ตามนโยบายของรัฐบาล ภายใต้การนำของนาย เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีนโยบายเกี่ยวกับด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยว ด้วยการเน้นมาตรการดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว และมาตรการกระตุ้น การท่องเที่ยว เพื่อสร้างรายได้ให้ภาคประชาชน เพิ่มปริมาณนักท่องเที่ยวให้มาสู่ประเทศไทยมากขึ้น และปราบปรามการเอาเปรียบนักท่องเที่ยว ซึ่งการรักษาความปลอดภัยจะสร้างความมั่นใจ และความประทับใจกับนักท่องเที่ยวที่มีต่อประเทศไทยในระยะยาวประกอบกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีนโยบายขับเคลื่อนเร่งด่วน คือ มาตรการ 4 เน้นหนัก โดยเฉพาะด้านที่ 1 เน้นการดูแลความปลอดภัย ของนักท่องเที่ยว 
พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รักษาการผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 และ พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ ผู้บังคับการตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา ได้สั่งการให้สถานีตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา เป็นศูนย์กลางเครือข่ายความร่วมมือในการรักษา             ความปลอดภัย เสริมสร้างความเชื่อมั่น ให้กับการท่องเที่ยว เน้นความสง่างาม เป็นสากล  ​​​​​​​
พ.ต.อ.ภูริส จินตรานันท์ รักษาการผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา กล่าวถึง พิธีปล่อยแถวสายตรวจช้าง Elephant Patrol  ว่าได้รับแรงบันดาลใจมาจากการที่จังหวัพระนครศรีอยุธยา เคยเป็นเมืองหลวงของประเทศไทยมาก่อน แม้จะถูกพม่าเผาทำลายไปเป็นเวลานานหลายร้อยปีแล้ว แต่ยังคงมีความสวยงามทิ้งไว้ให้เป็นมรดกตกทอดของประเทศไทย ​​​​​​​ปัจจุบัน มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์เป็นที่โด่งดังไปทั่วโลก จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก จากองค์การ UNESCO ประกอบกับการที่เคยได้ไปศึกษาดูงานในต่างประเทศ เช่น ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งจะมีตำรวจม้า ตรวจตรารอบเมืองซิดนีย์, ประเทศจีน เจ้าหน้าที่ตำรวจแต่งกายด้วยเครื่องแบบโบราณ ซึ่งดูแล้วสง่างาม เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของประเทศนั้นๆ สร้างความประทับใจ และน่าจดจำ  ​​​​​​​
จึงทำให้มีแนวคิดว่า ประเทศไทย โดยเฉพาะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีอะไรที่เป็นเอกลักษณ์ควรค่าแก่การจดจำแก่นักท่องเที่ยว ซึ่งก็คือ “ช้าง” โดยเมื่อพูดถึงช้าง นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศต่างก็จะนึกถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้โดยทันที จึงมีความคิดที่จะจัดให้มี “สายตรวจช้าง” เพราะทันทีที่พบเห็น “สายตรวจ” ก็จะนึกถึงตำรวจ ซึ่งมีหน้าที่ในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม การดูแลความสงบเรียบร้อย และการอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว และนักท่องเที่ยวจะเกิดความปลอดภัย ทันทีที่เห็น “สายตรวจ” หรือตำรวจ ปรากฏตัวอยู่ในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ และทันทีที่เห็น “ช้าง” นักท่องเที่ยวก็จะนึกถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นลำดับแรก จึงเป็นที่มาของ “สายตรวจช้าง” นั่นเอง  ​​​​​​​
ซึ่งส่วนสำคัญที่ทำให้ “สายตรวจช้าง” เกิดขึ้นได้ ก็เพราะได้รับการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นายศักราช อัมวงษ์ กต.ตร.สภ.พระนครศรีอยุธยา และคณะ กต.ตร.สภ.พระนครศรีอยุธยา และนายลายทองเหรีญ มีพันธ์ เจ้าของปางช้างอยุธยาแลเพนียด และทีมงานปางช้างฯ ตลอดจน บริษัท เอชซี วีฮิเคิล โดยคุณอุษณีย์ เตพละกุล ที่ให้การสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า ยี่ห้อ BYD รุ่น seal ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% ตอบสนองนโยบายด้านพลังงานทดแทน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มอบให้สถานีตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา นำมาใช้ในการออกตรวจ เพื่อทดสอบสมรรถนะของรถ และศึกษาความเหมาะสมกับการนำมาใช้ในหน่วยงานราชการ ​​​​​​​

ขอขอบคุณประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมถึง สื่อมวลชนที่ให้การตอบรับ “สายตรวจช้าง” เป็นอย่างดี จนกระทั่ง ประสบความสำเร็จได้ในวันนี้