยนต์นิสสันที่พร้อมจะพาคุณไปที่ไหนก็ได้ด้วยความปลอดภัย สะดวกสบาย ด้วยเหตุนี้เราจึงได้เชิญสื่อมวลชนสายยานยนต์ และสื่อมวลชนสายไลฟ์สไตล์มาร่วมการเดินพิสูจน์ศักยภาพของ นิสสัน นาวารา แบล็ค เอดิชั่น ปี 2019 ใหม่ นิสสัน เอ็กซ์เทรล ใหม่ และ นิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ ด้วยตนเอง
มร.ราเมช นาราสิมัน ประธาน นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า นิสสัน คาราวาน ออกเดินทางไปในเส้นทางที่ว่ากันว่า ยังไม่ถูกค้นพบแห่งหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีทิวทัศน์ที่สวยงามและการจราจรที่ไม่หนาแน่น เรามีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่รถของเรามอบสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมและความสะดวกสบายเมื่อขับขี่บนถนนที่ขรุขระหรือ สามารถขับได้อย่างราบรื่นบนถนนที่มีความคดเคี้ยวตลอดเส้นทาง ซึ่งผู้ร่วมกิจกรรมได้มีโอกาสทดสอบขีดจำกัดของรถยนต์แต่ละรุ่นระหว่างการเดินทางที่มี กิจกรรมต่างๆ มากมายบนเส้นทางที่มี เข้าถึงได้ยากแต่มีความน่าตื่นตาตื่นใจที่สุดเส้นทางหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
การทดสอบขับขี่ในเส้นทางที่แตกต่างกัน ซึ่งรวมระยะทางทั้งหมดกว่า 3,000 กม. โดยผู้ร่วมกิจกรรมจะต้องสลับสับเปลี่ยนรถยนต์ที่ขับทุกวันระหว่าง นาวารา แบล็ค เอดิชั่น ใหม่ เอ็กซ์เทรล ใหม่ และเทอร์ร่า ใหม่ เพื่อทดสอบสมรรถนะการขับขี่บนเส้นทางที่ถูกกำหนดให้มีความแตกต่างกัน และท้าทายสมรรถนะของรถยนต์ทุกรุ่นอย่างเต็มที่
โดยกลุ่มแรกเริ่มต้นจาก ทางหลวงในจังหวัดกาญจนบุรี สู่ด่านพรมแดน ที่บ้านพุน้ำร้อน ก่อนจะมุ่งหน้าสู่เมืองทวาย และเดินทางต่อไปยังนครย่างกุ้งด้วยรถกระบะนาวารา แบล็ค เอดิชัน ใหม่ ที่เพียบพร้อมสมรรถนะและรูปลักษณ์ใหม่ที่โดดเด่น ตลอดจนระบบอินโฟเทนเมนท์ล่าสุดแบบ Alliance In-Vehicle Infotainment (A-IVI) ที่รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านแอปเปิล คาร์เพลย์ และแอนดรอยด์ ออโต้
ขณะที่กลุ่มที่สองขับขี่ เอ็กซ์เทรล ใหม่ จากนครย่างกุ้งสู่มัณฑะเลย์เพื่อเน้นถึงศักยภาพของเทคโนโลยีจาก นิสสัน อินเทลลิเจนต์ โมบิลิตี (Nissan Intelligent Mobility) ไม่ว่าจะเป็นระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ (Intelligent Cruise Control) เทคโนโลยีเตือนเมื่อมีวัตถุอยู่ในจุดอับสายตา (Blind Spot Warning) เทคโนโลยีเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง (Lane Departure Warning) เทคโนโลยีช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้าอัจฉริยะ (Intelligent Forward Collision Warning) และเทคโนโลยีตรวจจับวัตถุด้านหลังรถขณะถอย (Rear Cross Traffic Alert) ซึ่งทั้งหมดนี้ ช่วยยกระดับความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการเดินทางครั้งนี้
ซึ่งระหว่างการทดสอบขับ หลังคาพาโนรามิกซันรูฟในเอ็กซ์เทรล ใหม่ (เฉพาะรุ่น) ได้ช่วยเปิดมุมมองกว้างไกลให้ผู้ร่วมกิจกรรมได้ชมความเขียวชอุ่มของธรรมชาติผ่านหลังคาแก้วที่มีขนาดกว้าง ขณะที่เทคโนโลยีประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้าอัตโนมัติ (Hands-free Auto Lift Gate) มีประโยชน์สำหรับการขนถ่ายสัมภาระในเมืองและอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการทำกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ หรือการเดินทางที่ต้องบรรทุกสัมภาระหรือกระเป๋าเดินทางมากมายเหมือนกับทริปนี้อีกด้วย
เมื่อออกจากมัณฑะเลย์ คาราวานทดสอบขับขี่กลุ่มที่สาม เดินทางไต่ขึ้นสู่เขตเทือกเขาสูงไปพร้อมกับเทอร์ร่า ใหม่ รถอเนกประสงค์อัจฉริยะแบบตัวถังบนแชสซี โดยมุ่งหน้าสู่ทะเลสาบอินเล ซึ่งรถรุ่นนี้มีการผสมผสานระหว่างเครื่องยนต์อันทรงพลังที่สุดในระดับเดียวกัน และห้องโดยสารแบบ 7 ที่นั่งที่มีพื้นที่กว้างขวาง รวมถึงเทคโนโลยีจากนิสสัน อินเทลลิเจนต์ โมบิลิตี อาทิ กล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitor) และระบบเตือนวัตถุเคลื่อนไหวรอบคัน (Moving Object Detection หรือ MOD) ช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นภาพรอบคันได้อย่างสมบูรณ์ในทุกมุมมอง จึงสามารถเคลื่อนตัวผ่านพื้นที่คับแคบจอแจได้ง่าย รวมถึงเทคโนโลยีกระจกมองหลังอัจฉริยะ (Intelligent Rear View Mirror หรือ IRVM) อีกด้วย
คุณสมบัติต่างๆ เหล่านี้มอบอรรถประโยชน์เมื่อขบวนขับขี่มุ่งหน้าผ่านเมืองตองจีและเมืองน้ำจ๋าง บนเส้นทางที่ผ่านหมู่บ้านของชนเผ่าปะหล่อง ซึ่งมีการขับขี่ที่ไต่ลงไปในหุบเขาที่คับแคบ โดยชาวบ้านจากหมู่บ้านปะหล่องมีการเพาะปลูกใบชาและต้นมะม่วงตามหุบเขา ก่อนจะลัดเลาะเลียบไปตามเส้นทางตีนเขาและไต่ขึ้นถนนที่มีความลาดชันมากอีกครั้งไปยังหมู่บ้านปะหล่องที่ตั้งอยู่บนยอดเขา ซึ่งเป็นหนึ่งในการขับขี่ช่วงสุดท้ายที่มีความคดเคี้ยวผ่านรัฐฉานทางภาคตะวันออกของประเทศที่ถือเป็นเส้นทางที่น่าประทับใจจากทิวทัศน์สองข้างทางอันงดงามตระการตา
ในช่วงสุดท้ายของการผจญภัย ผู้ร่วมกิจกรรมทุกคนต่างพูดคุยถึงการขับขี่และสมรรถนะของนาวารา แบล็ค เอดิชั่น ใหม่ เอ็กซ์เทรล ใหม่ และเทอร์ร่า ใหม่
ผู้ร่วมกิจกรรมบางคนมีความกังวลกับการขับขี่นาวารา แบล็ค เอดิชั่น ใหม่ บนเส้นทางที่พวกเขาไม่คุ้นเคย แต่เมื่อพวกเขาเสร็จสิ้นการขับช่วงแรก ทุกคนก็มีความเข้าใจในเทคโนโลยีจากนิสสัน อินเทลลิเจนต์ โมบิลิตี มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะความก้าวล้ำหน้าของระบบนำทางผ่านแอพพลิเคชันที่มีสามารถเห็นทางโค้งต่างๆ ช่วยให้พวกเขาเตรียมพร้อมล่วงหน้าและเห็นตรงกันว่าระบบนำทางช่วยเหลือในการขับขี่ได้มากโดยเฉพาะการเดินทางผ่านเข้าสู่ เมืองมะละแหม่ง เมืองพะโค และบนเทือกเขาที่ลาดชันเลียบแม่น้ำสาละวิน เป็นต้น
ขณะที่ นิสสัน เอ็กซ์เทรล ใหม่ ได้รับความเสียงชื่นชมจากผู้ร่วมกิจกรรมที่ได้รับความสะดวกสบายตลอดการเดินทางไม่ว่าจะขับขี่บนทางหลวงของเมืองพุกามหรือการขับสู่ทางลาดชันที่มีโค้งแคบๆ มุ่งหน้าสู่เมืองมัณฑะเลย์ และด้วยเทคโนโลยีจาก นิสสัน อินเทลลิเจนต์ โมบิลิตี ของเอ็กซ์เทรล ใหม่ อย่างระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ ที่ตรวจจับการเคลื่อนที่ของรถคันหน้าในขบวน และระบบช่วยลดความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ (Intelligent Engine Brake) ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างนุ่มนวลเพื่อลดความเร็วลงขณะเข้าโค้ง รวมถึงเร่งความเร็วเมื่อออกจากโค้ง
ผู้ร่วมกิจกรรมกลุ่มที่สาม ได้พบกับความตื่นเต้นเร้าใจจากการขับขี่ผ่านรัฐฉานที่แวดล้อมด้วยเทือกเขาและป่าทึบ พวกเขาเปิดเผยว่า ด้วยการออกแบบที่บึกบึนและแข็งแกร่งของเทอร์ร่า ใหม่ มาพร้อมระบบกันสะเทือนหลังแบบ 5 ลิงค์อันเป็นเอกลักษณ์ ให้ความสมบูรณ์แบบแก่การขับขี่ที่สมบุกสมบัน โดยเฉพาะการขับขึ้นสู่เส้นทางที่มีความลาดชันมุ่งหน้าสู่หมู่บ้านของชาวปะหล่อง โดยแต่ละคนชื่นชมกับอัตราเร่งของเทอร์ร่า ใหม่ บนถนนที่มีความเรียบอย่างถนนลาดยาง รวมถึงการเกาะถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพบนทางที่คดเคี้ยว รวมถึงความสามารถของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่ให้ความปลอดภัยสูงสุดไม่ว่าจะขับขี่บนพื้นผิวถนนแบบใดก็ตาม
ตลอดกิจกรรม ผู้ร่วมกิจกรรมได้รับประสบการณ์มากมายจากการขับขี่ไปยังสถานที่แปลกใหม่ของเมียนมาร์ในทริปการเดินทางสุดพิเศษครั้งนี้ ที่ทำให้การขับขี่บนท้องถนนต่างๆ และทางหลวง เต็มเปี่ยมไปด้วยความอบอุ่น เงียบสงบ สดชื่น และปราศจากความกังวล อันเกิดจากความเชื่อมั่นในเทคโนโลยีจาก นิสสัน อินเทลลิเจนต์ โมบิลิตี ที่ช่วยยกระดับของความสนุกสนาน ความสะดวกสบาย และความปลอดภัยให้แก่ผู้ร่วมกิจกรรมทุกคนตลอดการเดินทาง ซึ่งได้จำกัดนิยามของกิจกรรมภายใต้วิถีชีวิตที่สามารถ “ลุยได้ทุกที่” อย่างแท้จริง
นิสสัน เอ็กซ์เทรล ใหม่ ที่มี 2 ระบบขับเคลื่อนได้มีโอกาสแสดงสมรรถนะในรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 171 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 233 นิวตัน-เมตร และเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ไฮบริด ให้กำลังสูงสุด 144 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 200 นิวตัน-เมตร และมอเตอร์ไฟฟ้าที่เพิ่มกำลังสูงสุดอีก 41 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 160 นิวตัน-เมตร เพื่อการขับขี่ที่สนุกเร้าใจ ซึ่งทั้งสองเครื่องยนต์มีพละกำลังเหลือเฟือสำหรับการเดินทางสู่เมืองพุกามและหยุดพักกันที่ชุมชนที่แปรรูปอาหารและผลผลิตจากต้นตาล
นิสสัน นาวารา แบล็ค อิดิชั่น ใหม่ พละกำลังเครื่องยนต์ 163 แรงม้า และแรงบิดกว่า 403 นิวตัน-เมตร ของนาวารา สร้างความท้าทาย และส่งมอบประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ที่ดีที่สุดของรถกระบะในระดับเดียวกันและยังให้การประหยัดน้ำมัน รวมถึงการขับขี่ที่สะดวกสบายเมื่อขับบนถนนที่คดเคี้ยว สามารถผ่านทุกโค้งไปได้อย่างราบรื่น โดยในระหว่างการเดินทาง นาวารา แบล็ค อิดิชั่น ใหม่ ยังรับหน้าที่บรรทุกอุปกรณ์ที่จำเป็น และสัมภาระในการเดินทางต่างๆ
ระหว่างการเดินทางสื่อมวลชนได้ทดลองใช้เทคโนโลยี นิสสัน อินเทลลิเจนต์ โมบิลิตี และฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย และความสะดวกสบาย เช่น กล้องมองภาพรอบทิศทาง (Around View Monitor - AVM) ในรุ่น ดับเบิ้ลแค็บ คาลิเบอร์ เกียร์อัตโนมัติ 7 สปีดของนาวารา แบล็ค อิดิชั่น ใหม่ ที่ช่วยให้สามารถมองเห็นตัวรถนาวารา และสิ่งรอบข้างผ่านกล้องที่ถูกติดตั้ง 4 จุดรอบคัน ในขณะที่รุ่นคิง แค็บ ของเบล็ค อิดิชั่น ใหม่ มีกล้องมองหลัง (Rear-View Camera) คุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่โดดเด่นรวมถึงระบบเบรกป้องกันล้อล็อค (ABS) ถุงลมนิรภัย กุญแจรีโมท ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ จอแสดงผลแบบ Drive-Assist ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถติดตามความเร็วและแสดงอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันของการขับขี่ระยะไกล ในขณะที่ระบบปรับอากาศด้านหลังที่เป็นเอกลักษณ์ของนาวารา ได้มอบความสะดวกสบายทั่วห้องโดยสารในช่วงฤดูร้อน
นิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ เครื่องยนต์ดีเซล YS23DDTT ทวินเทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ DOHC ขนาด 2,298 ซีซี มาพร้อมหัวฉีดเชื้อเพลิงระบบไดเร็คอินเจคชัน ให้พละกำลังสูงสุด 190 แรงม้า และมีแรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ให้อัตราเร่งที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน ระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ 7 สปีด ที่มาพร้อมโหมดขับขี่แบบแมนนวล (M mode) ที่โดดเด่นด้านพละกำลัง จึงทำให้ขับเคลื่อนได้อย่างราบรื่นและทรงพลังเมื่อต้องการสามารถรับมือกับทุกความท้าทายด้วยสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม และมีการประหยัดน้ำมันเป็นเลิศ ระบบกันสะเทือนด้านหลังอันโดดเด่นแบบ 5 ลิงค์ (5-link) ยังช่วยลดอาการโคลงตัวของรถ หรือ body rolling มอบการขับขี่ที่สะดวกสบายและราบรื่นผ่านถนนขุขระเคี้ยวบนลาชันตลอดทั้งเส้นทาง
ความรู้สึกส่วนตัวกับการเดินทางในทริปนี้ เป็นครั้งแรกที่ได้มีโอกาสเปิดประการณ์ใหม่และเส้นทางใหม่ของเอประเทศเพื่อนบ้าน อย่างเช่น ประเทศเมียนมาร์ หรือ”พม่า” นั้นเอง เส้นทางทาง จ.กาญจนบุรี อำเภอบ้านเก่า สิ้นสุดเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างไทย-พม่าที่บ้านน้ำพุร้อน ซึ่งค่ายรถยนต์ที่ทำอุตสาหกรรมผลิตในไทยเพื่อการส่งออกไปขายยังทั่วโลกนั้น ยังไม่มีค่ายใดเตยได้สัมผัสเส้นทางนี้ การเดินทางสู่เมืองทวาย พม่า อดีตไม่ใช่เรื่องที่ง่ายแต่ปัจจุบันก็ยังไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนกัน ระยะทาง 165 กม.กว่าๆ ในระยะทางดังกล่าวนั้นส่วนใหญ่จะเป็นทางฝุ่นบวกด้วยหินก้อนเล็กก้อนใหญ่ปะปนกันไประยะกว่า 90 กม.ที่เช่นนี้ การเดินทางค่อนข้างจะลำบากใช้เวลานาน กว่า 6 ชั่วโมงกว่าจะผ่านไปได้ รถยนต์ที่ใช้สัญจรในเส้นทางนี้ส่วนมากจะเป็นรถกระบะเพียงเท่านั้น “ถ้าเป็นรถที่ไม่ใช่กระบะจอดพังทุกราย” คำว่า “ระเบียงเศรษฐกิจใหม่ทวาย”คงต้องใช้เวลามากกว่า 10 ปี แน่นอนครับ
บริษัท นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เป็นผู้ผลิตรถยนต์ในบ้านเรารายแรกที่สามารถจัดกิจกรรมการเดินทางเส้นทางใหม่ๆ โดยใช้เส้นทางการค้า“ระเบียงเศรษฐกิจใหม่ทวาย” กรุงเทพฯ-กาญจนบุรี-เมียนม่าร์”พม่า”ซึ่งทั้ง 2 ช้าง จะขนาบไปด้วยป่าเขา-ลำน้ำ-เทือกเขาตะนาวศรี ที่ถอดยาวตลอดเส้นทาง ไม่มีชุมชนบ้านเรือนเลย ตลอดระยะทางกว่า 90 กม. แต่ถึงจะมีก็สามารถนับหลังคาเรือนได้เลยครับ เป็นความโชคดีของผมในช่วงวันแรกของการเดินทางผมได้สัมผัสกับรถกระบะสายพันธ์แกร่งอย่าง นิสสัน นาวารา แบล็ค อิดิชั่น ใหม่ พร้อมด้วยสัมภาระเต็มกระบะท้าย ขอบอกเลยสามารถผ่านเส้นทางหฤโหดตามภาพประกอบได้อย่างสบาย