ปลัดมท.เรียกผวจ.-นายอำเภอ หารือด่วน ย้ำเข้มจุดไหน มท. สั่งกสรผวจ.เยี่ยมผู้บาดเจ็บเหตุระเบิด พร้อมให้กำลังใจกำลังพล จัดประสาน สธ. ยกเว้นค่ารักษาพยาบาลไทย-เทศ เล็งเข้ม สถานที่ราชการ กำชับจัดเวรยามเฝ้า หากขาดเวรถือบกพร่องหน้าที่ สั่งการบรรเทาสาธารภัย 12 เขต เตรียมเครื่องมือให้พร้อม ปัด ชี้เหตุเกิด ถามฝ่ายความมั่นคงโดยตรง เมื่อวันที่ 12 ส.ค. เวลา 14.00 น. ที่กระทรวงมหาดไทย นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนเป็นประธานเข้าประชุมคอนเฟอเร็นไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด ทั่วประเทศหลังเหตุความไม่สงบเกิดขึ้นต่อเนื่องล่าว ถึงกรณีที่เกิดเหตุความไม่สงบเรียบร้อยในย่านชุมชน แหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่จ.ภูเก็ต ตรัง และอ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมาว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณันี้ 4 จังหวัด 7 เหตุการณ์ เป็นเหตุการณ์ที่วางระเบิด 4 เหตุการณ์ นอกนั้นก็เป็นการวางเพลิง และขณะนี้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บตัวเลขอยู่ที่ 20 คน ส่วนใหญ่อยู่ที่อ.หัวหิน ซึ่งขณะนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดลงไปเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บ และทางกรมป้องกันสาธารณภัยก็จะประกาศเป็นสาธารณภัยตามระเบียบของกระทรวงมหาดไทย เพื่อจะได้มีเงินชดเชย เยียวยาช่วยเหลือ ขณะเดียวกันทางกระทรวงมหาดไทยได้ประสานกับกระทรวงสาธารณสุขแล้ว และจะมีการยกเว้นค่ารักษาพยาบาลทั้งผู้ที่ได้รับบาดเจ็บที่เป็นคนไทยและต่างชาติ โดยเรากำชับให้ตรวจเยี่ยมทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ และให้ผู้ว่าฯออกไปเยี่ยมให้กำลังใจกับกำลังพลของทางฝ่ายข้าราชการ พลเรือน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร รวมทั้งอาสาสมัครภาคประชาชน ซึ่งขณะนี้ทุกฝ่ายได้เข้ามาช่วยเหลือกัน ส่วนพื้นที่ที่เกิดเหตุเป็นแหล่งท่องเที่ยวและชุมชนมาตรการที่ทางกระทรวงมหาดไทย โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้สั่งการไปเมื่อคืนวันที่ 11 ส.ค. ว่าให้เพ็งเล็งไปที่สถานที่ท่องเที่ยว ย่านศูนย์การค้า ย่านชุมชน และในคืนนี้ก็ให้เพ็งเล็งไปที่สถานที่ราชการ ให้มีการกำชับเวรยามด้วย ให้เคร่งครัดและเข้มแข็ง ถ้าตรวจแล้วพบว่าเจ้าหน้าที่และผู้ที่รับผิดชอบเวรยามใดไม่มาเข้าเวรให้ถือเป็นโทษทางวินัย หรือบกพร่องต่อการปฏิบัติหน้าที่ทางราชการ และให้ผู้ว่าฯใช้อำนาจในฐานะประธานคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด สั่งการให้โรงเรียนในสังกัด และทุกอย่างที่อยู่ในจังหวัดดูแลสถานการศึกษา อย่าให้เกิดเกตุเพลิงไหม้ ฉะนั้นเครื่องมืออุปกรณ์ในการดับไฟนั้นขณะนี้เราได้ให้มีการตรวจสอบในเช้าวันนี้(12ส.ค.)แล้ว และสั่งการให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารภัยทั้ง 12 เขต เตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ไว้สนับสนุนในกรณีเจ้าหน้าที่หน่วยต่างๆร้องขอมาให้ทำงานกันอย่างบูรณาการและเป็นระบบ ผู้สื่อข่าวถามพื้นที่จุดเสี่ยงทางการข่าวเป็นอย่างไรบ้าง นายกฤษฎา กล่าวว่า อยากให้สอบถามจากเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงแต่เพียงจุดเดียว ส่วนบทบาทของกระทรวงมหาดไทยในตอนนี้เน้นบทบาทระหว่างการเกิดเหตุกับหลังเกิดเหตุ ในระหว่างการเกิดเหตุกระทรวงมหาดไทยมีหน้าที่สนับสนุนกำลังพล เครื่องมืออุปกรณ์ดูแลแก้ไขปัญกา หลังเกิดเหตุกระทรวงจะมีบทบาทไปเยียวยา เยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บ และสร้างขวัญกำลังใจกับเจ้าหน้าที่และประชาชน ซึ่งการแก้ไขปัญหาด้านภาวะวิกฤตประเทศไทยเราจะเป็นรูปแบบนี้ สิ่งหนึ่งอยากขอความร่วมมือประชาชนในการป้องกันรักษาบ้านเรือนเราจะใช้เจ้าหน้าที่มากขนาดไหนก็ตามจะไม่มีประสิทธิภาพถ้าประชาชนไม่ให้ความร่วมมือด้วย ฉะนั้นถ้าประชาชนพบเจอสิ่งต้องสงสัยให้แจ้งต่อเต้าหน้าที่ และเมื่อเกิดเหตุขึ้นมาแล้วให้ทุกคนรับฟังคำชี้แจงจากหน่วยราชการ อย่าได้เชื่อโซเซียลมีเดีย ในการโพสต์ภาพจุดเกิดเหตุ บางครั้งนำภาพจากเหตุการที่เกิดมาแล้วนำมาเผยแพร่ ก็จะทำให้ประชาชนตื่นตกใจ ซึ่งก็ไม่เป็นผลดีกับประเทศเรา นายกฤษฎา กล่าว. สำหรับในการประชุมนี้ที่ตนเรียกประชุมผู้ว่าฯและนายอำเภอนั้น เนื่องจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมกาดไทยต้องการให้ตนมาย้ำว่ามีจุดใดบ้างที่ผู้ว่าฯจะต้องเน้นย้ำ เตรียมมืออุปกรณ์ เตรียมผู้บัญชาการเหตุการณ์เมื่อเหตุเกิดขึ้น เช่นถ้าเหตุเกิด 3จุดก็จะมอบหมายให้นายอำเภอ เกิด 5จุด มอบหมายให้ฝ่ายตำรวจ ถ้าเกินกว่า 5 จุด ทางผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดและผู้ว่าฯต้องลงมาบัญชาการและควบคุมสถานการ์ด้วยตัวเอง ผู้สื่อข่าวถามสาเกตุที่เกิดน่าจะมาจากเหตุใด นายกฤษฎา กล่าวว่า ขอให้สอบถามจากทางหน่วยงานความมั่นคงโดยตรง ส่วนงานของกระทรวงมหาดไทยนั้นเป็นเพียงแนวการปฏิบัติ ทั้งนี้จะมีการกำชับผู้ว่าฯเรื่องทำพื้นที่ให้ปลอดภัย ตั้งแต่นาทีนี้เป็นต้นไปไม่ควรที่จะให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นมาอีก ถ้าต้องมีเหตุการณ์เกิดขึ้นมาอีกก็ต้องมาดูว่าเป็นเหตุสุดความสามารถหรือเหตุความบกพร่อง สิ่งที่เรากังวลในเวลานี้คือการเกิดอัคคีภัยตามสถานที่ราชการ หน่วยงานราชการต่างๆเราได้เน้นย้ำเป็นพิเศษอย่าให้เกิดเหตุ ผู้สื่อข่าวถามตอนนี้เหตุการณ์เรียกว่าสงบหรือยัง นายกฤษฎา กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายร่วมมือกันอย่างดี จะเห็นได้ว่าเหตุเกิดในเวลา 22.00 น. ใช้เวลาครึ่งชั่วโมงเราสามารถนำนักท่องเที่ยวไปยังโรงพยาบาลได้ ไม่สับสน นายอำเภอเข้าไปดูแลได้ และสิ่งที่น่ายกย่องมีอาสาสมัครภาคประชาชนที่อ.หัวหิน รวมกับสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนเข้าไปอุ้มคนเจ็บทั้งชาวไทยและต่างชาติไปส่งโรงพยาบาล ทำให้เหตุการณ์คลี่คลายได้เร็ว ตนและเจ้าหน้าที่พร้อมที่จะดูแลบ้านเมืองของเราให้สงบสุขและขอความร่วมมือให้ประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตาร่วมมือกัน และเราจะก้าวไปด้วยกันทำให้ประเทศเรามีความมั่นคง เดินหน้าต่อไป นายกฤษฎา กล่าว.