"ปภ."เผยน้ำท่วมใต้ ยังอ่วม 7จว.ยอดดับเป็น 45ราย ประสานจังหวัดเร่งฟื้นฟูพื้นที่เสียหายพร้อมเตือน 9 จว.ใต้รับมือฝนตกหนัก-เฝ้าระวังดินถล่ม 19 ม.ค.นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) เปิดเผยถึงสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ประจำวันที่ 19 ม.ค. ณ เวลา 07.00 น. ว่า ฝนที่ตกหนักตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.60 ถึงปัจจุบัน ส่งผลให้เกิดอุทกภัย วาตภัย น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ภาคใต้และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยมีจังหวัดได้รับผลกระทบ 12 จังหวัด รวม 122 อำเภอ 755 ตำบล 5,812 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 549,333 ครัวเรือน 1,681,195 คน ผู้เสียชีวิต 45 ราย สถานที่ราชการเสียหาย 24 แห่ง ถนน 2,267 จุด คอสะพาน 207 แห่ง ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 5 จังหวัด ได้แก่ ยะลา ระนอง นราธิวาส ปัตตานี และกระบี่ ยังคงมีสถานการณ์ใน 7 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี พัทลุง ประจวบคีรีขันธ์ ตรัง สงขลา และชุมพร รวม 37 อำเภอ 174 ตำบล 1,140 หมู่บ้าน โดยภาพรวมสถานการณ์ในปัจจุบันระดับน้ำลดลงทุกจังหวัดแล้ว ทั้งนี้ ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องระดมสรรพกำลังและทรัพยากรปฏิบัติการฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว พร้อมเร่งสำรวจความเสียหายเพื่อเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูเยียวยาผู้ประสบภัย นายฉัตรชัย กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม จากการติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนอีกระลอกจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนตั้งแต่วันที่ 19 ม.ค.60 ทำให้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้ภาคใต้มีฝนตกต่อเนื่อง ฝนตกหนักและหนักมากบางแห่งในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ตรัง และสตูล กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจึงได้ประสาน 9 จังหวัดเสี่ยงภัยและศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 11 สุราษฎร์ธานี และเขต 12 สงขลา จัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด เฝ้าระวังสถานการณ์ฝนตกหนักและฝนตกสะสมที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่มในพื้นที่เสี่ยงภัย พร้อมจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว วัสดุอุปกรณ์ และเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยประจำจุดเสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที