ดีเอสไอพร้อมทหาร ตำรวจขึ้นเฮลิคอบเตอร์บินสำรวจโดยรอบวัดพระธรรมกายพร้อมให้พระภิกษุ สามเณรและประชาชน ออกนอกพื้นที่ภายใน 15.00 น. และตรวจใบสุทธิพระสงฆ์ทุกรูป
เมื่อเวลา 10.00.น.วันที่ 19 ก.พ.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่กองบังคับการตำรวจตะเวนชายแดนภาค 1 ตำบลคลองห้า อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ พร้อมด้วย พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.ภ.1 พล.ต.พัลลภ เฟื่องฟู ผบ.ปตอ.2 ได้มีการแถลงการณ์พนักงานเจ้าหน้าที่ตามคำสั่ง คสช.ที่ 5/2560 ฉบับที่ 1/2560
โดย พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดี ดีเอสไอ ได้กล่าวว่า ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้มีการสนธิกำลังกับหน่วยงานต่างๆเพื่อดำเนินการตรวจค้นวัดพระธรรมกายมูลนิธิธรรมกายและพื้นที่โดยรอบเพื่อติดตามจับกุมพระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย ตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ.60 ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันเป็นเวลาสามวันนั้น
แม้ในการปฏิบัติจะสามารถตรวจค้นเพื่อพิสูจน์ทราบอาคารสถานที่แต่ในการปฏิบัติยังคงมีบุคคลภายนอกเข้ามาปะปน ในบริเวณวัดมีการทำกิจกรรมต่างๆอย่างต่อเนื่องแต่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถดำเนินการได้โดยสะดวกเนื่องจากประชาชนที่อยู่ในบริเวณที่ตรวจค้น รอฟังคำสั่งการปฏิบัติจากพระภิกษุเป็นหลักรวมทั้งมีการสร้างกระแสข่าวว่าเจ้าหน้าที่ปิดกั้นไม่ให้บุคคลภายใน วัดออกนอกพื้นที่วัดและมูลนิธิธรรมกายโดยอ้างว่าเป็นคำสั่งของเจ้าหน้าที่และหากออกไปอาจจะถูกตรวจสอบและถูกดำเนินคดีทำให้ผู้สูงอายุและผู้ป่วยที่อยู่ในบริเวณดังกล่าว ไม่กล้าเดินทางออกไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษา จากพฤติการณ์ดังกล่าวจึงทำให้การปฎิบัติการตรวจค้นไม่สามารถปฏิบัติได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพทั้งที่อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษในฐานะผู้รับผิดชอบการปฏิบัติการตามคำสั่ง คสช.ที่ 5/2560 ได้ออกคำสั่งที่ 1/2560 เรื่องการปฎิบัติการในเขตพื้นที่ควบคุมตั้งแต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2560 ไว้แล้วดังนั้นเพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ในการตรวจค้นบริเวณพื้นที่ควบคุม เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสามารถคืนพื้นที่ได้อย่างรวดเร็วจึงมีแถลงการณ์ดังนี้
1.ให้พระภิกษุ สามเณรและประชาชนที่มิได้มีที่อยู่ในพื้นที่วัดพระธรรมกายมูนิธิธรรมกายออกจากพื้นที่ภายในเวลา 15.00 น. ของวันนี้โดยสามารถเดินทางออกได้ทุกประตูทางออกโดยจะมีการจัดเจ้าหน้าที่และยานพาหนะเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางออกนอกพื้นที่
2. ภายหลังระยะเวลาตามข้อ 1 ให้พระภิกษุสามเณรและประชาชนซึ่งมีที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าวมารายงานตัวต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ที่เต็นท์ที่พักบริเวณประตู 6 โดยเจ้าหน้าที่สำนักพระพุทธศาสนาจะเข้าตรวจสอบหนังสือสำคัญของพระภิกษุ(ใบสุทธิ)และพนักงานเจ้าหน้าที่ จะดำเนินการตรวจสอบบัตรประชาชนและดำเนินการลงทะเบียน
ทั้งนี้พนักงานเจ้าหน้าที่จะดำเนินการกวดขันการปฏิบัติตามคำสั่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่ 1/2560 เรื่องการปฎิบัติการในเขตพื้นที่ควบคุมตั้งแต่วันนี้ในเวลา 12.00.น. เป็นต้นไปโดยผู้ฝ่าฝืนจะมีความผิดตามคำสั่ง คสช.ฯ ระวังโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
จากนั้นต่อมาเวลา 10.30.น.ทางด้าน พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดี ดีเอสไอ พร้อมด้วย พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.ภ.1 พล.ต.พัลลภ เฟื่องฟู ผบ.ปตอ.2 ได้ขึ้นเฮลิคอบเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อบินสำรวจโดยรอบวัดพระธรรมกาย
แม้ในการปฏิบัติจะสามารถตรวจค้นเพื่อพิสูจน์ทราบอาคารสถานที่แต่ในการปฏิบัติยังคงมีบุคคลภายนอกเข้ามาปะปน ในบริเวณวัดมีการทำกิจกรรมต่างๆอย่างต่อเนื่องแต่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถดำเนินการได้โดยสะดวกเนื่องจากประชาชนที่อยู่ในบริเวณที่ตรวจค้น รอฟังคำสั่งการปฏิบัติจากพระภิกษุเป็นหลักรวมทั้งมีการสร้างกระแสข่าวว่าเจ้าหน้าที่ปิดกั้นไม่ให้บุคคลภายใน วัดออกนอกพื้นที่วัดและมูลนิธิธรรมกายโดยอ้างว่าเป็นคำสั่งของเจ้าหน้าที่และหากออกไปอาจจะถูกตรวจสอบและถูกดำเนินคดีทำให้ผู้สูงอายุและผู้ป่วยที่อยู่ในบริเวณดังกล่าว ไม่กล้าเดินทางออกไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษา จากพฤติการณ์ดังกล่าวจึงทำให้การปฎิบัติการตรวจค้นไม่สามารถปฏิบัติได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพทั้งที่อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษในฐานะผู้รับผิดชอบการปฏิบัติการตามคำสั่ง คสช.ที่ 5/2560 ได้ออกคำสั่งที่ 1/2560 เรื่องการปฎิบัติการในเขตพื้นที่ควบคุมตั้งแต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2560 ไว้แล้วดังนั้นเพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ในการตรวจค้นบริเวณพื้นที่ควบคุม เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสามารถคืนพื้นที่ได้อย่างรวดเร็วจึงมีแถลงการณ์ดังนี้
1.ให้พระภิกษุ สามเณรและประชาชนที่มิได้มีที่อยู่ในพื้นที่วัดพระธรรมกายมูนิธิธรรมกายออกจากพื้นที่ภายในเวลา 15.00 น. ของวันนี้โดยสามารถเดินทางออกได้ทุกประตูทางออกโดยจะมีการจัดเจ้าหน้าที่และยานพาหนะเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางออกนอกพื้นที่
2. ภายหลังระยะเวลาตามข้อ 1 ให้พระภิกษุสามเณรและประชาชนซึ่งมีที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าวมารายงานตัวต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ที่เต็นท์ที่พักบริเวณประตู 6 โดยเจ้าหน้าที่สำนักพระพุทธศาสนาจะเข้าตรวจสอบหนังสือสำคัญของพระภิกษุ(ใบสุทธิ)และพนักงานเจ้าหน้าที่ จะดำเนินการตรวจสอบบัตรประชาชนและดำเนินการลงทะเบียน
ทั้งนี้พนักงานเจ้าหน้าที่จะดำเนินการกวดขันการปฏิบัติตามคำสั่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่ 1/2560 เรื่องการปฎิบัติการในเขตพื้นที่ควบคุมตั้งแต่วันนี้ในเวลา 12.00.น. เป็นต้นไปโดยผู้ฝ่าฝืนจะมีความผิดตามคำสั่ง คสช.ฯ ระวังโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
จากนั้นต่อมาเวลา 10.30.น.ทางด้าน พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดี ดีเอสไอ พร้อมด้วย พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.ภ.1 พล.ต.พัลลภ เฟื่องฟู ผบ.ปตอ.2 ได้ขึ้นเฮลิคอบเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อบินสำรวจโดยรอบวัดพระธรรมกาย