บริษัทแอลเอ็มจีประกันภัยรอดหวิว เจ้าของต่อประกันรถชั้นหนึ่งไม่ทัน รถบรรทุกแบ็กโฮขับไม่พ้นและชนสะพานลอยหักทับรถเก๋ง 2 คันที่ขับตามหลังมาพังยับ ยันพร้อมรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมด เมื่อเวลา 11.00 น.ของวันนี้ ได้ เกิดเหตุอุบัติเหตุบริเวณกิโลเมตรที่ 50 ทล32 ขาขึ้นนครสวรรค์ ตรงข้ามปั๊มร่มไทร อ่างทอง โดยได้เกิดเหตุรถพ่วงบรรทุกแบ็คโฮ ชนราวสะพานสะพานลอย หักทับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล 2 คัน คน ส่งผลให้ขวางทุกช่องทางการจราจร เบื้องต้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน โดยรถบรรทุกพ่วงดังกล่าวเป็นรถยี่ห้อ ฮีโน่ หมายเลขทะเบียน 70-6374 สมุทรสาคร ซึ่งคนขับรถบรรทุกรถแบ็คโฮ ได้ขับรถขาขึ้นมาจากจังหวัดนครสวรรค์ เมื่อมาถึงสะพานลอยตรงข้ามปั๊มร่มไทร อ่างทอง ตัวแขนแบ๊คโฮที่บรรทุกมานั้นได้เกี่ยวกับสะพานลอยอย่างจัง จนเป็นเหตุให้ตัวสะพานร่วงหล่นมาทับ รถยนต์จำนวน 2 คัน ประกอบด้วย รถยนต์เก๋งยี่ห้อ โตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน กธ-1250 เชียงราย และ รถยนต์เก๋ง โตโยต้า สีบลอนด์ทอง หมายเลขทะเบียน ษท-7782 กทม. และทำให้มีผู้ได้รับบาดจ็บ 2 ราย โดยเบื้องต้นผู้บาดเจ็บได้ถูกนำส่ง โรงพยาบาลอ่างทองแล้ว โดยสาเหตุคาดว่า น่าจะเกิดจากรถบรรทุกแบ็คโฮ ตำแหน่งสูงเกินไป เป็นเหตุให้ในส่วนของแขนรถเกี่ยวกับพื้นสะพานลอย จนล่วงลงมาทับรถทั้งสองคันดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องทำการปิดการจราจร ถนนสายเอเชีย ทางหลัก ช่วงขาออก กทม. มุ่งหน้านครสวรรค์ และเร่งเคลียร์ รถ พร้อมสะพานลอยที่ได้รับความเสียหาย ใช้เวลาประมาณ 6 ช.ม. เป็นเหตุให้การจรจรเป็นอัมพาตยาวหลายกิโล กว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบข้อมูลประกันภัย พบว่า รถแบ๊คโฮดังกล่าวทำประกันภัยเพียงพรบ.ผู้ประสบภัยจากรถไว้เท่านั้น ส่วนรถเก๋งทั้งสองคันที่เสียหาย ทราบว่า หมายเลขทะเบียนกธ.1250 เชียงรายทำประกัน 2 พลัส และพรบ.ฯไว้กับบริษัทเทเวศประกันภัย ส่วนทะเบียน ษท7782 กทม.ทำประกันพรบ.ฯไว้กับบริษัทไทยประกันภัย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าได้ทำประกันรถภาคสมัครใจไว้กับบริษัทใดต่อไป ต่อเรื่องนี้นายทรงพล สุขสมบูรณ์ เจ้าของบริษัทบีเอ็มก่อสร้าง จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของรถแบ็คโฮดังกล่าว เปิดเผยว่า รถคันเกิดเหตุดังกล่าวเพิ่งจะต่อและประกอบเสร็จ เพิ่งจดทะเบียน และอยู่ระหว่างรอรับเลขทะเบียนจากการขนส่ง แต่ระหว่างนี้ได้นำมาใช้งานก่อน ซึ่งขอยืนยันว่ามีการจดทะเบียนรถถูกต้องทุกประการ ทั้งนี้ตนเองกำลังจะนำเข้าไปทำประกันรถชั้นหนึ่งพอดี แต่ดันมาเกิดเหตุเสียก่อน โดยบริษัทมีจำนวนรถแบ็คโอทั้งหมด 40 คนด้วยกัน โดยทั้ง 39 คันมีประกันรถชั้นหนี่งหมดทุกคัน ซึ่งทำประกันกลุ่มไว้กับบริษัทแอลเอ็มจีประกันภัย จำกัด(มหาชน) อย่างไรก็ตามตนเองพร้อมจะดูแลค่าเสียหายทั้งหมด โดยขอยืนยันว่าพร้อมจะรับผิดชอบ ไม่ได้หนีอย่างที่มีข่าวแต่อย่างใด โดยขณะเกิดเหตุตนเองและคนขับก็ยังอยู่ในที่เกิด แถมยังนำเอารถเครนมายกสะพานลอยที่ร่วงลงมาออกจากที่เกิดเหตุเลย พร้อมกับรถยนต์ที่เสียหาย ขณะเดียวกันยังได้เรียกรถพยาบาลส่วนตัวของตนเองมานำพาคนเจ็บส่งโรงพยาบาลเลย ซึ่งตนเองเป็นลูกผู้ชาย และมีจรรยาบรรณพอ โดยขณะนี้ได้มอบหมายให้ทนายของบริษัทเข้าไปดูแลช่วยเหลือเยียวยา ในเรื่องของความเสียหายที่เกิดขึ้นแล้ว