ทรงสร้างประโยชน์สุขสู่ปวงประชา เสกสรร สิทธาคม [email protected] อาชีวะอบรมครูสอนประวัติศาสตร์ชาติไทย สืบสานพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่ 10 (จบ) นายวณิชย์ อ่วมศรี รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(รองเลขาธิการกอศ.)บอกต่ออีกว่า จุดหมายหลังจากที่ครูผู้สอนประวัติศาสตร์ผ่านการอบรมไปแล้ว จะเริ่มนำความรู้ปลูกฝังในเยาวชนที่กำลังจะจบสั่งสมความสำนึกในการดำรงตนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเพื่อเป็นกำลังของชาติบ้านเมืองในอนาคตต่อไป แล้วก็จะได้นำเอาเนื้อหาไปเป็นตัวแบบที่จะทำเป็นเอกสารต่อไป วันนี้เราเริ่มต้นทำพื้นฐานครูให้รู้ไปในทิศทางเดียวกันเท่าๆกันไป เริ่มที่การเรียนรู้พระมหากรุณาธิคุณรัชกาลที่9 แล้วสืบสานต่อการเรียนรู้ซึมซับพระมหากรุณาธิคุณรัชกาลที่10 เริ่มกันที่ครูอาชีวศึกษาในภาคกลางนี้ก่อน “สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูรทรงให้ความสนพระราชหฤทัยด้านการศึกษามาตลอด ได้พระราชทานคุณูปการด้านการศึกษาไว้มากและพระราชทานแนวพระราชดำริไว้ว่าการศึกษาต้องมุ่งสร้างพื้นฐานให้แก่นักเรียนโดยมีทัศนคติที่ถูกต้อง มีพื้นฐานชีวิตคือการปลูกฝังอุปนิสัยให้มั่นคงแข็งแรงบนความดีงามคือความขยันหมั่นเพียร อดทน ได้พระราชทานพระบรมราโชวาทไว้ว่าต้องให้ความสำคัญแก่ประเทศชาติ ให้ความสำคัญกับสถาบันและให้เดินตามรอยพระราชปรารภรัชกาลที่9 โครงการอบรมพัฒนาครูสอนประวัติศาสตร์วัฒนธรรมประเพณีภูมิปัญญาไทยของสถานศึกษาสังกัดอาชีวศึกษา เพื่อเป็นการสืบสานพระราชปณิธานในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เพื่อปลูกฝังให้เยาวชนได้เห็นความสำคัญของประเทศชาติ ของสามสถาบันหลักคือชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์แล้วให้เดินตามพระราชปรารภของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชรัชกาลที่9 “ นายวณิชย์ อ่วมศรีรองเลขาธิการกอศ.ได้อัญเชิญ พระราโชวาทในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เมื่อครั้งยังทรงเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏ ณ อาคารใหม่ สวนอัมพร เมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๐ เพื่อเป็นตัวอย่างให้ครูสอนประวัติศาสตร์ในสถานศึกษาอาชีวะที่เข้าร่วมประชุมความตอนหนึ่งว่า "...ชาติไทยเรามีศิลปวัฒนธรรมครบถ้วนทุกสาขา สิ่งเหล่านี้เป็นสมบัติอันล้ำค่าที่บ่งบอกให้เห็นถึงความเจริญของชาติไทยและคนไทย ซึ่งบรรพชนของเราได้สร้างสมมาหลายชั่วอายุคน ผู้มีจิตสำนึกในความเป็นคนไทย จึงควรศึกษาให้เห็นซึ้งถึงคุณค่า และร่วมกันจรรโลงรักษาไว้เพื่ออนุชนรุ่นหลังจะได้มีสิ่งที่ควรแก่การภูมิใจในความเป็นชาติไทยและคนไทยตลอดไป..." พร้อมกันนี้ นายวณิชย์ อ่อมศรีบอกอีกว่าพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้พระราชทานพระบรมราโชวาทด้านการศึกษาไว้มากมาย เช่นพระบรมราโชวาทว่า “เรื่องครูมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่านักเรียน ปัญหาหนึ่งคือการขาดครูเพราะจำนวนไม่พอและครูย้ายบ่อย ดังนั้นก่อนคัดเลือกเด็กที่จะพัฒนาต้องพัฒนาครูก่อนให้พร้อมที่จะสอนเด็กให้ได้ผลตามที่ต้องการ จึงจะต้องคัดเลือกครูและพัฒนาครู ต้องตั้งฐานะในสังคมของครูให้เหมาะสมและปลูกจิตสำนึกโดยใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง วิธีการคือการให้ทุนอบรม กล่าวคือต้องมีความรู้ทางวิชาการในสาขาที่เหมาะสมที่จะสอน ต้องอบรมวิธีการสอนให้มีประสิทธิภาพ มีความเป็นครูที่แท้จริง คือมีความรักความเมตตาต่อเด็ก ควรเป็นครูท้องที่เพื่อจะได้มีความผูกพันและคิดที่จะพัฒนาท้องถิ่นที่เกิดของตน ไม่คิดย้ายไปย้ายมา”(พระบรมราโชวาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่9 พระราชทานเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2555) ด้านผู้มาบรรยายให้ความรู้ทางประวัติศาสตร์ชาติไทยและในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์สถาบันพระมหากษัตริย์นายหมวดเอกธาราณา คชเสนี วิทยากรพิเศษที่ปรึกษากองทุนการศึกษาในหลวงร.9กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตรัสเสมอว่าต้องมีชาติก่อนไม่เช่นนั้นไม่เช่นนั้นก็จะไม่มีอะไรอื่นเลย แม้แต่พอเพียงก็ไม่มี เรารอดมาได้เพราะประวัติศาสตร์ด้วย 3 สถาบันหลักคือชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ “ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรมต่อไปโลกอาจเจอสงครามอาหาร แต่ไทยต้องดำรงรักษาอาชีพหลักไว้ รักษาประวัติความเป็นมารากเง่าเอาไว้ ที่ผ่านมาเราอ่อนประวัติศาสตร์มาก เช่นถามเด็กเรื่องสมเด็จพระนเรศวรชนช้างจังหวัดไหน เชื่อเถอะส่วนใหญ่ตอบไม่ได้” นายหมวดเอกธาราณา คชเสนี บอกอีกว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทุกพระองค์ทรงปกครองแผ่นดินไม่เหมือนกัน แต่ที่ทรงมีเหมือนกันคือทรงรักษาอธิปไตยไว้ให้ลูกหลาน ทรงมั่นคงอยู่ในหลัก 5 ประการคือทรงเกิดมาเพื่อแผ่นดิน ทรงมั่นคงอยู่ในทศพิธราชธรรมสูง ทรงมีพระกตัญญูสูงมากต่อแผ่นดิน ทรงมีพระสติปัญญาเป็นเลิศและสุดท้ายคือหาในโลกไม่ได้ในหลวงทรงรักประชาชนดังลูกในอุทร คนไทยไม่ว่าจะเกิดในรัชกาลใดก็จะรักในหลวงของเขา “ไม่ต้องห่วงว่าในหลวงรัชกาลที่9เสด็จสวรรคต เพราะพระราชโอรสพระราชธิดาทุกพระองค์ ได้ร่วมทรงงานกับพระองค์ท่านมาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ตราบจนทรงพระชราภาพ ซึ่งทุกพระองค์กระทั่งพระเจ้าหลานเธอทุกพระองค์ทรงงานแทนมาตลอด ฉะนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทางวางประเทศชาติกับประชาชนไว้ในพระหัตถ์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่10อย่างมั่นคง พระราชวงศ์จักรีพระสายโลหิตไม่ได้เปลี่ยนเลย พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชทรงเป็นหลานสมเด็จพระเอกาทศรถ ฉะนั้นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่10 คือสายพระโลหิตราชวงศ์สุโขทัยและสุวรรณภูมิรวมกัน นี่คือความยิ่งใหญ่แห่งประวัติศาสตร์พระราชวงศ์ไทย”นายหมวดเอกธาราณา คชเสนี ทิ้งท้าย