เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 22 ก.ค.59 นางสาวปานทอง คชวงษ์ อายุ 25 ปี อดีตพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ดาราจากภาพยนต์เรื่อง เศียรสยอง และละครชิดคอม เป็นต่อ เดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมพร้อมนำหลักฐานเพิ่มเติมแก่พนักงานสอบสวน สภ.คูคต จ.ปทุมธานี หลังก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 10 กรกฏาคม 2559 ได้เข้าแจ้งว่าดำเนินคดีกรณีถูกอดีตแฟนหนุ่มนักบินสายการบินแห่งหนึ่ง เข้าก่อกวน คุกคามและทำร้ายร่างกาย ภายในร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ย่านคูคต จ.ปทุมธานี โดยมีพนักงานขายกาแฟและลูกค้าในร้านเห็นเหตุการณ์ขณะถูกทำร้าย จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปชี้จุดที่เกิดเหตุเพื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดและสอบสวนพยานในที่เกิดเหตุ
โดยนางสาวปานทองฯ ให้การว่า ตนเองได้คบหากับนักบินหนุ่มมาได้ระยะหนึ่งและได้พักอาศัยอยู่บ้านเดียวกัน เมื่อ 2 ปีก่อนได้ถูกนักบินคนดังกล่าวทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บเข้าโรงพยาบาล รักษาตัวในห้องไอซียู นานกว่า 1 สัปดาห์ ภายหลังที่ออกจากโรงพยาบาล ตนเองก็ได้พูดจาบอกกล่าวว่า จะขอเลิกและย้ายออกจากบ้านที่พักอาศัยอยู่ด้วยกัน ซึ่งครั้งนั้นตนเองได้มีการแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.คูคต ว่าห้ามมิให้มายุ่งเกี่ยวหรือติดต่อตนอีก เมื่อวันที่ 22 ก.ย. 2557 แต่ทางนักบินหนุ่มก็ยังตามรังควาน งอนง้อ ขอคืนดีให้กลับไปอยู่ด้วยกัน จนเมื่อปีที่แล้วตนเองได้แต่งงานและมีครอบครัว แต่ทางนักบินหนุ่มก็ยังไม่หยุดพฤติกรรมดังกล่าว
"กระทั่งเมื่อวันที่ 10 ก.ค.2559 ที่ผ่านมา ขณะที่ตนเองขับรถไปจอดและเดินลงไปซื้อกาแฟ บริเวณคลองสี่ ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี นักบินอดีตแแฟนได้เข้ามาฉุดกระชากตน แต่ตนเองพยายามขัดขืนและเข้าไปนั่งภายในรถ ก่อนที่จะปิดประตู แต่เขาได้ขวางไว้ทำให้ปิดไม่ได้ ตนจึงพยายามนำโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูป เมื่อเขาเห็นดังนั้น จึงยอมปล่อยให้ตนปิดประตู ก่อนที่จะขับรถออกไป หลังจากนี้ตนก็ไปแจ้งความไว้อีกครั้ง เป็นครั้งที่ 2 แล้ว ซึ่งคาดว่าน่าจะมีครั้งต่อไปอีก ตนจึงอยากจะขอความช่วยเหลือ เพราะรู้สึกว่าตนเองจะไม่ปลอดภัย
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนรายละเอียดเพิ่มเติมพร้อมทั้งจะได้ความยุติธรรม ตามข้อกำหนดของกฏหมายกับทั้งสองฝ่าย เบื้องต้นทราบว่ามีการทำร้ายร่างกายกันที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ย่านคูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ซึ่งได้ไปตรวจสอบเพื่อหาหลักฐานจากกล้องวงจรปิดและสอบสวนพยานซึ่งเป็นพนักงานที่ร้านกาแฟที่เกิดเหตุเพิ่มเติม ในการประกอบคดี อย่างไรก็ตามจะได้รวบรวมหลักฐานและจะได้ออกหมายเรียกตัวชายนักบินตามที่ผู้เสียหายแจ้งมาสอบสวนอย่างละเอียดเพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
โดยนางสาวปานทองฯ ให้การว่า ตนเองได้คบหากับนักบินหนุ่มมาได้ระยะหนึ่งและได้พักอาศัยอยู่บ้านเดียวกัน เมื่อ 2 ปีก่อนได้ถูกนักบินคนดังกล่าวทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บเข้าโรงพยาบาล รักษาตัวในห้องไอซียู นานกว่า 1 สัปดาห์ ภายหลังที่ออกจากโรงพยาบาล ตนเองก็ได้พูดจาบอกกล่าวว่า จะขอเลิกและย้ายออกจากบ้านที่พักอาศัยอยู่ด้วยกัน ซึ่งครั้งนั้นตนเองได้มีการแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.คูคต ว่าห้ามมิให้มายุ่งเกี่ยวหรือติดต่อตนอีก เมื่อวันที่ 22 ก.ย. 2557 แต่ทางนักบินหนุ่มก็ยังตามรังควาน งอนง้อ ขอคืนดีให้กลับไปอยู่ด้วยกัน จนเมื่อปีที่แล้วตนเองได้แต่งงานและมีครอบครัว แต่ทางนักบินหนุ่มก็ยังไม่หยุดพฤติกรรมดังกล่าว
"กระทั่งเมื่อวันที่ 10 ก.ค.2559 ที่ผ่านมา ขณะที่ตนเองขับรถไปจอดและเดินลงไปซื้อกาแฟ บริเวณคลองสี่ ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี นักบินอดีตแแฟนได้เข้ามาฉุดกระชากตน แต่ตนเองพยายามขัดขืนและเข้าไปนั่งภายในรถ ก่อนที่จะปิดประตู แต่เขาได้ขวางไว้ทำให้ปิดไม่ได้ ตนจึงพยายามนำโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูป เมื่อเขาเห็นดังนั้น จึงยอมปล่อยให้ตนปิดประตู ก่อนที่จะขับรถออกไป หลังจากนี้ตนก็ไปแจ้งความไว้อีกครั้ง เป็นครั้งที่ 2 แล้ว ซึ่งคาดว่าน่าจะมีครั้งต่อไปอีก ตนจึงอยากจะขอความช่วยเหลือ เพราะรู้สึกว่าตนเองจะไม่ปลอดภัย
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนรายละเอียดเพิ่มเติมพร้อมทั้งจะได้ความยุติธรรม ตามข้อกำหนดของกฏหมายกับทั้งสองฝ่าย เบื้องต้นทราบว่ามีการทำร้ายร่างกายกันที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ย่านคูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ซึ่งได้ไปตรวจสอบเพื่อหาหลักฐานจากกล้องวงจรปิดและสอบสวนพยานซึ่งเป็นพนักงานที่ร้านกาแฟที่เกิดเหตุเพิ่มเติม ในการประกอบคดี อย่างไรก็ตามจะได้รวบรวมหลักฐานและจะได้ออกหมายเรียกตัวชายนักบินตามที่ผู้เสียหายแจ้งมาสอบสวนอย่างละเอียดเพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป