ศุภลักษณ์ หัตถพนม นับเป็นอีกครั้งที่พสกนิกรไทยจะได้ร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงกอปรกิจนานับประการสร้างคุณูปการให้แก่ประเทศและพสกนิกรของพระองค์ ผ่านเรื่องราวอันทรงคุณค่าที่ รัฐบาล ได้นำมาร้อยเรียงใน นิทรรศการ "เย็นศิระ เพราะพระบริบาล" เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้เข้าชมได้ดำเนินตามรอยเบื้องพระยุคลบาท น้อมนำแนวทางตามพระราชดำริต่างๆ ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิต ทั้งต่อตนเองและประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืนต่อไป ภายในนิทรรศการแบ่งออกเป็น 5 โซน ได้แก่ โซนที่ 1 บุญของแผ่นดินไทย ประกอบด้วย 3 นิทรรศการบูรพกษัตริย์ผู้สร้างชาติไทยให้มั่นคง, นิทรรศการสืบสานตำนานราชวงศ์จักรี และนิทรรศการภาพพระเจ้าอยู่หัวในดวงใจ โซนที่ 2 พระราชาผู้ทรงธรรม (ทำ) ประกอบด้วย นิทรรศการในหลวงอย่าละทิ้งประชาชน, นิทรรศการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก, นิทรรศการพระผู้ทรงครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม ซึ่งเป็นการฉายภาพยนตร์พาโนราม่า เกี่ยวกับการทรงงานเพื่อพสกนิกรไทยนับตั้งแต่ ปี 2489 จวบจนปัจจุบัน ภายใต้แนวคิด "ความเข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา" อีกหนึ่งไฮไลต์ในโซนนี้คือ จัดแสดงเครื่องใช้ส่วนพระองค์ อุปกรณ์ทรงงาน รวมทั้งต้นแบบเครื่องสีข้าว ในโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา และนิทรรศการศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน โซนที่ 3 กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ ประกอบด้วย นิทรรศการสดุดีมหาราชา, นิทรรศการผู้ทรงเป็นมากกว่าแรงบันดาลใจ และ นิทรรศการส่งต่อความดีถึงพ่อบนฟ้า เชิญผู้เข้าชมร่วมให้คำมั่นสัญญา ด้วยการเขียนข้อความในการทำความดี โซน 4 พระมิ่งขวัญชาวไทย ประกอบด้วย นิทรรศการพระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินเทพยวรางกูร และปิดท้าย โซนที่ 5 ร้อยใจไทย ประกอบด้วย นิทรรศการ 89 ภาพพระราชกรณียกิจ และ นิทรรศการ 89 พระบรมราโชวาทและพระราชดำรัส ความพิเศษในส่วนนี้ผู้เข้าชมจะได้รับบัตรภาพพระราชกรณียกิจพร้อมพระราชดำรัสและพระบรมราโชวาทเป็นที่ระลึก เสมือนเป็นสิ่งย้ำเตือนในการสานต่อความดีและทำหน้าที่ในฐานะประชาชนชาวไทยสืบไป นิทรรศการ "เย็นศิระ เพราะพระบริบาล" เปิดให้ผู้สนใจเข้าชมตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือประชาชนที่รอถวายสักการะพระบรมศพ ตั้งแต่เวลา 08.00-20.00 น. และประชาชนทั่วไป วันละ 2 รอบ ตั้งแต่เวลา 12.00-13.00 น. และ 17.00-18.00 น. ณ บริเวณท้องสนามหลวง กรุงเทพมหานคร