“เปลี่ยนใจ” คณะกรรมการโรคติดต่อโคราช กลับลำเปิดหมู่บ้านท่าอ่าง แหล่งแพร่เชื้อโควิด-19 ป่วยพร้อมกัน 4 ราย แต่ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขเข้ม เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 13 เมษายน ที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ตอบโต้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หอประชุมเปรมติณสูลานนท์ ด้านหลังศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา พร้อมนายแพทย์นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) นครราชสีมา และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา ได้ประชุมหารือวาระการพิจารณาปัญหาของหมู่บ้านท่าอ่าง หมู่ 3 ต.ท่าอ่าง อ.โชคชัย เนื่องจากในรอบ 10 วัน พบการติดเชื้อโควิด-19 ในครอบครัวเดียวกัน 4 ราย และกลุ่มเสี่ยงสูงซึ่งเป็นคนในครอบครัวและเพื่อนบ้านส่วนหนึ่งไม่ให้ความร่วมมือการกักตัวเองในบ้านพัก ลักลอบออกไปร่วมงานอุปสมบทในละแวกหมู่บ้าน คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา จึงมีมติให้ปิดหมู่บ้านตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม ที่ผ่านมา เป็นเวลา 14 วัน ซึ่งครบกำหนดเปิดหมู่บ้านในวันนี้ (วันที่ 13 เม.ย ) แม้นไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่และเด็กหญิงอายุ 1 ปี 2 เดือน ผู้ติดเชื้อรายที่ 9 ซึ่งติดเชื้อจากผู้เป็นแม่ ผู้ติดเชื้อรายที่ 7 ผลตรวจซ้ำไม่มีการติดเชื้อ แต่หลักวิชาการสาธารณสุขหากติดเชื้อมากกว่า 1 คน ในพื้นที่เดียวกันต้องใช้ขยายเวลาเฝ้าระวัง 2 ระยะฟักตัวเชื้อโรคหรือ 24 วัน จึงมีมติให้ชะลอการเปิดหมู่บ้าน ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมหารือ น.พ.นรินทร์รัชต์ ฯ สสจ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า คณะกรรมการโรคติดต่อมีข้อสรุปให้เปิดหมู่บ้านได้ตั้งแต่บัดนี้ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไข ดังนี้ 1.การป้องกัน ควบคุมโรค 2.สิ่งแวดล้อม 3.สภาพจิตใจของชาวบ้านและ 4.ความพร้อมผู้นำชุมชน จากการประเมินมีความพร้อมทั้ง 4 ด้าน ฝ่ายควบคุม ป้องกันโรคมีความเข้าใจในระบบ สภาพแวดล้อมการจัดเก็บขยะติดเชื้อและทำความสะอาดบ้านพักรวมทั้งในละแวกหมู่บ้านเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สภาพจิตใจไม่พบภาวะเครียดสะสมและผู้นำได้จัดแบ่งหน้าที่เป็นอย่างดีและเงื่อนไขสุดท้าย คนที่กลับเข้าหมู่บ้าน โดยกลุ่มเสี่ยงสูงที่กักตัวเองครบ 14 วัน ต้องเฝ้าระวังต่ออีกให้ครบ 28 วัน หรือจนถึงวันที่ 24 เม.ย ตามหลักวิชาการที่พบผู้ติดเชื้อรายสุดท้าย สำหรับผู้ที่อยู่ในกลุ่มสัมผัสเสี่ยงต่ำ ต้องดูแลสุขภาพ หากมีอาการป่วยต้องรีบแจ้งอาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน (อสม.) หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทันที ส่วนละแวกบ้าน 2 หลัง ซึ่งเป็นที่พักของผู้ติดเชื้อต้องจัดเวรยามเฝ้าระวังเป็นพิเศษ รวมทั้งผู้ที่รักษาหาย การกลับเข้าสู่หมู่บ้าน ชุมชนต้องให้การยอมรับและไม่ตีตราเป็นคนแพร่เชื้อ เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับชุมชนอื่นๆทั้งนี้สถานการณ์การเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ทุกภาคส่วนได้คัดกรองประชาชนกลุ่มเสี่ยงตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม ที่ผ่านมา มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์ตรวจหาเชื้อ 622 ราย ไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ รวมจำนวนผู้ติดเชื้อสะสม 18 ราย รักษาหาย 5 ราย รอผลตรวจยืนยัน 5 ราย คาดจะมีข่าวดีที่เกี่ยวกับผู้ที่รักษาหายในเร็วๆนี้ นครราชสีมา/เกษม ชนาธินาถ