สรุปโครงการประกันภัยข้าวนาปีปีการผลิต59 หดจาก 27 ล้านไร่ เหลือ 22 ล้านไร่ เหตุมียอดคืนเบี้ยจากเกษตรกรที่ซื้อประกันไว้แล้ว แต่ไม่เพาะปลูกถึง 5 ล้านไร่ ทำเคลมเรโชพุ่งจาก 30% เป็น 40% ขณะที่ภาคใต้10กว่าจังหวัดน้ำท่วมคาดเสียหาย 2 แสน 2พันไร่ทั้งหมด แต่ภาคธุรกิจถือว่าจิ๊บจ๊อย โชคดีที่เหตุการณ์น้ำท่วมไม่ได้เกิดขึ้นอย่างงี้ที่อีสาน ไม่งั้นบ.ประกันอ่วมแน่ รายงานข่าว แจ้งว่า เมื่อวันที่ 19-20 มกราคม 2560 ที่ผ่านมา นายอานนท์ วังวสุ นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย ได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้บริหารโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2559 “Rice Insurance Focus Group #2” ร่วมกับ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กรมป้องกันและบรรทาสาธารณภัย และบริษัทประกันภัยร่วมทั้ง 16 บริษัท เพื่อสรุปผลการดำเนินงานโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2559 พร้อมกำหนดเป้าหมายและทิศทางการดำเนินงานร่วมกันในปีต่อไป โดยมีผู้บริหารของแต่หน่วยงานเข้าร่วมการประชุม ณ โรงแรม SO Sofitel Hua Hin จังหวัดเพชรบุรี โดยสรุปสาระสำคัญได้มีการแจ้งผลดำเนินงานที่ผ่านมา ทางภาคธุรกิจประกันภัยได้ร่วมกันรับประกันข้าวนาปีไปทั้งสิ้น 27 ล้านไร่ แต่อาจจะมีการคืนเบี้ยประกันให้กับเกษตรกรกลับคืนไปประมาณ 5 ล้านไร่ เนื่องจากไม่มีการเพาะปลูก แต่ได้จัดทำประกันภัยนาข้าวเอาไว้ จึงเหลือประมาณ 22 ล้านไร่ทั่วประเทศที่ทำประกันข้าวนาปี จากจุดนี้คาดการณ์ว่า จะทำให้ตัวเลขความเสียหายหรือเคลมเรโชที่เคยประมาณการณ์ตัวเลขไว้ว่าน่าจะเสียหายอยู่ที่ 20-30% พุ่งขึ้นไปเป็นถึง 40% ได้ จากยอดรวมรายได้จากเบี้ยประกันนาข้าวทั้งโครงการ 22 ล้านไร่ๆละ 100 บาท ก็จะเท่ากับ 2,200ล้านบาท ทั้งนี้ทางภาคธุรกิจได้พูดถึงความเสียหายของโครงการประกันข้าวนาปีใน 10 กว่าจังหวัดภาคใต้คาดการณ์ว่า น่าจะเสียหายถึง 100% โดยมีพื้นที่ทำประกันข้าวนาปีไว้จำนวนทั้งสิ้นอยู่ที่ประมาณ 202,000 ไร่ ซึ่งทางภาคธุรกิจอยากจะจ่ายค่าสินไหมโดยเร็ว ซึ่งก็พยายามประสานกรมส่งเสริมการเกษตรเพื่อให้มีการประเมินความเสียหายของข้าวนาปีของหลายพื้นที่ภาคใต้ที่เสียหายออกมาโดยเร็ว เพื่อจะได้เร่งจ่ายสินไหม โดยขณะนี้ภาคธุรกิจพร้อมที่จะโอนเงินจ่ายค่าสินไหมเข้าบัญชีเกษตรกรโดยเร็วอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมได้มีการสอบถามถึงปัญหาอุปสรรคในการดำเนินโครงการประกันนาข้าวที่ผ่านมา ปรากฎว่า ได้มีการพูดถึงเรื่องของแนวทางปฎิบัติ การบันทึกข้อมูลที่เป็นปัญหาขณะนี้กันมาก บางทีเกษตรกรชาวบ้านไปขึ้นทะเบียนแล้ว ลืมไปปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร จึงทำให้ทำผู้ที่ทำประกันนาข้าวไว้แล้วไม่ตรงกับขึ้นทะเบียนไว้ ซึ่งตรงจุดนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็คงจะรับไปแก้ไขต่อไป อนึ่งนับเป็นเรื่องโชคดีของภาคธุรกิจประกันภัยที่เสียหายกับโครงการประกันข้าวนาปีในพื้นที่ภาคใต้ครั้งนี้น้อย เนื่องจากในทุกจังหวัดภาคใต้มีเกษตรกรทำนาข้าวรวมๆกันแล้วเพียง 2 แสนไร่เศษ โดยส่วนใหญ่เกษตรกรจะปลูกไม้ยืนต้นและทำสวนยางเป็นพืชหลักเสียส่วนมาก หากจะทำนาข้าวบ้าง ก็เพียงเล็กน้อย 3-5ไร่โดยเฉลี่ยต่อราย จึงทำให้ค่าสินไหมจ่ายน้ำท่วมนาข้าวไม่มากนัก หากเทียบกับพื้นที่ภาคอีสานทำประกันข้าวนาปีมากที่สุด โดยทุกวันนี้พบว่า 10 จังหวัดภาคอีสานติดอันดับท๊อปเทนทำประกันข้าวนาปีมากที่สุด ซึ่งอันดับ 1แ ละ2 คือจังหวัดอุบลราชธานี รองลงมาคือจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งหากในทางกลับกันเหตุการณ์น้ำท่วมหลายจังหวัดภาคใต้ครั้งนี้ไปเกิดขึ้นที่ภาคอีสาน บริษัทประกันภัยคงจะจ่ายเคลมสินไหมมหาศาลทีเดียว