ทรงสร้างประโยชน์สุขสู่ปวงประชา เสกสรร สิทธาคม [email protected] อ่างแม่ผาแหนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ(2) สำนักงาน รพช. ได้ดำเนินการสำรวจบริเวณที่จะก่อสร้างอ่างเก็บน้ำ พบว่า สภาพภูมิประเทศเป็นผาหินสูงชัน เป็นหินปูนและมีฐานรากเป็นหินทราย อันเป็นอุปสรรคที่สำคัญ จึงได้มีการศึกษาเพิ่มเติมจนมีความมั่นใจว่าสามารถก่อสร้างอ่างเก็บน้ำแห่งนี้ได้ ต่อมาเมื่อวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๓ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จฯไปทรงเยี่ยมโครงการหมู่บ้านสหกรณ์สันกำแพง และหมู่บ้านใกล้เคียง ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งเกี่ยวกับการจัดหาน้ำให้กับโครงการหมู่บ้านสหกรณ์สันกำแพงและหมู่บ้านใกล้เคียง โดยให้สำนักงาน รพช.พิจารณาดำเนินการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำแม่ผาแหนตามที่รพช.กราบบังคมทูลเสนอผลการสำรวจ เพื่อส่งน้ำให้แก่พื้นที่การเกษตรบ้านแม่ผาแหนและหมู่บ้านบริเวณใกล้เคียง ที่ระบบส่งน้ำจากอ่างเก็บน้ำชลประทานแม่เลาส่งไม่ถึง สำนักงาน รพช. ได้ดำเนินการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำแม่ผาแหนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ บริเวณหมู่ที่ ๖ ต.ออนใต้ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ เมื่อเดือนเมษายน ๒๕๒๔ แล้วเสร็จในเดือนกันยายน ๒๕๒๕ อ่างเก็บน้ำแม่ผาแหนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มีลักษณะเป็นเขื่อนดิน สันเขื่อนกว้าง ๘ เมตร สูง ๒๕ เมตร ยาว ๓๓๕ เมตร ความจุ ๓,๑๒๐,๐๐๐ ลูกบาศก์เมตร โดยมีปริมาณน้ำเฉลี่ย ทั้งปีไหลลงสู่อ่าง ๗.๑๕ ล้านลูกบาศก์เมตร ต่อมาได้ก่อสร้างระบบท่อและคลองส่งน้ำระบบเปิดรวม ๒ ฝั่ง คือฝั่งซ้ายเป็นท่อส่งน้ำขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ๐.๓๐ เมตร ยาว ๒,๐๐๐ เมตร และเป็นคลองส่งน้ำยาว ๓๒๕ เมตร ส่วนฝั่งขวาเป็นท่อส่งน้ำขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางขนาด ๐.๓๐ เมตร ยาว ๒,๖๐๐ เมตร เป็นคลองส่งน้ำยาว ๑๐๐ เมตร ในปีงบประมาณ ๒๕๓๐ ได้ก่อสร้างระบบส่งน้ำเพิ่มเติมแยกจากท่อฝั่งซ้าย เป็นท่อขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ๐.๒๐ เมตร ยาว ๑,๓๗๕ เมตรและเป็นคลองส่งน้ำปูคอนกรีตตัวไอ ๖๔๓ เมตร และมีการระบบท่อน้ำตลอดจนคลองส่งน้ำเพิ่มเติมจนมีความยาวรวม ๘,๒๔๐ เมตร เพื่อส่งน้ำให้แก่พื้นที่เพาะปลูกที่มีอาณาเขตกว้างขวาง อ่างเก็บน้ำแม่ผาแหนฯ ตั้งอยู่บริเวณพื้นที่หมู่บ้านแม่ผาแหน หมู่ที่ ๖ ต.ออนใต้ สภาพภูมิอากาศโดยทั่วไป มีลักษณะอากาศแบบมรสุมเขตร้อน โดยได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้และลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งทำให้ระหว่างเดือนพฤษภาคม – กันยายน จะมีฝนตกชุก และในระหว่างเดือนพฤศจิกายน – กุมภาพันธ์ จะมีอากาศหนาวเย็นและแห้งแล้ง เมื่อวันที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๓๔ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่9เสด็จฯไปทรงเยี่ยมราษฎรบริเวณวัดป่าตึงและทรงตรวจเยี่ยมการดำเนินงานตามโครงการพัฒนาพื้นที่ห้วยลานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ พระองค์ทรงมีพระราชดำริให้สำนักงาน รพช. พิจารณาสำรวจและก่อสร้างฝายหรืออ่างเล็ก ๆ เพื่อดักตะกอนของลำห้วยผาตั้ง ห้วยเลาและห้วยหลวง โดยเฉพาะลำห้วยหลวงซึ่งมีตะกอนทรายมาก เพื่อดักตะกอนไม่ให้ลงมาในอ่างเก็บน้ำผาแหนฯ เช่นเดียวกับที่ทำไว้ที่โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยลานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เนื่องจากราษฎรได้กราบบังคมทูลว่าปริมาณน้ำของอ่างเก็บน้ำแม่ผาแหนอันเนื่องมาจากพระราชดำริมีน้อย เพราะมีตะกอนทรายไหลลงมาในอ่างมาก และเมื่อตะกอนเต็ม ก็ให้ราษฎรช่วยกันขุดลอกนำตะกอนที่อุดมด้วยอินทรีย์สารนำไปใช้ในการเพาะปลูกได้ สำนักงาน รพช. จึงได้ก่อสร้างอ่างและฝายเพื่อทำการดักตะกอนบริเวณเหนืออ่างเก็บน้ำแม่ผาแหนอันเนื่องมาจากพระราชดำริจำนวน ๓ แห่ง คือ ๑.อ่างเก็บน้ำห้วยหลวงฯ ๒.ฝายห้วยผาตั้งฯ ๓.ฝายห้วยเลาฯ ประโยชน์ที่ราษฎรได้รับซึ่งมีจำนวนหมู่บ้านกว่า ๑๐ แห่ง มีมากมาย จากที่เมื่อก่อนหน้านั้นใช้น้ำจากลำน้ำธรรมชาติ โดยทำนาได้เพียงปีละครั้ง มีรายได้ทั้งสิ้นประมาณ ๔๕๐,๐๐๐ บาทต่อปีเท่านั้น พืชผักอย่างอื่นปลูกไม่ได้ เพราะมีน้ำไม่เพียงพอ แต่เมื่อสำนักงาน รพช. โดยศูนย์ปฏิบัติการ รพช.ลำปาง ได้ก่อสร้างอ่างเก็บน้ำแม่ผาแหนอันเนื่องมาจากพระราชดำริและก่อสร้างระบบส่งน้ำแล้ว ปรากฏว่าราษฎรกว่า ๔๐๐ ครัวเรือนสามารถได้รับประโยชน์จากอ่างเก็บน้ำแม่ผาแหนฯมาใช้ในการทำนาบนพื้นที่ ๖,๐๐๐ ไร่ (ในขณะนั้น) และปลูกพืชหลังการเก็บเกี่ยว ได้แก่ ยาสูบ ข้าวโพด ไม้ผลและไม้ประดับ ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น เฉลี่ยประมาณ ๑๙,๖๐๐,๐๐๐ บาทต่อปี(อ่านต่อ)