"เวลาทำอะไรในสิ่งที่เรารัก เราไม่ได้คิดว่ามันเป็นอาชีพ หรือการทำงานเลย เรามีความสุขที่ได้ทำ เตรียมข้อมูลมาบอกเล่าให้คนฟัง ได้หาข้อมูลเพิ่มเติม คิดมุกใหม่ๆ"
การบาลานซ์ความฝันของตนเอง ให้เดินไปพร้อมๆกันกับความฝันของครอบครัวนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับใครหลายคน แต่ “กิ๊บ”พิมพ์ชนก จิตชู ผู้ประกาศข่าวที่ทำหน้าที่รายงานพยากรณ์อากาศ ในช่วง “ลมฟ้าอากาศ” ข่าวภาคค่ำ ทางโมเดิร์นโนนท์ทีวี ดีกรีรองอันดับ 1 นางสาวไทยปี 2557 และรองอันดับ 4 เวทีระดับโลก Miss Tourism Queen International 2016 เธอเอาชนะทุกฝันได้อย่างไร “ID-Talk” พาคุณผู้อ่านไปย้อนเส้นทางสายนางงามและผู้ประกาศข่าวของเธอ ที่ฝันหนึ่งมันช่วยเติมเต็มอีกฝันให้งดงาม ๐ การเป็นนางงามใช่ความฝันของกิ๊บตั้งแต่เด็กเหมือนเด็กผู้หญิงทั่วไปหรือไม่ ตอนเด็กๆฝันอยากเป็นหลายอย่างมาก เมื่อก่อนอาชีพไม่ใด้หลากหลายเหมือนในปัจจุบัน วันหนึ่งเราก็อยากเป็นครู อีกวันอยากเป็นหมอ อยากเป็นทหาร พอเราโตขึ้นกิ๊บชอบภาษาอังกฤษ คุณพ่อคุณแม่พาไปเรียน และตอนม.5มีโอกาสสอบชิงทุนได้ไปเรียนต่อ 1 ปี ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา รัฐหลุยเซียน่า ตอนนั้นจึงคิดอยากเป็นแอร์โฮสเตท และผู้ประกาศข่าว เพราะกิ๊บชอบพูด เป็นเด็กกิจกรรม เคยเป็นตัวแทนโรงเรียนกล่าวสุนทรพจน์ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ ส่วนเรื่องนางงามนั้น ครอบครัวมีส่วนสำคัญในการผลักดันอยากให้เป็นนางงาม โดยเฉพาะเวทีนางสาวไทยนั้น คุณแม่จะให้กิ๊บดูการประกวดทุกปี ไม่ว่าจะดึกแค่ไหน ก็จะบอกเราว่าให้ดูแป๊บหนึ่งก็ยังดี ยังไม่รวมเวทีอื่น อย่างมิสยูยิเวิร์สก็จะให้เราดูด้วย และคุณแม่ก็จะคอยดูแลเรื่องความสวยความงาม ขัดขมิ้น อบขมิ้นตามประสาเด็กต่างจังหวัด และเริ่มต้นส่งประกวดเริ่มจากการเป็นตัวแทนหมู่บ้านประกวดนางนพมาสตามงานวัด ๐ เรื่องนางงามเป็นเรื่องที่ครอบครัวผลักดันแล้ว ตัวกิ๊บเองเมื่อเข้ามาอยู่ในเส้นทางนี้รู้สึกชอบไหม ความจริงไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ ยิ่งมีอยู่ครั้งหนึ่งไปถึงก็ตกรอบเพราะเรายังไม่พร้อม สู้คนอื่นไม่ได้ ทำให้เราท้อ แต่พอเราฝึกฝน ได้เรียนรู้มากขึ้น รู้แนว จากที่เคยเดินช้า ๆเพราะเราเป็นนางงามต่างจังหวัดมาก็ปรับปรุงการเดิน พอได้รับรางวัลก็ทำให้เรารู้สึกว่าเราอยากประกวดมากขึ้น ได้เงินมาสนับสนุนการเรียนไม่ต้องขอเงินพ่อกับแม่ แม้ตอนเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (ABAC) กิ๊บจะเป็นนักเรียนทุน ร้อยเปอร์เซ็นต์ของที่นี่ คือไม่ต้องจ่ายค่าเรียนเลย แต่ก็จะมีในส่วนของเงินบำรุงการศึกษา เราก็เก็บเงินตรงนี้ไปจ่ายและช่วยแบ่งเบาภาระของพ่อกับแม่ ๐ ตอนที่ตกรอบรู้สึกผิดหวัง เคยคิดเลิกประกวดไหม เคยคิดถอนตัว เราเคยประกวดแล้วได้รางวัลที่ 1 มาตลอดตั้งแต่ม.3 จำได้เลยตอนนั้นอยู่ม.6 เป็นเวทีแรกที่เราตกรอบแรก เป็นจุดพีคเลย เราบอกพ่อแม่ว่าเราไม่ประกวดแล้วนะ จากนั้นก็หยุดการประกวดไป2 ปีเต็ม อีกอย่างก็เน้นเรื่องเรียนด้วย เพราะเพิ่งเข้าเรียนมหาวิทยาลับปี1 ปี 2 จึงทุ่มเทให้กับการเรียนอย่างเต็มที่ กระทั่งคุณพ่อคุณแม่ขึ้นมาจากปราจีนบุรีมากรุงเทพฯ บอกจะพาไปกินข้าว แต่ปรากฎว่าเขาพาเราไปสถานพัฒนาบุคคลิกภาพแทน ด้วยความที่คุณแม่อยากให้เราพัฒนาตัวเอง แต่เราไม่ชอบ ไม่อยากไปแล้ว จึงเหมือนต้องแกล้งหลอกพอเราไป เป็นจุดที่ทำให้ได้เจอกับพี่เลี้ยงนางงาม เมื่อเจอพี่เลี้ยงตอนอยู่ ปี 3ก็เริ่มกลับมาประกวดอีกครั้งพอมีคนเทรนด์ คนสนับสนุนแนแนะแนวทางให้ ก็เริ่มมีความมั่นใจอีกครั้ง ๐ ตอนนั้นกลับมาประกวดอีกครั้ง เคยคิดมาก่อนไหมว่าเราจะมาไกลถึงรองอันดับ 1 นางสาวไทย ไม่เคยคิดมาก่อน ตอนนั้นคนมาสมัครเยอะมาก คิดแค่ว่าเข้ารอบ 24 คนสุดท้ายได้ไปเก็บตัวก็ดีใจมากแล้ว เพราะเราเห็นว่าคนอื่นสวยๆเยอะ มาจากสถาบันมีชื่อเสียง มีตำแหน่งดี พอได้เข้ารอบ 24 คนสุดท้ายจำได้ว่าโทรไปหาพ่อแล้วร้องไห้ ช่วงเก็บตัวก็กดดันมากเพราะเพื่อนๆทุกคนก็เก่ง แต่คิดในใจคิดว่าต้องทำให้ดีที่สุด ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต้องทำให้ดีที่สุด ผลที่ได้เป็นอย่างไรไม่สำคัญ คือมันทำดีที่สุดแล้ว ได้รางวัลมาก็ดีใจมากแล้ว ๐ จากนั้นก็ก้าวไปอีกถึงเวทีระดับโลกไปประกวด Miss Tourism Queen International 2016 ที่ประเทศจีน อันนี้เป็นอีกเวทีหนึ่งที่ภูมิใจมากๆ ทางต้นสังกัด ERM ไทยแลนด์ร่วมกับ บมจ.อสมท การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย คัดเลือกกิ๊บไปประกวดที่ประเทศจีน ภูมิใจที่ผู้ใหญ่ให้โอกาส เห็นความสามารถของเรา ที่เราได้ใช้ภาษาเรียนรู้มาทั้งชีวิตไปเก็บตัว ตอบคำถามเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เอาความเป็นไทย ความเป็นคนไทยไปพรีเซ็นต์ให้คนทั่วโลกรับรู้ คนจะมองคนไทยเป็นอย่างไร เป็นแบบไหนก็มาจากตัวเรา เพราะเราคาดสายสะพายไทยแลนด์ตลอดเวลา กลายเป็นความภูมิใจที่เราเอาความเป็นไทยไปให้ทั่วโลกรับรู้ ๐ จุดเด่นที่ทำให้เราเอาชนะใจกรรมการจนได้ตำแหน่งรองอันดับ4 น่าจะเป็นความเป็นตัวของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการแสดงความสามารถและการตอบคำถาม ตอนนั้นไป รำเซิ้งกระติ๊บภาคอีสาน ทางกรรมการบอกเลยว่า look funnyดูสนุก เพราะคนเอเชียส่วนใหญ่จะไปรำแบบช้าๆเนิบๆ แต่ของกิ๊บรำแบบสนุกสนาน มันมาก เพื่อนผู้เข้าประหวดก็ลุกขึ้นมาเต้น เพราะเราคิดว่าบางทีความเป็นนางาม คนมองว่าต้องเรียบร้อย ต้องเป๊ะ แต่เราเป็นตัวของตัวเอง และตอนที่อยู่กับเพื่อนนางงามเราก็มีน้ำใจ เอาขนมไทย น้ำพริก ไปแบ่งให้เขากินทำให้อาการจีนในมื้อนั้นๆมีรสชาติมากขึ้น และพยายามตอบคำถามให้เป็นตัวของตัวเองมากที่สุด ไม่ตอบเป็นแพทเทิร์นนางงามมากเกินไป แต่ตอบจากใจ จากความรู้สึก ๐ เติมเต็มความฝันให้คุณแม่ จริงๆคือเติมความฝันของทั้งครอบครัว ทั้ง คุณพ่อและพี่ชาย โดยเฉพาะคุณพ่อ กิ๊บจะสนิทกับคุณพ่อมาก และคุณพ่อเขาเป็นคนซ้อมเดินใส่รองเท้าส้นสูงให้กับกิ๊บ เขาอาจจะไม่ได้เดินเป็นตัวอย่างให้เราดู แต่จะคอยให้คำแนะนำว่าเดินอย่างนี้ดีแล้วนะ ต้องปรับปรุงอย่างไร และชอบเปิดคาราโอเกะเพลงนางามให้ฟัง ทุกคนในครอบครัวคอยสนับสนุนกิ๊บ ๐ ได้ทำความฝันของตัวเองให้เป็นจริง ในการก้าวเข้ามาเป็นผู้ประกาศข่าว ลมฟ้าอากาศ การทำงานก้าวเข้าปีที่ 2-3แล้ว รู้สึกภูมิใจที่ผู้ใหญ่ให้โอกาส มีพี่ที่พยากรณ์อากาศลาออกไป เราก็มาแคสต์แล้วผ่าน เป็นอาชีพที่ตรงกับสิ่งที่เราชอบพอดี เวลาทำอะไรในสิ่งที่เรารัก เราไม่ได้คิดว่ามันเป็นอาชีพ หรือการทำงานเลย เรามีความสุขที่ได้ทำ เตรียมข้อมูลมาบอกเล่าให้คนฟัง ได้หาข้อมูลเพิ่มเติม คิดมุกใหม่ๆ เพราะข่าวพยากรณ์อกาศเนื้อหาข่าวก็จะไม่ต่างกันมากในแต่ละวัน จะทำอย่างไร ให้ดูไม่น่าเบื่อ เช่นวันนี้จะล้างรถ ดีไหม จะตากผ้าได้หรือเปล่า เรามองว่า เป็นความท้าทาย ก่อนที่เราจะทำอะไรให้ประสบความสำเร็จ กว่าจะผ่านมาได้ มันคือความท้าทย ต้องใช้ความพยายาม ความมุ่งมั่น ถ้ามีความตังใจมุ่งมั่นก็จะสำเร็จ จะไม่มองว่าเป็นเรื่องยาก เพราะถ้ามองอย่างนั้น จะไม่มีจิตใจที่อยากจะทำ แต่ถ้าเรามองว่าเป็นความท้าทาย แล้วเราทำได้สำเร็จ ก็จะมีความภาคภูมิใจ ที่ทำได้ด้วยตัวเอง ๐ กับงานจัดรายการวิทยุ ช่วง“แชร์เล่าข่าวเด็ด”ทาง FM100.5 การจัดรายการวิทยุ ถือเป็นอะไรที่ใหม่มันต้องใช้ความสามารถและความรู้มาก เพราะต้องพูดตลอดเวลา ไม่เหมือน พยากรณ์อากาศมันมีสคริปต์ แต่วิทยุมีความยากมากกว่า แต่ก็เป็นตัวของตัวเองได้มากๆ เป็นอีกงานที่ชอบ ก็ทำมาปีครึ่งแล้ว เราต้องมีความรู้ในข่าวนั้น ๐ ส่วนตัวก่อนหน้านี้ชอบเสพข่าวมากน้อยแค่ไหน ไม่ใช่สไตล์ที่ต้องดูข่าวทุกวันแบบถึงกับต้องตื่นมาเช็กข่าว แต่จะตามข่าวในระดับหนึ่ง ที่เป็นกระแส หรือเรื่องที่เราสนใจ มาทำรายการแชร์เล่าข่าวเด็ด ตอนแรกยังไม่คุ้นกับข่าว ก่อนที่เราจะเข้ารายการสัก 2 ชั่วโมงโปรดิวเซอร์จะบอกหัวข้อข่าวมาให้ ทำให้เรามีเวลาเตียมตัวอ่านข่าวและหาข้อมูลเพิ่มเติม ดูคลิปวิดีโอเพิ่มเติมเพื่อจะได้เล่าให้คนฟังได้เข้าใจ โชคดีที่มีพี่โปรดิวเซอร์ และพาร์ทเนอร์ดี “จ๊ะโอ๋” เค้าเก่งมากอยู่แล้ว กลายเป็นเล่าข่าวให้มันสนุก ๐ มีแฟนคลับมากขึ้นหลายวงการ ตอนนี้เหมือนมีรู้จัก และติดตามมากขึ้นนอกจากวงการนางงาม ก็มีวงการข่าวๆ เวลาไปไหนคนคุ้นหน้า ก็จะมีมาถามว่าวันนี้อากาศเป็นอย่างไร ๐ ยังคิดที่จะเป็นแอร์โฮสเตสอยู่หรือไม่ คิดอยู่ค่ะ จริงๆ ตอนนี้มันก็มีหลายอย่างให้ทำ สำหรับแอร์ฯก็ยังชั่งใจอยู่ตอนนี้ เพราะมีงานที่ทำเพิ่ม คือการไปเป็นวิทยากรแนะนำเรื่องบุคลิกภาพให้กับคุณครูในสังกัด สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สพฐ. ทั่วประเทศ เป็นการให้คำแนะนำเรื่องการมีบุคคลภิภาพที่ดีต้องทำอย่างไร เพราะบางทีครูอาจจะมีหลักการสอนที่ต้องพัฒนาไปตามยุคสมัย เราอาจจะมีทริกในการแต่งตัว การดูแลตัวเอง และให้คำแนะนำ ว่าบุคคลิกภาพที่ดีจริงๆ ไม่ได้เกิดจากภายนอกเท่านั้น แต่มันมาจากภายใน มาจากความคิด ทัศนคติข้างในแสดงออกทางสีหน้า แววตา เพราะเราได้เคยได้เรียนกับกระทรวงวัฒนธรรม และเรียนการแสดงมา ก็เอาประสบการณ์ตรงนี้ไปบอกเลา เพิ่งทำมาได้ประมาณ 2-3 ครั้ง ไปในแต่ละจังหวัดทุกภาคของประเทศไทย ๐ เส้นทางของกิ๊บกว่าจะมีวันนี้ ก็ไม่ถือว่าง่ายเลย อยากให้ฝากข้อคิดสำหรับน้องๆที่จะเดินเข้ามาในเส้นทางสาย นางงามและผู้ประกาศข่าว จริงๆ ไม่ง่าย แต่ไม่ยาก เพราะอย่างแรก ที่ทุกคนต้องมี คือความมุ่งมั่น ตั้งใจ และก็กล้าที่จะทำ คือถ้าเราตั้งใจก็จะประสบความสำเร็จ แต่ถ้าไม่กล้าเปลี่ยนไม่กล้าลองมันจะไม่มีวันเกิดขึ้น และที่สำคัญ ถ้าปล่อยให้เวลาผ่านเลยจนอายุมากขึ้น อาจมีข้อจำกัดเรื่องอายุที่จะทำได้ อาจจะเสียดายโมเมนต์นั้นไปตลอดชีวิต และเราไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่นานแค่ไหน ต้องลงมือทำ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวเรา อดทน ขยัน สักวันมันจะเป็นของเรา เป็นกำลังใจให้ทุกคนเดินตามความฝันนะคะ เรื่อง: จินตนา จันทร์ไพบูลย์ ภาพ: พิมพ์ชนก จิตชู ข่าวที่เกี่ยวข้อง ID-TALK | หวานซ่อนแกร่ง "ฝน"ศนันธฉัตร ทำอะไรต้องทำให้สุด ID-TALK | เปลี่ยนร่าง ไม่เปลี่ยนใจ "สวย เดอะวอยซ์" อิสระทางดนตรี กับวิถีจิตอาสา ID-TALK | รู้จัก "พลอย" สิริอาภรณ์ นักกายภาพฯ สาวหน้าใส มีในหลวง ร.9 เป็นแรงบันดาลใจ ID-TALK | เต้นเปลี่ยนชีวิต "ฮั่น เดอะสตาร์" มีวันนี้เพราะเคารพตัวเอง