วันที่ 24 ม.ค.นายวินัย หมื่นสุวรรณ ผอ.สนง.เจ้าท่าภูมิภาค สาขาสตูล อยู่ระหว่างติดประชุมที่ จ.ภูเก็ต ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ประจำสำนักงาน ฯ เข้าสอบสวนปากคำกัปตันเรือ และเจ้าของเรือ จรัญ 3 ที่ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาสตูล เพื่อให้เกิดความกระจ่างในทุก ๆด้าน และตรงไปตรงมา หากพบความผิดให้มีการดำเนินคดีในทันที เพื่อหาทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยอีกครั้ง และเป็นการลงโทษหนักแก่ผู้ฝ่าฝืน หรือ ประมาท พร้อมทั้งหากพบการกระทำผิดให้มีการพักใบอนุญาตหากพบว่าเกิดจากความประมาท และริบใบอนุญาตหากมีการกระทำผิดซ้ำทันที ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการสอบสวน ด้านนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 18 คน และคนไทย 3 คนลูกเรือ หลังได้รับความช่วยเหลือจากชาวประมงที่ออกมาหาปลาใกล้จุดเกิดเหตุเรือระเบิด วันนี้มีนักท่องเที่ยวบางส่วนเลือกจะเดินทางกลับไปยังเกาะหลีเป๊ะ และบางส่วนรอให้มีการติดต่อกับสถานฑูต เพื่อทำหนังสือเดินทางกลับประเทศ ส่วนคนที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จากไฟลวก และเศษกระจกบาด เป็นชาวต่างชาติ 2 คน และคนไทย 1 คน ซึ่งเป็นช่างเครื่องภายในเรือ ได้ถูกนำตัวส่งรพ.สตูล เพื่อตรวจเช็คสุขภาพอย่างละเอียดอีกครั้ง เนื่องจากแรงอัดของเครื่องคอมเพรสเซ่อได้ระเบิดใส่ขณะทำการอัดอากาศลงถังให้นักดำน้ำ และ ขณะนี้ทางบริษัททัวร์นำเที่ยว ที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาด้วยได้อำนวยความสะดวกทั้งด้านที่พัก อาหาร ตลอดการพักอาศัย ส่วนการดำเนินคดียังอยู่ในขั้นตอนการสอบสวนทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ด้าน นายเจตกร หวันสู ประธานสภาการท่องเที่ยว องค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเกิดจาก ช่างเครื่องได้ทำการอัดลมใส่ถังแก๊สบรรจุออกซิเจน เพื่อใช้ระหว่างทางแล่นเรือ เกิดระเบิดขึ้น เหตุการณ์ดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่จะต้องตรวจสอบอีกครั้ง ว่า เกิดจากสาเหตุใด สำหรับนักท่องเที่ยวที่โดยสารมากับเรือลำดังกล่าว เป็นลักษณะการท่องเที่ยวแบบ Live On Board คือ ท่องเที่ยวและพักค้างแรมบนเรือ ซึ่งในพื้นที่จังหวัดสตูลก็มีเรือท่องเที่ยวประเภทนี้อยู่เป็นจำนวนมาก ในเบื้องต้นเหตุการณ์ลักษณะเช่นนี้ ภาครัฐจะดำเนินการอย่างรัดกุมในการให้บริการ การตรวจสอบมาตรฐานของเรือ การตรวจสอบใบอนุญาต และมาตรฐานของอุปกรณ์ เพื่อให้มีความพร้อมต่อการรองรับนักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น ซึ่งนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการดำน้ำส่วนใหญ่ จะเป็นนักท่องเที่ยวจากต่างชาติ ซึ่งในเรือลำดังกล่าวมีนักท่องเที่ยวเป็นชาวต่างชาติ 18 คน และบุคคลประจำเรือเอก 3 คน โดยนักท่องเที่ยวที่ประสบเหตุต่างเข้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็นอุบัติเหตุ เพียงแต่ทางภาครัฐคงจะต้องมีมาตรการในการป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น ต้องเฝ้าระวังและวางแผนให้ความช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที เหตุการณ์นี้อาจส่งมีผลกระทบในระยะเวลาสั้นๆ ในเบื้องต้นต้องให้ข้อเท็จจริง รายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ภาครัฐมีมาตรการเพื่อให้เกิดความปลอดภัยอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลที่ทุกส่วนถือปฏิบัติกันอยู่แล้ว โดยมีการบังคับใช้กฎหมาย การตรวจสภาพ ที่สำคัญคือ การสร้างจิตสำนึกให้กับผู้ประกอบการ โดยเหตุการณ์เช่นนี้ผู้ประกอบการต้องรับผิดชอบร่วมกัน จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากนี้คงต้องทำความเข้าใจกับทุกภาคส่วน สื่อสารกับนักท่องเที่ยว เพื่อสร้างความเชื่อมั่น แต่ในขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็จะเข้าใจสถานการณ์ของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเป็นอย่างดี เรือจรัญ 3 เป็นเรือนำนักท่องเที่ยวล่องไปเรื่อย ๆเพื่อดำน้ำชมปะการัง โดยระหว่างเกิดเหตุระเบิด ขณะแล่นเรือผ่านระหว่างเกาะราวี และเกาะรอก จ.ตรัง แรงระเบิดจากเครื่องคอมเพรสเซ่ออัดอากาศเข้าถังใช้สำหรับการดำน้ำ โดยเกิดจะควบคุมเพลิงไฟได้ลุกไหม้ทั่วบริเวณรอบเรือ ซึ่งเป็นเรือไม้ นักท่องเที่ยวและผู้ควบคุมเรือ จึงตัดสินใจกระโดนลงน้ำหนี ก่อนที่เพลิงไฟจะลุกไหม้จนเรือจมไปต่อหน้า ต่อตา นักท่องเที่ยวและลูกเรือทั้งหมด 21 คน (ไทย 3 สวีเดน 2 อังกฤษ 2 เยอรมัน2 รัสเซีย 2 อิตาลี 1 ฟินแลนด์ 4 บราซิล 4 สเปน 1) ต้องลอยคออยู่กลางทะเลนานร่วม ชั่วโมง กว่าเรือประมงที่แล่นผ่านมาจะช่วยเหลือเข้าไว้ได้ นับเป็นความโชคดีที่ทุกคนปลอดภัยจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ได้อย่างเกินความคาดหมายของหลายคน