ค่ำวันที่ 18 มกราคม 2563 ที่ลานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เขตเทศบาลเมืองหนองคาย ฯพณฯ กงสุลใหญ่ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ประจำจังหวัดขอนแก่น Mr.Hoang Ngoc Son ,นายณัฐวัสส์ วิริยานภาภรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ,นายยุทธนา ศรีตะบุตร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคาย ร่วมงานประเพณี ต้อนรับเทศกาลเต็ด (ปีใหม่เวียดนาม) ประจำปี 2020 ภายในงานมีทั้งนักธุรกิจไทยและเวียดนาม พร้อมทั้งคนไทยเชื้อสายเวียดนามในจังหวัดหนองคาย เข้าร่วมงานจำนวนมาก นายยุทธนา ศรีตะบุตร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า “เทศกาลเต็ด” เป็นเทศกาลอรุณแรกแห่งปี มีชื่อเต็มว่า “เต็ดเหวียนดาน” หรือตรุษเต็ด ถือเป็นเทศกาลขึ้นปีใหม่ที่สำคัญที่สุดของชาติเวียดนาม โดยเป็นวัฒนธรรม ประเพณีที่ดีงามของชาวเวียดนาม เปรียบเสมือนดั่งการเริ่มต้นใหม่ที่สำคัญคือ เป็นการเชื่อมโยงอดีตและปัจจุบันของครอบครัว “จากรุ่นสู่รุ่น” เป็นโอกาสอันดี สมาชิกของครอบครัว จะมาพร้อมหน้าพร้อมตากัน ระลึกถึงบรรพบุรุษ เทพเจ้า สะท้อนให้เห็นถึงความกตัญญูตามขนบธรรมเนียมความเชื่อ ตลอดจนเป็นช่วงเวลาของการส่งความสุข การอวยพรที่ผู้สูงอายุจะให้พรแก่ลูกหลาน ให้ประสบความสำเร็จในชีวิต ทั้งการเรียน หน้าที่การงาน การประกอบธุรกิจมีความเจริญรุ่งเรือง มีความเป็นอยู่ที่สมบูรณ์พูนสุข ส่วนลูกหลาน ก็จะร่วมกัน อวยพรให้ปู่ ย่า ตา ยาย พ่อ แม่ มีสุขภาพแข็งแรง มีอายุยืนยาว ซึ่งเทศกาลเต็ด เป็นประเพณี ที่ชาวเวียดนามทั่วโลก ให้ความสำคัญ และยึดถือปฏิบัติ เป็นประเพณี วัฒนธรรมที่ดีงาม จากรุ่นสู่รุ่นตลอดมา นายยุทธนา ศรีตะบุตร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคาย กล่าวให้ข้อมูลเกี่ยวกับวันเฉลิมฉลองเทศกาลเต็ด (ปีใหม่เวียดนาม)อีกว่า ประเพณีตรุษญวน หรือปีใหม่ของชาวเวียดนาม มีลักษณะเหมือนกับประเพณีตรุษจีนของชาวจีน ในอดีตสมัยที่เวียดนามตกเป็นเมืองขึ้นของจีนนานนับพันปี วัฒนธรรมทางความเชื่อและการดำรงชีวิตตลอดจนภาษาต่างก็ได้รับอิทธิพลจากจีนทั้งสิ้น ปฏิทินทางจันทรคติของเวียดนามจะตรงกับปฏิทินทางจันทรคติของจีน ดังนั้นวันตรุษญวนหรือวันขั้นปีใหม่เวียดนามจะตรงกับวันที่ 1 เดือน 1 ตามปฏิทินจันทรคติ หรือตรงกับวันตรุษจีนนั่นเอง ตรุษญวนในภาษาเวียดนามเรียกว่า เต๊ตเงวียนด๊าน (Tết Nguyên Đán) แปลว่าเทศกาลต้อนรับแสงรุ่งอรุณของปีใหม่ ในการเฉลิมฉลองเทศการตรุษญวนจะเริ่มขึ้นในวันที่ 23 เดือน 12 ตามปฏิทินจันทรคติของเวียดนาม (เจ็ดวันก่อนตรุษญวน) วันนี้จะมีการไหว้เทพเจ้าแห่งเตาไฟ ในภาษาเวียดนามเรียกว่า องต๊าว (Ông Táo) หรือ ต๊าวเกวิน (Táo Quân) เทพเจ้าเตาเป็นเทพเจ้าที่คอยสอดส่องดูแลความเป็นไปทุกอย่างภายในบ้าน เทพเจ้าเตาของเวียดนามมีสามองค์ ซึ่งแตกต่างกับของจีน พอถึงวันที่ 23 เดือน 12 จะมีการเซ่นไหว้เทพเจ้าโดยวัตถุประสงค์คือเพื่อส่งเทพเจ้าขึ้นสวรรค์ ในพิธีจะมีการไหว้ปลาคร๊าฟ ซึ่งเทพเจ้าจะขึ้นสวรรค์โดยขี่ปลาคร๊าฟนี้ พอไหว้เสร็จก็จะนำปลาคร๊าฟไปปล่อยในแม่น้ำหรือหนองน้ำเพราะเชื่อว่าปลาคร๊าฟจะแปลงกลายเป็นมังกรพาเทพเจ้าขึ้นสู่สวรรค์ หลังจากนั้นจะมีการทำความสะอาดบ้านเรือนประดับตกแต่งสวยงานเพื่อต้อนรับเทศกาลตรุษญวนที่จะมาถึง หลังจากไหว้เทพเจ้าเตาในวันที่ 23 เดือน 12 แล้ว พอถึงวันที่ 30 เดือน 1 ตามปฏิทินจันทรคติของเวียดนาม (ก่อนตรุษจีนหนึ่งวัน) จะมีการไหว้บรรพบุรุษเพื่อเชิญบรรพบุรุษกลับมาร่วมเฉลิมฉลองในเทศกาลตรุษญวน โดยญาติพี่น้องทุกคนที่อยู่ไกลบ้านจะต้องกลับมาเพื่อรวมกันพร้อมหน้าพร้อมตาในวันปีใหม่ การไหว้บรรพบุรุษจะเริ่มขึ้นในช่วงบ่าย การไหว้มีสองแบบคือ แบบที่หนึ่ง คือไหว้แบบไปเชิญวิญญาณบรรพบุรุษที่สุสานคือลูกหรือหลานชายจะต้องน้ำของไหว้ไปไหว้เชิญวิญญาณบรรพบุรุษที่สุสานบริเวณหลุมศพของบรรพบุรุษทุกคน จากนั้นพูดเชิญวิญญาณกลับบ้าน ในระหว่างทางมีข้อห้ามว่าห้ามพูดจากับใครเด็ดขาด พอถึงบ้านก็เริ่มพิธีไหว้ต้อนรับบรรพบุรุษที่บ้าน แบบที่สอง คือไหว้แบบไม่ไปเชิญวิญญาณบรรพบุรุษที่สุสาน โดยจะไม่มีการนำของไหว้ไปไหว้ที่สุสานแต่จะไหว้ที่เชิญวิญญาณที่บ้านพร้อมกับไหว้ต้อนรับบรรพบุรุษ หลังจากไหว้ต้อนรับบรรพบุรุษกลับมาบ้านเสร็จ ลูกหลานทุกคนก็ร่วมกันเฉลิมฉลองรับประทานอาหารร่วมกันอย่างพร้อมหน้า ของไหว้ในวันเทศกาลตรุษญวนจะมีของสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยในเทศกาลนี้ก็คือ บั๊ญจึง(Bánh Chưng) หรือข้าวต้มมัดญวน จะมีลักษณะเป็นห่อสี่เหลี่ยมจัตุรัส ห่อด้วยใบตอง ภายในจะมีข้าวเหนียว ถั่วเหลือง และหมูสามชั้น แบ๋งจึงถือเป็นขนมประจำเทศกาลตรุษญวน มีต้นกำเนิดในสมัยกษัตริย์หุ่งเวือง (Hùng Vương) ซึ่งเป็นกษัตริย์องค์แรกของเวียดนาม หลังจากไหว้ต้อนรับบรรพบุรุษกลับมาบ้านเสร็จ ลูกหลานทุกคนก็ร่วมกันเฉลิมฉลองรับประทานอาหารร่วมกันอย่างพร้อมหน้า พอถึงเวลาเที่ยงคืนจะมีการไหว้ต้อนรับปีใหม่ โดยจะไหว้ที่โต๊ะไหว้บรรพบุรุษเพื่ออธิษฐานให้บรรพบุรุษคุ้มครองลูกหลาน ดลบันดาลให้ทุกคนในครอบครัวทำมาค้าขึ้น สุขภาพร่างการแข็งแรก พบแต่สิ่งดีๆในปีใหม่ พอไหว้เสร็จลูกหลานทุกคนจะอวยพรญาติผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่ก็จะอวยพรลูกหลานและมีการให้อั่งเปา ซึ่งอั่งเปาในภาษาเวียดนามเรียกว่า หมึ่งต๋วย(Mừng Tuổi) เพื่อเป็นสิริมงคลกับทุกคนในครอบครัว พิธีต่อมาคือการไปเด็ดเอายอดกิ่งไม้ที่เพิ่งงอกตามถนนหนทางใกล้บ้านเพื่อเอามาปักในแจกันบูชาบรรพบุรุษ ซึ่งมีความเชื่อว่าจะนำผาโชคลาภมาให้ ดังนั้นผู้คนส่วนใหญ่จึงเลือกไปเด็ดเอายอดไม่นี้มาเพื่อเป็นสิริมล ภาษาเวียดนามเรียกการเด็ดเอายอดไม้นี้ว่า หายหลก (Hái Lộc) พอถึงเช้าวันที่ 1 เดือน 1 ตามปฏิทินจันทรคติของเวียดนาม ซึ่งถือเป็นวันปีใหม่หรือวันตรุษญวน จะมีการไหว้บรรพบุรุษในวันปีใหม่ครั้งใหญ่ ของไหว้จะมีมากมายหลายอย่าง เพราะเชื่อว่าจะส่งผลต่อความอุดมสมบูรณ์ของครอบครัวตลอดปี หลังจากนั้นญาติพี่น้องที่อยู่คนละบ้านจะเริ่มไปอวยพรตามบ้านญาติและคนสนิท ซึ่งคนเวียดนามมีความเชื่อว่าคนที่ก้าวเท้าเข้ามาในบ้านคนแรกจะเป็นคนที่กำหนดความเป็นไปในบ้าน ดังนั้นคนเวียดนามส่วนใหญ่จึงมักเลือกคนที่เหมาะสมกับบ้านตัวเองเพื่อเป็นสิริมงคล ซึ่งบ้านไหนที่กำลังอยู่ในระหว่างไว้ทุกข์ คนที่ป่วยไม่สบาย และคนที่กำลังอุ้มท้องจะไม่ไปอวยพรใคร และคนอื่นก็จะไม่เข้ามาอวยพรบ้านที่กำลังไว้ทุกข์ คนเวียดนามเรียกธรรมเนียมนี้ว่า ซงหญ่า (Xông Nhà) หากบ้านไหนโชคไม่ดีมีคนในบ้านเสียชีวิตในช่วงเทศกาลตรุษญวนจะจัดงานศพแต่จะยังไม่ไว้ทุกข์ (จะยังไม่ใส่ชุดไว้ทุกข์สีขาว) หากเสียชีวิตก่อนวันที่ 1 เดือน 1 ตามปฏิทินจันทรคติของเวียดนาม จะต้องทำพิธีศพและฝังศพให้เสร็จก่อนวันที่ 1 เดือน 1 แต่หากเสียชีวิตในวันช่วงวันที่ 1 เดือน 1 ก็ให้เริ่มจัดงานศพและใส่ชุดไว้ทุกข์ได้ตามธรรมเนียมในวันต่อมาคือวันที่ 2 เดือน 1 ซึ่งคนรู้จักก็จะยังไม่ไปร่วมงานศพจนกว่าจะไหว้ส่งบรรพบุรุษที่บ้านซึ่งแสดงถึงการสิ้นสุดเทศกาลตรุษญวน สิ่งที่ห้ามทำในวันเทศกาลตรุษญวนคือ ห้ามกวาดบ้าน ถ้ากวาดก็ให้กวาดเข้า ห้ามพูดเรื่องไม่ดี ห้ามทะเลาะกัน ห้ามทวงหนี้และจ่ายหนี้ ห้ามยืมเงิน ห้ามไปงานศพหรือบ้านที่กำลังไว้ทุกข์ ห้ามไปเยี่ยมคนป่วย โดยปกติจะห้ามปฏิบัติสิ่งเหล่านี้ประมาณ 3 วันเพราะถือว่าเป็นช่วงเทศกาลปีใหม่ซึ่งปีใหม่แสดงถึงสิ่งดีๆ จะไดโชคดีตลอดปี หลังจากพิธีทุกอย่างเสร็จสิ้น พิธีไหว้ส่งบรรพบุรุษกลับสวรรค์จะทำในวันที่ 2 หรือ 3 เดือน 1 ทางจันทรคติเวียดนาม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับธรรมเนียมของแต่ละท้องถิ่น ซึ่งการไหว้ส่งบรรพบุรุษกลับสวรรค์จะมีการไหว้ใหญ่เป็นครั้งสุดท้าย ของไหว้จะถูกจัดแบบมากมายหลายอย่างเหมือนกับไหว้วันที่ 1 เดือน 1 การไหว้ส่งบรรพบุรุษจะต้องมีการไหว้ขอบคุณบรรพบุรุษที่คุ้มครองลูกหลานทุกคน และขอบคุณที่บรรพบุรุษที่ได้กลับมาร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษญวนกับลูกหลาน หลังจากนั้นก็เผากระดาษเงินกระดาษทองเพื่อให้บรรพบุรุษนำไปใช้ในปรโลก กระดาษเงินกระดาษทองที่ไหว้จะมากกว่าเทศกาลอื่น ๆ ในขณะที่เผากระดาษจะต้องมีการเทเหล้าขาวหนึ่งแก้วเล็กๆ ลงไปเพราะเชื่อว่าจะทำให้กระดาษเงินกระดาษทองเหล่านั้นใช้ได้จริงในปรโลก และพิธีตรุษญวนหรือปีใหม่เวียดนามก็ถือเป็นอันสิ้นสุด. ภัทรวินทร์ ลีปาน หนองคาย