เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.) พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ธนิศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการ ปปส. ร่วมกันแถลงผลการระดมปิดล้อมตรวจค้น 39 เป้าหมาย ตามแผนปฏิบัติการ"ชัยยะ สยบไพรี60/22 " เครือข่ายผ้าขาว และของกลางยาเสพติด ทรัพย์สินของมีค่าที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ นายณัฐพล หรือบอย นาคคำ และน.ส.อรันญา สิงห์ผงาด ก่อนที่ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา จะขยายผลจนจับกุมนายชัยวัฒน์ หรือแป๊ะ ชูสาย ได้ที่บ้านพักย่านจ.นนทบุรี ซึ่งรวมของกลางในเครือข่าวยาเสพติดดังกล่าวนั้น ได้เป็น เคตามีน หนัก 21.72 กก. ไอซ์ หนัก 5.97 กก. ยาบ้า จำนวน 1 เม็ด ยาอี จำนวน 2 เม็ด และทรัพย์สินที่จะต้องตรวจสอบตาม พ.ร.บ.มาตราการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 อาทิ สร้อยคอทองคำ หนัก 3 บาท จำนวน 1 เส้น ,สร้อยข้อมือ หนัก 1 บาท จำนวน 1 เส้น ,แหวนทองคำ หนัก 1 บาท จำนวน 1 วง ,สร้อยทอง หนัก 121.18 กรัม จำนวน 1 เส้น ,สร้อยข้อมือ หนัก 75.75 กรัม จำนวน 1 เส้น ,สร้อยทองคำ หนัก 7.59 กรัม จำนวน 1 เส้น ,เฟอร์นิเจอร์รวมเครื่องใช้ไฟฟ้า ,เงินใบบัญชีธนาคาร(ของน.ส.อรันญา สิงห์ผงาด) ,รถยนต์บีเอ็มดับบลิว หมายเลขทะเบียน ธต 5315 กทม. จำนวน 1 คัน ,รถยนต์ฟอจูเนอร์ จำนวน 1 คัน ,รถยนต์ตู้ยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน ฮง 1007 กทม. จำนวน 1 คัน ,รถจักรยานยนต์บิ๊กไบท์ จำนวน 2 คัน ,วัวพันธุ์ จำนวน 63 ตัว ,ม้า จำนวน 2 ตัว และทรัพย์สินอีกหลายรายการ รวมมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า จากกรณีเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านเเอเรีย 51 (Area51) ใต้อาคารธนดลแมนชั่น ภายในซอยอินทามาระ51 แขวงดินแดง เขตห้วยขวาง กทม. ซึ่งเป็นร้านของนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง สามีของแพท ณปภา ตันตระกูล นางเอกสาวชื่อดัง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบรถจักรยานยนต์ จำนวน 1 คัน และอาวุธปืน จำนวน 2 กระบอก พร้อมลูกกระสุนปืน และปลอกกระสุนปืน จำนวน 3 ปลอก ซึ่งจากการตรวจสอบเลขทะเบียนปืน ไม่มีรอยขีดข่วน หรือรอยแก้ไขตัวเลข โดยมีนายอัครกิตติ์เป็นผู้ครอบครอง เป็นมรดกตกทอดจากบิดา พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวนายนายณัฐพล หรือบอย นาคคำ ได้เมื่อวันที่1กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่านายบอยได้โอนเงินมาให้นายเบนซ์ และให้การซัดทอดว่านายเบนซ์เป็นผู้ดูและเงินและทรัพย์สินทั้งหมด แต่ยังไม่ถือว่านายเบนซ์เป็นกระทำความผิดแต่อย่างใด จึงอยากจะขอให้มาชี้แจงเกี่ยวกับทรัพย์สินที่ถือครองอยู่ภายใน 30 วัน หากพบว่าหลักฐานที่นายเบนซ์นำมามอบให้นั้น ไม่มีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายยาเสพติด ก็จะคืนทรัพย์ทั้งหมด จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่านายเบนซ์ได้ขับรถยนต์แลมโบกินี่ออกจากแมนชั่นไป เมื่อเวลา21.00น. ด้านนายศิรินทร์ยา กล่าวว่า จากการเข้าตรวจค้นครั้งนี้ สืบเนื่องจากนายบอยมีความเชื่อมโยงกับนายเบนซ์โดยมักจะนำเงินที่ได้จากค้ายาเสพติดมาซื้ออุปกรณ์แต่งรถ และซื้อรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่มีหลักฐานยืนยันว่าเบนซ์เกี่ยวข้องกับเครือข่ายของนายไซซะนะ หรือไม่ อยู่ระหว่างสืบสวนจากพยานหลักฐานต่างๆ ขณะที่ พล.ต.ท.สมหมาย กล่าวว่า สาเหตุที่นายเบนซ์ถูกเชื่อมโยงกับกลุ่มขบวนการดังกล่าวนั้น เป็นเพราะว่านายบอย ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมตัวเมื่อวานได้ให้การซัดทอดว่าทรัพย์สินบางอย่างที่ได้มาจากการกระทำความผิดนั้นถูกนำมาฝากไว้กับนายเบนซ์ ผู้เป็นเพื่อน ซึ่งทรัพย์สินนั้นคือ รถแลมโบกินี่ดังกล่าว โดยทุกครั้งที่นายไซซะนะเดินทางมาเที่ยวที่เมืองไทย นายบอยจะมาเอารถปลมโบกินี่ที่ฝากไว้กับนายเบนซ์ไปรับนายไซซะมะ และเมื่อไม่น้องใช้ก็จะนำมาฝากเช่นเดิม ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างนายบอยกับนายไซซะนะนั้น นายบอยเป็นผู้ลำเลียงยาให้นายไซซะนะ และเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดด้วยกัน ทั้งนี้นายบอยเคยถูกตำรวจยึดและอายัดทรัพย์สินไปเมื่อปี 2553 หลังพบว่านายบอยมีการถือครองทรัพย์สินที่เชื่อว่ามาจากการกระทำความผิด และร่ำรวยผิดปกติ ซึ่งล่าสุดที่นายบอยถูกจับกุมนั้น เป็นการจับกุมตามหมายจับเมื่อปี 2555 เพราะเป็นผู้ค้ายาเสพติดด้วย อย่างไรก็ตามขณะนี้ตำรวจมีข้อมูลเพียงว่านายเบนซ์ความเกี่ยวข้องกับนายไซซะนะและนายบอยทางด้านการถือครองทรัพย์สินแทนเท่านั้น ซึ่งต้องเชิญนายเบนซ์ให้ข้อมูล หากพบว่ารับดูแลทรัพย์สินแทนจริง ก็จะโดนข้อหาสมคบต่อไป พล.ต.ท.สมหมาย กล่าวอีกว่า จากการตรวจค้นแมนชั่นในซอยอินทมาระ 51 พบป้ายทะเบียนรถแลมโบกินี่, ปืน 2 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืนจำนวนหนึ่ง และเอกสารการครอบครองรถแลมโบกินี่ ที่มีการระบุชื่อของนายเบนซ์ว่าเป็นผู้ครอบครองรถแลมโบกินี ทะเบียน กจ 51 กรุงเทพมหานคร ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ารถดังกล่าวถูกโอนมาเป็นชื่อนายเบนซ์อย่างถูกกฎหมาย ทั้งที่แท้จริงแล้วป้ายทะเบียนที่สวมอยู่ของรถแลมโลกินีนั้น เป็นทะเบียน กจ 51 ซึ่งเป็นป้ายทะเบียนของรถโฟล์ค ที่จ.ลำพูน ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบ นอกจากนี้ตรวจสอบไม่พบว่านายเบนซ์ประกอบธุรกิจอื่น นอกจากร้านขายของแต่งรถดังกล่าว ทั้งนี้ยืนยันว่าตนยังไม่ได้รับรายงานว่านายเบนซ์ได้ติดต่อขอเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจที่บช.ปส.แต่อย่างใด ขณะนี้ในส่วนของนางเอกสาว ภรรยานายเบนซ์นั้น ตำรวจจะถามข้อมูลในฐานะพยานเท่านั้น เพราะยังไม่พบข้อมูลที่เชื่อมโนงกับการกระทำความผิด "นายเบนซ์ ยังอยู่ในประเทศไทยและอยู่ในกรุงเทพมหานคร และไม่ได้อยู่ไกลจากพื้นที่มากนักอยู่ห่าง ซึ่งในส่วนของแพทนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับนายเบนซ์ เนื่องจากเป็นสามี -ภรรยากัน ทั้งนี้ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ปส.ลาว ที่ให้ความร่วมมือกับปส.ไทยเป็นอย่างดี จนนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดได้ รวมถึงนายไซซะนะ ซึ่งเบื้องหลังเป็นพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ ไม่เฉพาะแต่เอเชียเท่านั้น แต่ลามไปถึงยุโรปและอังกฤษด้วย ในขณะที่เบื้องหน้าเป็นเพียงนายหน้าค้ารถหรูเท่านั้น และจากการสืบสวนเชิงลึกพบว่านายไซซะนะ เกี่ยวข้องกับดารา ไฮโซ และคนมีสี แต่ขอไม่เปิดเผยรายละเอียด"ผบช.ปส.กล่าว