จากกรณีนายรัติภูมิหรือเบิร์ด พิมใจใส อายุ 34 ปี เซลล์แมนหนุ่มหน้าตาดี หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา ต่อมา น.ส.นันทิยาหรือกิ๊ก สุวรรณวาสี ภรรยาและญาติๆ แจ้งความคนหายไว้ที่ สน.ธรรมศาลา เมื่อวันที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านมา จนกระทั่งเมื่อวานนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนทราบว่ามีชายคลุ้มคลั่งเข้ารักษาตัวที่รพ.ศิริราช ตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค. ก่อนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 30 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีลักษณะรูปพรรณคล้ายนายรัติภูมิ ที่หายตัวไป จึงเดินทางมาตรวจสอบ พบว่าเป็นนายรัติภูมิจริง ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 7 ก.พ.ที่คณะนิติเวชศาสตร์ รพ.ศิริราช พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. เดินทางพร้อมด้วย นายละเอียด พิมใจใส อายุ 65 ปี บิดาของนายรัติภูมิครอบครัว มาดูศพพร้อมทั้งยืนยันว่า ศพดังกล่าวเป็นของนายรัติภูมิจริง เพราะเพียงแค่เจ้าหน้าที่ยกแขนซ้ายออกจากผ้าคลุมศพ ทางน้องชายและพ่อของนายรัติภูมิก็รู้ทันทีว่าเป็นศพนายรัติภูมิจริง เพราะบริเวณหลังมือด้านซ้ายของนายรัติภูมิมีรอยสักรูปดาว
ต่อมาทางคณะแพทย์นำโดย ผศ.นพ.วิศิษฎ์ วามวานิชย์ ผอ.รพ.ศิริราช รศ.นพ.วิสูตร ฟองศิริไพบูลย์ หัวหน้างานภาควิชานิติเวชศาสตร์ ผศ.นพ.ปภาณุ สิทธิประสิทธิ อาจารย์ภาควิชานิติเวชศาสตร์ พร้อมด้วยผบช.น.และบิดานายรัติภูมิ ได้ร่วมกันแถลงถึงผลการชันสูตรศพนายรัติภูมิ
ด้านผศ.นพ.ปภาณุ กล่าวว่า ผลการชันสูตรพลิกศพชายนิรนามที่เข้ารับการรัษาที่รพ.ศิริราช เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.59 ที่ผ่านมา ปรากฎว่า ชายคนดังกล่าวคือ นายรัติภูมิ พิมใจใส ที่หายตัวไปอย่างแน่นอน จากการตรวจสอบตามร่างกายไม่พบร่องรอยหรือบาดแผลถูกทำร้าย แต่มีอาการแทรกซ้อนคือ สภาวะตับและไตล้มเหลว รวมทั้งอวัยวะในร่างกายเสื่อมสลาย ซึ่งจากการตรวจเลือด พบว่ามีสารเมทแอมเฟตามีนอยู่ด้วย อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้อวัยวะภายในร่างกายล้มเหลว โดยหลังจากนี้ ถ้าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจร้องขอ อยากทราบว่า นายรัติภูมิใช้ยาเสพติดมานานเพียงใด ทางแพทย์ก็จะทำการตรวจสอบอย่างละเอียด โดยการตรวจสอบจากเส้นผมไว้ สำหรับบาดแผลบริเวณศีรษะและท้ายทอย เป็นบาดแผลเล็กน้อย ไม่สามารถทำให้เสียชีวิตได้ ส่วนอาการคลุ้มคลั่ง ที่พบในกล้องวงจรปิด ก่อนที่จะนำตัวส่งโรงพยาบาลนั้น อาจจะเกิดจากฤทธิ์ของสารแอมเฟตามีน ซึ่งเกิดจากการเสพเองหรือถูกบังคับนั้น ทางแพทย์ไม่สามารถบอกได้ ตลอด 10 วันที่แพทย์ทำการรักษานั้น นายรัติภูมิไม่ได้สติ แพทย์จึงต้องรักษาตามอาการของนายรัติภูมิที่เป็นอยู่ขณะนั้น
ด้าน พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า ในส่วนของคดีที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สิน ที่มีการอ้างว่าผู้เสียชีวิตขโมยมา แต่ในทางคดีเมื่อผู้กระทำผิดเสียชีวิตลง คดีจะถูกยกฟ้อง แต่ทางตำรวจจะพิสูจน์ทราบให้ได้ข้อเท็จจริง เพื่อให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตต่อไป
ด้านนายละเอียด กล่าวภายหลังการทราบผลชันสูตรพลิกศพว่า ไม่ได้ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต และไม่ขอให้มีการชันสูตรพลิกศพเป็นครั้งที่สอง แต่ขอให้ตำรวจทำคดีอย่างตรงไปตรงมา และขอความเป็นธรรมกับครอบครัวด้วย ทางครอบครัวยังคงติดใจ และไม่คิดว่านายรัติภูมิจะเสพยาเกินขนาด จนเป็นเหตุให้คลุ้มคลั่งและช็อค จึงอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ช่วยตรวจสอบด้วย โดยหลังจากนี้จะนำศพนายรัติภูมิไปบำเพ็ญกุศลที่ วัดช่องลม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 7 ก.พ.ที่คณะนิติเวชศาสตร์ รพ.ศิริราช พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. เดินทางพร้อมด้วย นายละเอียด พิมใจใส อายุ 65 ปี บิดาของนายรัติภูมิครอบครัว มาดูศพพร้อมทั้งยืนยันว่า ศพดังกล่าวเป็นของนายรัติภูมิจริง เพราะเพียงแค่เจ้าหน้าที่ยกแขนซ้ายออกจากผ้าคลุมศพ ทางน้องชายและพ่อของนายรัติภูมิก็รู้ทันทีว่าเป็นศพนายรัติภูมิจริง เพราะบริเวณหลังมือด้านซ้ายของนายรัติภูมิมีรอยสักรูปดาว
ต่อมาทางคณะแพทย์นำโดย ผศ.นพ.วิศิษฎ์ วามวานิชย์ ผอ.รพ.ศิริราช รศ.นพ.วิสูตร ฟองศิริไพบูลย์ หัวหน้างานภาควิชานิติเวชศาสตร์ ผศ.นพ.ปภาณุ สิทธิประสิทธิ อาจารย์ภาควิชานิติเวชศาสตร์ พร้อมด้วยผบช.น.และบิดานายรัติภูมิ ได้ร่วมกันแถลงถึงผลการชันสูตรศพนายรัติภูมิ
ด้านผศ.นพ.ปภาณุ กล่าวว่า ผลการชันสูตรพลิกศพชายนิรนามที่เข้ารับการรัษาที่รพ.ศิริราช เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.59 ที่ผ่านมา ปรากฎว่า ชายคนดังกล่าวคือ นายรัติภูมิ พิมใจใส ที่หายตัวไปอย่างแน่นอน จากการตรวจสอบตามร่างกายไม่พบร่องรอยหรือบาดแผลถูกทำร้าย แต่มีอาการแทรกซ้อนคือ สภาวะตับและไตล้มเหลว รวมทั้งอวัยวะในร่างกายเสื่อมสลาย ซึ่งจากการตรวจเลือด พบว่ามีสารเมทแอมเฟตามีนอยู่ด้วย อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้อวัยวะภายในร่างกายล้มเหลว โดยหลังจากนี้ ถ้าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจร้องขอ อยากทราบว่า นายรัติภูมิใช้ยาเสพติดมานานเพียงใด ทางแพทย์ก็จะทำการตรวจสอบอย่างละเอียด โดยการตรวจสอบจากเส้นผมไว้ สำหรับบาดแผลบริเวณศีรษะและท้ายทอย เป็นบาดแผลเล็กน้อย ไม่สามารถทำให้เสียชีวิตได้ ส่วนอาการคลุ้มคลั่ง ที่พบในกล้องวงจรปิด ก่อนที่จะนำตัวส่งโรงพยาบาลนั้น อาจจะเกิดจากฤทธิ์ของสารแอมเฟตามีน ซึ่งเกิดจากการเสพเองหรือถูกบังคับนั้น ทางแพทย์ไม่สามารถบอกได้ ตลอด 10 วันที่แพทย์ทำการรักษานั้น นายรัติภูมิไม่ได้สติ แพทย์จึงต้องรักษาตามอาการของนายรัติภูมิที่เป็นอยู่ขณะนั้น
ด้าน พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า ในส่วนของคดีที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สิน ที่มีการอ้างว่าผู้เสียชีวิตขโมยมา แต่ในทางคดีเมื่อผู้กระทำผิดเสียชีวิตลง คดีจะถูกยกฟ้อง แต่ทางตำรวจจะพิสูจน์ทราบให้ได้ข้อเท็จจริง เพื่อให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตต่อไป
ด้านนายละเอียด กล่าวภายหลังการทราบผลชันสูตรพลิกศพว่า ไม่ได้ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต และไม่ขอให้มีการชันสูตรพลิกศพเป็นครั้งที่สอง แต่ขอให้ตำรวจทำคดีอย่างตรงไปตรงมา และขอความเป็นธรรมกับครอบครัวด้วย ทางครอบครัวยังคงติดใจ และไม่คิดว่านายรัติภูมิจะเสพยาเกินขนาด จนเป็นเหตุให้คลุ้มคลั่งและช็อค จึงอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ช่วยตรวจสอบด้วย โดยหลังจากนี้จะนำศพนายรัติภูมิไปบำเพ็ญกุศลที่ วัดช่องลม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี