เมื่อวันที่ 20 ก.พ.ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังการประชุมสำนักเลขาธิการ คสช. ที่มีพล.อ. พิสิทธิ์ สิทธิสาร รองเลขาธิการ คสช. เป็นประธานการประชุมโดยที่ประชุมได้รับทราบถึงความคืบหน้าในการปฏิบัติงานของส่วนต่างๆ อาทิ การสกัดกั้นการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติด ป่าไม้ เครื่องกระสุน การพนัน สินค้าหนีภาษี นอกจากนี้ยังได้ร่วมกันปรับปรุงและฟื้นฟูแหล่งน้ำตามโครงการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ รวมถึงการสร้างฝายชะลอน้ำ ในพื้นที่ภาคเหนือ โดย พล.อ.พิสิทธิ์ กล่าวต่อว่าในขณะนี้ยังคงให้ความสำคัญกับการสร้างสภาวะแวดล้อม ให้เกื้อกูลต่อการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลในทุกด้าน โดยเฉพาะเรื่องที่มีผลกับประชาชน ที่ปัจจุบันพบว่ายังคงมีประชาชนร้องเรียนถึงความเดือดร้อนในเรื่องต่างๆ อาทิ ทรัพยากรธรรมชาติ การพัฒนาคุณภาพชีวิต รวมถึงระบบเศรษฐกิจ รวมทั้งได้กำชับให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ดำรงความเข้มแข็งในการประสานงานและคลี่คลายข้อร้องเรียนอันเป็นความเดือดร้อนที่แท้จริงของประชาชนในระดับพื้นที่ให้ได้มากที่สุด เพื่อให้ความเดือดร้อนของประชาชนได้รับการแก้ไขโดยเร็วด้วยกลไกของภาครัฐ พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวต่อว่า พล.อ.พิสิทธิ์ กล่าวในที่ประชุมอีกว่า ในปัจจุบันรัฐบาลกำลังเร่งขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศภายใต้การทำงานของคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) คณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน (กขป.) และสำนักงานบริหารนโยบายของนายกรัฐมนตรี (PMDU) ซึ่งเป็นการ บูรณาการร่วมกันเพื่อบริหารราชการแผ่นดินอย่างเป็นระบบใน 36 ประเด็นหลัก ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสนับสนุนการทำงานภายใต้กรอบดังกล่าว รองเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้กำชับให้ทุกส่วน โดยเฉพาะกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยในระดับพื้นที่ ได้ติดตามข้อมูลข่าวสารและความคืบหน้าของการขับเคลื่อนงานแบบบูรณาการดังกล่าว ในขณะเดียวกันให้ใช้กลไกที่มีอยู่ดำเนินกิจกรรมที่สอดคล้องกับงานสร้างความสามัคคีปรองดอง คู่ขนานกับในระดับนโยบายอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้การประชุมในวันนี้ พล.อ.พิสิทธิ์ ได้ย้ำถึง การนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่หลากหลายในปัจจุยัน บางส่วนอาจจะไม่ตรงกับความเป็นจริง ซึ่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีความห่วงใยต่อเรื่องดังกล่าว จึงขอแจ้งเตือนให้ประชาชนได้ใช้วิจารณญาณอย่างรอบด้านในการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร ในขณะเดียวกันคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จะได้ใช้ทุกช่องทางในการนำเสนอข้อมูลที่เป็นจริงให้สังคมได้รับทราบ รวมทั้งการติดตามและป้องกันมิให้มีการนำเสนอข้อมูลที่บิดเบือน เพื่อให้การรับรู้ข้อมูลข่าวสารของสังคมเป็นไปอย่างถูกต้อง นำมาซึ่งความรักความสามัคคีและความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองต่อไป