ตำรวจทางหลวงชี้แจงเหตุปะทะคารมณ์กับคนขับรถกระบะขนพริกที่ อ.รัตภูมิ ไม่ได้เจาะล้อทำให้ยางระเบิดแต่มาจากอุบัติเหตุ ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บปลอดภัยแล้วพร้อมทั้งตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องนี้หากพบปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบก็จะดำเนินการตามวินัย ส่วนคู่กรณีมีการปรับความเข้าใจกันแล้วและพอใจการช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่ไม่เอาความใดๆ จากกรณีที่เกิดเหตุปะทะอารมณ์กันขึ้นระหว่างคนขับรถกระบะขนพริกกับตำรวจทางหลวงประจำป้อมจุดตรวจพรุพ้อ ถนนสายเอเชีย อ.รัตภูมิ จ.สงขลา เมื่อช่วงก่อนเที่ยงของเมื่อวานนี้หลังจากถูกเรียกตรวจ และคนขับพร้อมเพื่อนที่มาด้วยกันมีท่าทีไม่พอใจเพราะต้องรีบทำเวลาเพื่อไปส่งพริกที่ อ.หาดใหญ่ให้ทันและสงสัยว่ามีความผิดอะไร เนื่องจากหากส่งไม่ทันจะทำให้พริกเสียหายซึ่งทั้งคันมีมูลค่า 4 แสนกว่าบาท แต่ระหว่างที่ตำรวจทางหลวงตรวจค้นและเรียกมาคุย ได้เกิดยางรถระเบิดขึ้นพร้อมกับตำรวจทางหลวงคนหนึ่งที่ไปตรวจรถได้รับบาดเจ็บและวิ่งมาขอความช่วยเหลือให้พาไปส่งโรงพยาบาล และมีการตั้งข้อสงสัยว่ายางรถถูกเจาะจนระเบิด และเหตุการณ์นี้คนขับรถกระบะมีการไลค์สดผ่านทางเฟสบุ๊คจนมีการนำไปแชร์ต่อกันจำนวนมากและวิจารณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่ ล่าสุดในวันนี้(3 ธ.ค.62 )ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงเหตุการณ์นี้ที่สถานีตำรวจทางหลวง 3 กองกำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ได้รับการชี้แจงจาก ร.ต.อ.ชัยรัตน์ หนูละออง ซึ่งทำหน้าที่ร้อยเวรในวันเกิดเหตุ โดยระบุว่าการเรียกตรวจค้นรถกระบะคันนี้เป็นการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจทางหลวงเพื่อตรวจสอบรถเป้าหมายที่อาจจะซุกซ่อนสิ่งผิดกฏหมายโดยเฉพาะยาเสพติดตามที่ได้รับรายงานและประสานข้อมูลจาก ปปส.ซึ่งจะใช้วิธีซุกซ่อนมากับรถขนสินค้า แต่การตรวจค้นอาจเสียเวลา ทำให้คนขับไม่พอใจและไม่เข้าใจการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่และเกิดการพูดตอบโต้กันขึ้น ซึ่งเหตุการณ์นี้ทางสถานีตำรวจทางหลวงทางหลวง 3 ได้มีการตั้งคณะกรรมสอบสวนข้อเท็จจริงเรื่องนี้แล้วเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ทั้งตำรวจคู่กรณีและตำรวจทางหลวงทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ขณะเกิดเหตุ ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่เกินกว่าเหตุหรือไม่ โดยเฉพาะเรื่องยางระเบิดซึ่งเป็นข้อสงสัยว่าถูกตำรวจเจาะหรือไม่ ซึ่งจากการสอบสวนในเบื้องต้นพบว่าตำรวจไม่ได้เจาะเป็นอุบัติเหตุยางระเบิดขณะที่ตำรวจทางหลวงนายนี้ก้มดูใต้ท้องรถพอดี ส่วนอาการของตำรวจทางหลวงนายนี้มีอาการแน่นหน้าอกและบาดเจ็บที่แขนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลและขณะนี้อาการปลอดภัยและออกจากโรงพยาบาลแล้ว ร.ต.อ.ชัยรัตน์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้ให้การช่วยเหลือรถกระบะขนพริกคันนี้อย่างดีที่สุด โดยใช้เวลาไม่เกิน10 นาทีก็นำยางอะไหล่มาเปลี่ยนยางให้และสามารถขับไปส่งพริกได้ทันเวลา และได้มีการไปพูดคุยกับเถ้าแก่เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงและเข้าใจตรงกันและพริกก็ไม่ได้เสียหาย หลังจากนั้นก็ได้เปลี่ยนยางใหม่ให้ 2 เส้นเป็นเงิน 8,700 บาท และพูดคุยทำความเข้าใจกับคนขับเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ จนเข้าใจและพอใจกันทั้งสองฝ่ายและเหตุการณ์จบลงด้วยดี ทางคนขับรถกระบะขนพริกเข้าใจในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่และพอใจการช่วยเหลือของตำรวจทางหลวงที่เป็นไปด้วยความรวดเร็วจนสามารถส่งพริกได้ทันเวลาไม่เสียหาย แต่ในส่วนของการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจทางหลวงในขณะเกิดเหตุตามที่ปรากฏในคลิปนั้นหากพบว่าผลการสอบสวนเรื่องมีความผิดก็จะดำเนินการทางวินัยโดยไม่ละเว้น อย่างไรก็ตามก็ตามในส่วนของคู่กรณีที่เป็นคนขับรถกระบะขนพริกผู้สื่อข่าวได้ติดต่อขอพูดคุยข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ก็บอกแต่เพียงว่าเรื่องนี้จบ