หลังการอำลาสโมสรของ “เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน” เมื่อฤดูกาล 2012/13 สิ้นสุดลง “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้พยายามตามหาสูตรสำเร็จ ที่ขาดหายไปอีกครั้ง ผ่านการแต่งตั้งกุนซือ ขึ้นชื่อลือชา จากทั่วยุโรปมารับตำแหน่งมากถึง 7 ราย
และหากใครเป็นแฟน “ปีศาจแดง” มายาวนาน โดยเฉพาะในยุคของ “เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน” ทรงบอลของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มันคือบอลบุกใส่คู่ต่อสู้ ไม่ใช่การตั้งรับสวนกลับ หรือเล่นรับต่ำ มันไม่ใช่สไตล์ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เลย
จนกระทั่งการเข้ามาของ “เอริค เทน ฮาก” ผู้จัดการทีมชาวดัตช์ ในฤดูกาล 2022/23 เข้ามายกระดับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สำหรับ “เทน ฮาก” ต้องบอกเลยว่า ทางบอลของเขาชัดเจนมาก เขาเป็นกุนซือที่ทำบอลบุกไปข้างหน้าอย่างเดียว ชนิดที่เรียกว่าหากนักเตะส่งบอลคืนหลังนี่แทบมีเคืองกันเลยทีเดียว และเป็นกุนซือที่ชอบให้ลูกทีมเล่นบอลเอนเตอร์เทนต์แฟนบอลด้วยการโหมเกมรุกใส่คู่ต่อสู้อย่างสุดมันส์
แต่แน่นอนว่า การเปลี่ยนแปลงต้องใช้เวลา และมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงอะไรก็ตาม เช่นกันกับการที่ “ เทน ฮาก”จะต้องเปลี่ยน “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชุดนี้ให้กลายเป็นทีมที่คู่ต่อสู้ต้องหวาดผวา ตามสไตล์ที่ “เทน ฮาก” ต้องการ
“เทน ฮาก” ตัดสินใจสร้างทีมโดยไม่ยึดถึงชื่อเสียงของนักเตะคนใดคนหนึ่ง แต่ปัญหาที่ “ปีศาจแดง” มักเกิดขึ้นเสมอ คือพวกเขาเก่งเมื่อเจอคู่แข่งที่บุกใส่ แต่ถ้าพวกเขาเจอคู่แข่งที่เล่นเกมรับใส่ พวกเขาจะ ไม่สามารถครอบครองบอลได้ตลอด และมักจะมีความผิดพลาด จนส่งผลให้โดนเล่นงานจากทีมเล็กอยู่เรื่อย ๆ
อย่างไรก็ตาม การเข้ามาทำทีมของ “เทน ฮาก” ที่ล่าสุด กลับกลายเป็นกุนซือ ที่ต้องมาอยู่ในโซนอันดับต้นๆ ของ พรีเมียร์ลีก ที่จะโดนปลด หลังสร้างผลงานเลวร้ายอย่างต่อเนื่องในเกมที่ “ผีแดง” แพ้ “แมนฯ ซิตี้” ชนิดสู้กันไม่ได้ 3-0 คารัง โอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
โดยมีสาเหตุจากซีซั่นนี้ “เทน ฮาก” พาทีมออกสตาร์ตได้อย่างเลวร้ายโดย “แมนฯ ยูไนเต็ด” แพ้ไปแล้วถึงห้านัดจากสิบนัดแรกของลีกเมืองผู้ดี ส่งผลให้ “แมนฯ ยูไนเต็ด” รั้งอันดับ 8 ของตารางลีกล่าสุด จากการเก็บได้ 15 แต้ม ตามหลัง จ่าฝูง “สเปอร์ส” 11 แต้ม
อย่างไรก็ตาม หากย้อนกลับไป “เทน ฮาก” เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นสมัยเป็นนายใหญ่ของ อาแจ็กซ์ ว่า “แม้สื่อบางเจ้าอาจคิดว่าพวกเขาทำได้ แต่ที่จริงแล้ว ผู้จัดการทีมไม่ใช่ผู้วิเศษ ที่สามารถเสกเวทมนต์ขึ้นมาได้” และแม้เจ้าตัวจะไม่มีเวทมนต์คาถาลับที่ช่วยให้ทีมแกร่งขึ้นได้ทันตาเห็น แต่การวางรากฐานที่ชัดเจน และการวางแนวคิดอันหนักแน่น ก็น่าทำให้ฟอร์มของ นักเตะพัฒนาขึ้นได้บ้าง