ทูตสหราชอาณาจักร เข้าพบ “นายกฯ” โอกาสรับตำแหน่งใหม่ ย้ำเข้าใจสถานการณ์การเมืองไทย เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 19 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายไบรอัน จอห์น เดวิดสัน เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีที่ได้พบกับ ออท. สหราชอาณาจักร เป็นโอกาสอันดีที่จะเดินหน้าความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศต่อไปในอนาคต และแสดงความขอบคุณที่สหราชอาณาจักรแสดงความเสียใจต่อการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทั้งนี้ ออท. สหราชอาณาจักร ย้ำความสัมพันธ์อันยาวนานระหว่างไทย-สหราชอาณาจักร และมีความสัมพันธ์อันดีในทุกระดับตั้งแต่ราชวงศ์ ไปจนถึงประชาชน การรับตำแหน่งครั้งนี้มุ่งหวังที่จะกระชับความสัมพันธ์และแสวงหาโอกาสความร่วมมือใหม่ๆ ระหว่างกัน พล.ท.วีรชน กล่าวต่อว่า ด้านสถานการณ์ทางการเมือง นายกรัฐมนตรีทราบว่าสหราชอาณาจักรมีความห่วงใยต่อสถานการณ์ทางการเมืองไทย อย่างไรก็ดีไทยกำลังเดินหน้าสู่ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อยากให้สหราชอาณาจักรสนับสนุนกระบวนการพัฒนาประชาธิปไตยของไทยด้วย ซึ่งออท. สหราชอาณาจักร แสดงความเข้าใจถึงสถานการณ์ทางการเมืองไทย โดยเห็นถึงความตั้งใจจริงของรัฐบาลในการเดินหน้าตามโรดแมปเพื่อปฏิรูปด้านต่างๆ และวางรากฐานไปสู่การมีประชาธิปไตยที่ยั่งยืน พล.ท.วีรชน กล่าวว่า นายกรัฐมนตรียินดีที่ทราบว่านายอะล็อก ชาร์มา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ สหราชอาณาจักร จะเดินทางเยือนไทยสัปดาห์หน้า และหวังจะได้ต้อนรับนายชาร์มาอีกครั้งในการหารือเชิงยุทธศาสตร์ไทย-สหราชอาณาจักรครั้งที่ 3 ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศของไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นในปีนี้ เพื่อหารือถึงประเด็นความร่วมมือที่หลากหลายทั้งด้านเศรษฐกิจ การศึกษา ความมั่นคง เป็นต้น ซึ่งทั้งสองฝ่ายยินดีต่อความสำเร็จในการจัดการประชุมสภาผู้นำธุรกิจไทย-สหราชอาณาจักร (TUBLC) ครั้งแรก กลไกดังกล่าวเป็นตัวอย่างที่ดีของความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ซึ่งจะนำไปสู่ความร่วมมือด้านการค้า การลงทุนที่มีมากขึ้น รวมถึงการแก้ไขปัญหา อุปสรรคต่างๆ ร่วมกัน ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีหวังว่าจะเห็นการขับเคลื่อนความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม จึงขอฝาก ออท. สหราชอาณาจักรในการร่วมมือกันเพื่อให้เกิดผลโดยเร็ว พล.ท.วีรชน กล่าวอีกว่า ในด้านเศรษฐกิจ นายกรัฐมนตรีย้ำความสัมพันธ์ในฐานะหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างไทยกับสหราชอาณาจักร โดยเฉพาะในช่วงเปลี่ยนผ่านหลัง Brexit ทั้งนี้ออท. สหราชอาณาจักร ยินดีสนับสนุนให้นักธุรกิจสหราชอาณาจักรเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้นตามนโยบาย New S-curve และ Thailand 4.0 ในสาขาที่ไทยมีศักยภาพ อาทิ โครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ นวัตกรรม เทคโนโลยีดิจิทัล การบริหารทางการเงิน พลังงานแบบยั่งยืนและสาธารณสุข ในด้านการศึกษานายกรัฐมนตรีแสดงความขอบคุณที่ สหราชอาณาจักรให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความร่วมมือด้านการศึกษากับไทยเป็นอันดับต้นๆ โดยไทยประสงค์จะเห็นโรงเรียนและมหาวิทยาลัยของสหราชอาณาจักรเข้ามาเปิดกิจการในประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งออท.สหราชอาณาจักรเห็นว่าการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญ และยินดีที่สหราชอาณาจักรจะเป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมด้านภาษาอังกฤษ รวมถึงการถ่ายทอดความเชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยี การสื่อสารโทรคมนาคมซึ่งจะช่วยสนับสนุนโครงการพัฒนาเมืองอัจฉริยะของไทยด้วย