เวลา 18.45 น.วันที่ 19 ก พ 60 ชั้น 1 บก.ตชด.ภ.1 พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ รองโฆษกดีเอสไอ แถลงข่าวว่า ได้ออกแถลงการณ์ให้พระทั้ง 14 รูปเข้ามาพบ เนื่องจากเชิญมาพูดคุย และอยากให้ไปถ่ายทอดเจตนารมย์ ไปสื่อสารเรื่องการทำงานของเจ้าหน้าที่ให้เข้าใจ หากไม่มารายงานตัววันนี้จะให้โอกาสออกหมายเรียกอีกครั้งหนึ่ง ผลจากการใช้เฮลิคอปเตอร์บินตรวจจากมุมสูง พบยังคงมีมวลชนอยู่ภายในวัด และจะมีการตรวจสอบกรณีกำแพงภายในวัด ส่วนกรณีพระธรรมศักดิ์ พระลูกวัดพระธรรมกายออกมาเผยเส้นทางหลบหนี และกรณีอุบาศกโค้ก คนสนิทพระธัมมมชโยก็ยังไม่ได้รับรายงาน รวมทั้งทางสำนักพุทธศาสนา (พศ.)ได้แจ้งยอดตรวจสอบใบสุทธิพระวัดพระธรรมกายมาแล้ว ขณะนี้การปฏิบัติการเจ้าหน้าที่ยังไม่ยุติ ต้องมีการขอคืนพื้นที่ประตู 5 และ 6 คืน หากปล่อยไว้เกรงว่าเหตุการณ์จะบานปลาย วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายว่า เมื่อเวลา 16.30 น. น.ส.สุดารัตน์ แกล้วเกษตรกรณ์ เจ้าหน้าที่ส่วนช่วยบริหารอำนวยการและประชาสัมพันธ์ สำนักบริหารกลาง ดีเอสไอ ที่ถูกพระลูกวัดพระธรรมกายเหนี่ยวคอแย่งกล้อง เดินทางไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ สภ.คลองหลวง ไว้เป็นหลักฐาน ขณะที่เมื่อเวลา 17.00 น.ที่ บก.ตชด.ภ.1 พล.ต.ท.ชาญเทพ พ.ต.อ.ไพสิฐ และพล.ต.ต สมบัติ มิลินทจินดา รอง ผบช.ภ.1 ได้เรียกกำลังพลตำรวจจาก ภูธร จ.นนทบุรี 2 กองร้อย และภูธร จ.สมุทรปราการ 2 กองร้อย รวม 600 นาย เพื่อไปประจำจุดประตู 5 และ 6 พล.ต.ท.ชาญเทพ เผยว่า ทางนายกฯ ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ไม่ใช้อาวุธกับปฏิบัติการในครั้งนี้ พร้อมแบ่งส่วนปฏิบัติงานเป็นสองชุด ชุดละ 2 กองร้อย ตั้งแถวดันให้ศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย เข้าไปภายในประตู 5 และ 6 ของวัดพระธรรมกาย ส่วนบุคคลที่ไม่ประสงค์เข้าไปในพื้นที่เจ้าหน้าที่จะอนุญาตให้ออกจากพื้นที่ไปได้ พร้อมกังวลมือที่3 สร้างสถานการณ์ หลังได้รับรายงานว่าเจ้าหน้าที่จับลูกศิษย์วัดพระธรรมกาย พกปืนขนาด .22 มม.ได้รอบนอกวัด เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา และกำลังประสานพระ 14 รูปให้เข้ามอบตัว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้น พล.ต.ท.ชาญเทพ พ.ต.อ.ไพสิฐ และพล.ต.ต สมบัติ ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจพื้นที่วัดพระธรรมกาย โดยเฉพาะประตู 5 และ 6 ที่ถูกพระและกลุ่มศิษยานุศิษย์กว่า 1,000 คน ยึดพื้นที่โดยใช้เวลาในการบินสำรวจประมาณ 20 นาที ก่อนกลับมาที่ บก.ตชด.ภ.1 จากนั้น พ.ต.อ.ไพสิฐ ได้เดินไปพบ พระเทพรัตนสุธี เจ้าอาวาสวัดเขียนเขต ในฐานะเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ที่ลงมาจากชั้น 2 บก.ตชด.ภ.1 มาที่ประตูทางเข้าชั้น 1 ทั้งนี้ อธิบดีดีเอสได้ รายงานสถานการณ์ล่าสุดให้ พระเทพรัตนสุธี รายว่า ขณะมีการปลุกระดมมวลชนกลุ่มศิษยานุศิษย์วัดให้มารวมกันบริเวณประตู 5 และ 6 จำนวนมาก โดยมีพระเป็นแกนนำในการ ปลุกระดม ส่วนการเรียกพระธัมมชโย และพระลูกวัดอีก 13 รูปให้มาพบตามอำนาจ คสช.มาตรา 44 นั้น ได้ให้เจ้าหน้าที่ประกาศบริเวณประตู 5 และ 6 กับรอบๆวัดพระธรรมกายแล้ว ซึ่งเจ้าคณะจังหวัดปทุมได้แนะนำ พ.ต.อไพสิฐ ว่า ให้ออกหมายเรียกพระทั้ง 14 รูป เป็นเอกสารส่วไปที่วัดพระธรรมกาย หลังจากนั้นค่อยมาประชุมกันใหม่ที่ บก.ตชด.ภ. 1 เวลา 09.00 น.วันที่ 20 ก.พ.นี้ ด้าน พล.ต.ท.ชาญเทพ เผยว่า ได้รับรายงานเจออาวุธในรถตู้ ได้ยึดไว้และให้ตำรวจ สภ.คลองหลวง ดำเนอฝินการตรวจาอบต่อไป นอกจากนี้ช่วงบ่ายยังได้รับรายงานว่ามีกลุ่มลูกศิษย์วัด ใช้รถแบ็คโฮ และค้อนทุบกำแพงวัดช่วงระหว่างประตู 4 และ 5 เป็นรูโหว่ขนาดใหญ่ ก่อนนำมวลชนเข้าไปทางนั้น เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปได้ เพราะโดนมวลชนกดดันออกจากประตู 5 และ 6 นอกจากนี้มีรายงานว่า พ.ต.อ.ไพสิฐ ออกแถลงการณ์ หลังไลงนามคำสั่งพนักงานเจ้าหน้าที่ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 5/2560 เรื่อง ให้มารายงานตัวต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 5/2560 ฉบับลงวันที่ 15 ก.พ.2560 เรื่อง มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายบริเวณพื้นที่วัดพระธรรมกาย กำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตามคำสั่งดังกล่าวมีอำนาจควบคุมพื้นที่วัดพระธรรมกายและพื้นที่โดยรอบทั้งหมดนั้น อาศัยอำนาจตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 5/2560 ข้อ 3 (2) (3) และ (8) และ ข้อ 4 จึงมีคำสั่งเรียกให้บุคคลมารายงานตัวกับอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ณ กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน ภาค 1 เลขที่ 61 หมู่ที่ 6 ถนนเลียบคลองห้า ตำบลคลองห้า อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ในวันที่ 19 ก.พ.2560 เวลา 18.00 น. ดังนี้ 1.พระธัมมชโย หรือ พระเทพญาณมหามุนี (ไชยบูลย์ ธัมมชโย) 2.พระทัตตชีโว หรือ เผด็จ ทตตชีโว 3.พระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ 4.พระปลัดสุธรรม สุธัมโม หรือ พระวิเทศ ภาวนาจารย์ 5.พระครูถวัลศักดิ์ ยติสโก 6.พระครูใบฎีกา อำนวยศักดิ์ มุนิสโก 7.พระครูสังฆรักษ์ อนุรักษ์ โสตถิโก หรือ พระครูแอ 8.พระสนิทวงศ์ วุฑธวโส 9.พระมหานพพร ปุญญชโย 10.พระภาสุระ ทนตมโน (ใจวงศ์) 11.พระนพดล สิริวโส 12.พระมหาบุญชัย จารุทัตโต 13.พระครูสุวิทย์ สุวิชชาโภ และ 14.พระแสนพล เทพเทพา หรือ สืบเอก แสนพล เทพเทพา ในการนี้ขอให้ท่านนำเอกสารแสดงตน เช่น บัตรประจำตัวประชาชน หรือ หลักฐานอื่นๆ ที่ทางราชการออกให้ซึ่งสามารถระบุตัวตนของท่านได้มาใช้แสดงตนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ด้วย ผู้ใดขัดขวางหรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามคำสั่งนี้ มีระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ