“บิ๊กเสือ” นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินงานของ “ไทยเฮ้าส์” ซึ่ง กกท.ต้องการมาเปิดครัวดูแลเรื่องอาหาร และยกทีมวิทยาศาสตร์การกีฬา มาบริการนักกีฬาไทยชุดโอลิมปิกเกมส์ ค.ศ.2016 ภาพรวมถือว่าการดำเนินการเป็นไปอย่างน่าพอใจตอนนี้ทีมงาน “ไทยเฮ้าส์” เริ่มแพ็คของเตรียมขนไปดำเนินการต่อในการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ 2016 ระหว่างวันที่ 7-18 ก.ย. ซึ่ง กกท.ได้เช่าบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ไว้ดำเนินการ เช่นเดียวกับทีมกายภาพ, วิทยาศาสตร์การกีฬา จะย้ายไปดำเนินการในที่เดียวกัน นายสกล กล่าวต่อว่า ภาพรวมนักกีฬาไทยถือว่าน่าพอใจ ที่จริงก่อนมาแข่งขันตนหวังไว้ที่ 3 เหรียญทอง ทั้งมีโอกาสแต่สุดท้ายจะได้ 2 เหรียญทอง, 2 เหรียญเงิน, 2 เหรียญทองแเดง กกท.จะทำแผน 4 ปีเก็บตัวระยะยาวเพื่อโอลิมปิกเกมส์ แยกจากแผนกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ที่ประเทศมาเลเซีย และจะหารือในคณะกรรมการเตรียมนักกีฬาไทยว่าจะสร้างเด็กอย่างไรไปสู้ เด็กชุดนี้ยังมีความแข็งแกร่ง หลายคนยังเป็นกำลังหลัก และจะมีการเสริมวิทยาศาสตร์การกีฬา เวชศาสตร์การกีฬามาเต็มรูปแบบ ตนเชื่อมั่นว่านักกีฬาไทยจะไม่พลาดเหรียญทองในอีก 4 ปีข้างหน้าที่ประเทศญี่ปุ่น ด้าน “แม่ปุก” นางกมลา ทองกร ผู้ปกครองของ “น้องเมย์” รัชนก อินทนนท์ นักแบดมือ 4 โลก เปิดเผยว่า การตกรอบ 16 คนสุดท้ายศึกนีโกมส์ ของรัชนก สาเหตุหลักเชื่อว่ามาจากความกดดัน ซึ่งหากมองในแง่บวก รัชนกจะได้มีแรงฮึดและมีเป้าหมายที่จะกลับมาในอีก 4 ปีข้างหน้า เพราะหากประสบความสำเร็จ ได้แชมป์มาหมดแล้ว อาจจะทำให้แรงจูงใจและความกระตือรือร้นในการเล่นแบดมินตันลดน้อยลง “ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนสำคัญอีกบทหนึ่งสำหรับโอลิมปิกเกมส์ครั้งที่สองของน้องเมย์ ครั้งแรก เมื่อ 4 ปีก่อนมาแข่งแบบไม่มีใครหวัง ก็ได้รับบทเรียนอีกอย่างหนึ่ง มาครั้งนี้ทุกคนคาดหวังเจอความกดดันและบทเรียนอีกอย่างหนึ่ง ทำให้เชื่อว่าในอีก 4 ปีข้างหน้าน้องเมย์จะใช้ประสบการณ์เหล่านี้มาเป็นบทเรียนและแก้ไขเพื่อกลับมาแก้ตัวที่ประเทศญี่ปุ่น” นางกมาลากล่าว